1
ปัญญานั้นดีเลิศและอยู่นิรันดร์กาล ปัญญามิได้ร้องเรียกหรือความเข้าใจมิได้เปล่งเสียงหรือ2
ณ ที่สูงที่ข้างทางที่กลางถนนปัญญาก็ยืนอยู่3
ข้างประตูหน้าเมืองที่ทางเข้ามุข ปัญญาก็ร้องเสียงดังว่า สภษ. 1:20-214
“โอ บรรดาผู้ชายเอ๋ย เราเรียกเจ้าและเสียงเรียกของเราไปถึงบุตรชายของมนุษย์5
โอ คนเขลา จงเข้าถึงความหยั่งรู้โอ คนโง่ จงเข้าใจ6
ฟังซิ เพราะเราจะพูดถึงสิ่งที่มีเกียรติเพราะสิ่งที่ชอบจะมาจากริมฝีปากของเรา7
เพราะปากของเราจะเปล่งความจริงความโหดร้ายเป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังต่อริมฝีปากของเรา8
บรรดาคำปากของเรานั้นชอบธรรมในนั้นไม่มีคำบิดหรือคำคด9
คำเหล่านั้นสำหรับผู้ที่เข้าใจก็ตรงหมดสำหรับผู้พบความรู้ก็ถูกต้อง10
จงรับคำสั่งสอนของเราแทนเงินและความรู้แทนทองคำอย่างดี11
เพราะปัญญาดีกว่าทับทิมและสิ่งที่เจ้าปรารถนาทั้งหมดจะเปรียบเทียบกับปัญญาไม่ได้12
เราคือปัญญา อยู่ในความหยั่งรู้และเราพบความรู้และความเฉลียวฉลาด13
ความยำเกรงพระเจ้าเป็นความเกลียดชังความชั่วร้ายเราเกลียดความเย่อหยิ่งและความจองหองและทางของความชั่วร้ายกับวาจาตลบตะแลง14
เรามีคำหารือและสติปัญญาเรามีความรอบรู้ เรามีกำลัง15
โดยเรานี่แหละพระราชาจึงปกครองและผู้ครอบครองจึงตรากฎหมายที่ยุติธรรม16
โดยเรานี่แหละเจ้านายได้ครอบครองคือบรรดาขุนนางผู้ปกครองแผ่นดินโลก17
เรารักบรรดาผู้ที่รักเราและบรรดาผู้ที่แสวงเราก็พบเรา18
ความมั่งคั่งและเกียรติอยู่กับเราทั้งทรัพย์ศฤงคารที่ทนทานและความชอบธรรม19
ผลของเราดีกว่าทองคำ แม้ทองคำนพคุณและผลได้ของเราดีกว่าเงินบริสุทธิ์20
เราดำเนินในทางแห่งความชอบธรรมในวิถีทั้งหลายของความยุติธรรม21
ประสาททรัพย์ศฤงคารแก่บรรดาผู้ที่รักเราบรรจุคลังทรัพย์ทั้งหลายของเขาให้เต็ม22
พระเจ้าได้ประทานกำเนิดแก่เราแล้วเมื่อพระองค์ทรงเริ่มงานของพระองค์ วว. 3:14คือเป็นสิ่งแรกในบรรดาพระราชกิจโบราณของพระองค์23
เราถูกสถาปนาไว้ ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มาแล้วตั้งแต่แรก ก่อนปฐมกาลของแผ่นดินโลก24
เราถือกำเนิดมาเมื่อก่อนมีมหาสมุทรเมื่อไม่มีน้ำพุที่มีน้ำมากมาย25
ก่อนการเนรมิตสร้างภูเขาก่อนเนินเขาเราก็ถือกำเนิดมาแล้ว26
ก่อนที่พระองค์ทรงสร้างแผ่นดินโลกทั้งไร่นาหรือก่อนผงคลีแรกของพิภพ27
เมื่อพระองค์ทรงสถาปนาฟ้าสวรรค์เราอยู่ที่นั่นแล้วเมื่อพระองค์ทรงลากเส้นรอบวงบนพื้นมหาสมุทร28
เมื่อทรงกระทำฟ้าเบื้องบนให้มั่นไว้เมื่อพระองค์ทรงสถาปนาน้ำพุของน้ำบาดาล29
เมื่อพระองค์ทรงกำหนดเขตจำกัดให้แก่ทะเลเพื่อว่าน้ำจะไม่ละเมิดพระบัญชาของพระองค์เมื่อพระองค์ทรงปักผังรากฐานของพิภพ30
เราอยู่ข้างพระองค์แล้ว เหมือนอย่างนายช่างเราเป็นความปีติยินดีประจำวันของพระองค์เปรมปรีดิ์อยู่ต่อพระพักตร์พระองค์เสมอ31
เปรมปรีดิ์ในพิภพที่มีคนอาศัยของพระองค์และปีติยินดีในบุตรชายของมนุษย์32
บุตรชายของเราเอ๋ย บัดนี้จงฟังเราบรรดาผู้ที่รักษาทางของเราก็อยู่สุขสงบ33
จงฟังคำสั่งสอน และจงฉลาดและอย่าเพิกเฉยเสีย34
ผู้ใดที่ฟังเรา ก็เป็นสุขคือเฝ้าอยู่ที่ประตูรั้วของเราทุกวันและคอยอยู่ข้างประตูบ้านของเรา35
เพราะผู้ใดที่พบเรา ก็พบชีวิตและได้รับความพอพระทัยจากพระเจ้า36
แต่ผู้ที่พลาดขาดเราก็กระทำตัวเองให้เจ็บบรรดาผู้ที่เกลียดเราก็รับความมรณา”