1
บรรพ 5 จงขอบพระคุณพระเจ้า ที่ทรงช่วยให้พ้นจากความลำบาก จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ประเสริฐเพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์1 พศด.16:24;2 พศด.5:13; 7:3; อสร.3:11; สดด.100:5; 106:1; 118:1; 136:1; ยรม.33:11
2
ให้ผู้ที่พระยาห์เวห์ทรงไถ่ไว้แล้วกล่าวดังนั้นเถิดคือผู้ที่ทรงไถ่ไว้จากมือของคู่อริ
3
และทรงรวบรวมเข้ามาจากแผ่นดินทั้งหลายจากตะวันออกและจากตะวันตกจากเหนือและจากใต้
4
บ้างก็พเนจรอยู่ในถิ่นทุรกันดารในที่แห้งแล้งหาไม่พบทางที่จะเข้านครซึ่งพอจะอาศัยได้
5
หิวโหยและกระหายจิตใจพวกเขาก็อ่อนระอาอยู่ภายใน
6
เมื่อมีความทุกข์ลำบาก เขาทั้งหลายได้ร้องทูลพระยาห์เวห์แล้วพระองค์ทรงช่วยกู้เขาให้พ้นจากความทุกข์ใจ
7
พระองค์ทรงนำเขาทั้งหลายไปในทางตรงจนเขามาถึงนครซึ่งพอจะอาศัยได้
8
ให้เขาทั้งหลายขอบพระคุณพระยาห์เวห์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์เพราะการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ทั้งหลาย
9
เพราะพระองค์ทรงให้ผู้ที่กระหายได้อิ่มเอมและผู้ที่หิว พระองค์ทรงให้เขาหนำใจด้วยของดี
10
บ้างก็นั่งอยู่ในความมืดและเงามัจจุราชถูกขังอยู่ด้วยความทุกข์ยากและติดตรวน
11
เพราะพวกเขากบฏต่อพระวจนะของพระเจ้าและหยามคำปรึกษาขององค์ผู้สูงสุด
12
พระองค์ทรงทำให้ใจของเขาทั้งหลายถ่อมลงด้วยงานหนักเขาสะดุดและไม่มีใครช่วย
13
เมื่อมีความทุกข์ลำบาก เขาทั้งหลายได้ร้องทูลพระยาห์เวห์แล้วพระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นจากความทุกข์ใจ
14
พระองค์ทรงนำเขาทั้งหลายออกมาจากความมืดและเงามัจจุราชและทรงหักโซ่ตรวนที่ล่ามตัวเขาให้ขาดสะบั้น
15
ให้เขาทั้งหลายขอบพระคุณพระยาห์เวห์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์เพราะการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ทั้งหลาย
16
เพราะพระองค์ทรงพังประตูทองสัมฤทธิ์และทรงตัดซี่ลูกกรงเหล็กเสีย
17
บ้างก็เป็นคนโง่ เพราะทางแห่งการละเมิดของพวกเขาและเพราะความชั่วของพวกเขา พวกเขาต้องทนทุกข์
18
เขาทั้งหลายรังเกียจอาหารทุกชนิดและเข้าไปใกล้ประตูความตาย
19
เมื่อมีความทุกข์ลำบาก เขาทั้งหลายได้ร้องทูลพระยาห์เวห์แล้วพระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นจากความทุกข์ใจ
20
พระองค์ทรงใช้พระวจนะของพระองค์ไปรักษาเขาทั้งหลายและทรงช่วยกู้เขาจากหลุมมรณา
21
ให้เขาทั้งหลายขอบพระคุณพระยาห์เวห์เพราะความรักมั่นคงของพระองค์เพราะการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ทั้งหลาย
22
และให้เขาทั้งหลายถวายเครื่องบูชาขอบพระคุณและเล่าพระราชกิจของพระองค์ด้วยการร้องเพลงอย่างชื่นบาน
23
บ้างก็ลงเรือไปในทะเลทำอาชีพอยู่บนน้ำกว้างใหญ่
24
เขาทั้งหลายได้เห็นพระราชกิจของพระยาห์เวห์คือการอัศจรรย์ต่างๆ ในที่น้ำลึก
25
เพราะพระองค์ทรงบัญชาให้เกิดลมพายุซึ่งโหมให้คลื่นทะเลกำเริบ
26
คนเหล่านั้นถูกซัดขึ้นไปสู่ท้องฟ้า และลงไปสู่ที่ลึกจิตใจของเขาฝ่อไปในเหตุร้ายของเขา
27
เขาทั้งหลายถลาและโซเซไปอย่างคนเมาและหมดปัญญา
28
เมื่อมีความทุกข์ลำบาก เขาทั้งหลายได้ร้องทูลพระยาห์เวห์แล้วพระองค์ทรงนำเขาออกจากความทุกข์ใจ
29
พระองค์ทรงทำให้พายุสงบลงและคลื่นทะเลก็นิ่ง
30
แล้วเขาทั้งหลายก็ยินดีเพราะมีความสงบและพระองค์ทรงนำเขามาถึงเมืองท่าที่เขาปรารถนา
31
ให้เขาทั้งหลายขอบพระคุณพระยาห์เวห์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์เพราะการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ทั้งหลาย
32
ให้เขาทั้งหลายยกย่องพระองค์ในการชุมนุมของประชาชนและสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุมของผู้อาวุโส
33
พระองค์ทรงเปลี่ยนแม่น้ำให้เป็นถิ่นทุรกันดารน้ำพุให้เป็นดินแห้งผาก
34
แผ่นดินที่มีผลดกให้เป็นที่ร้างเปล่าและเค็มเพราะความชั่วร้ายของชาวแผ่นดินนั้น
35
พระองค์ทรงเปลี่ยนถิ่นทุรกันดารให้เป็นสระน้ำแผ่นดินแห้งผากให้เป็นน้ำพุ
36
และพระองค์ทรงให้คนหิวโหยอาศัยที่นั่นและพวกเขาสถาปนานครซึ่งพอจะอาศัยได้
37
เขาทั้งหลายหว่านนา และปลูกสวนองุ่นและได้ผลดกมาก
38
พระองค์ทรงอวยพรเขาทั้งหลาย เขาจึงทวีผลมากยิ่งและพระองค์มิได้ทรงให้สัตว์ของเขาลดจำนวนลง
39
เมื่อเขาทั้งหลายถูกลดทอนจำนวนลงและถูกเหยียดให้ต่ำโดยการบีบบังคับกับความยากลำบากและความทุกข์โศก
40
พระองค์ทรงเทความดูหมิ่นลงบนเจ้านายทรงทำให้พวกเขาพเนจรไปในที่ร้างเปล่าซึ่งไม่มีหนทาง
41
แต่พระองค์ทรงยกคนขัดสนขึ้นจากความทุกข์ยากและทรงทำให้ครัวเรือนของพวกเขามากอย่างฝูงแพะแกะ
42
คนเที่ยงธรรมเห็นและยินดีและความโหดร้ายทั้งปวงก็ปิดปากของมัน
43
ผู้ใดมีปัญญาก็ให้เขาฟังสิ่งเหล่านี้ให้เขาพิจารณาถึงความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์