1
พระเจ้าทรงดูแลสิ่งที่ได้ทรงสร้าง จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ พระองค์ใหญ่ยิ่งนักพระองค์ทรงพระสิริและความสง่างามเป็นฉลองพระองค์
2
ผู้ทรงคลุมพระองค์ด้วยแสงสว่างดุจอาภรณ์ผู้ทรงขึงฟ้าสวรรค์ออกดังขึงม่าน
3
ผู้ทรงวางคานที่ประทับอันสูงของพระองค์ข้อ 3-5 เนื้อความกล่าวถึงพระเจ้า ดังนั้นคำสรรพนามที่ใช้จึงเป็นคำสรรพนามบุรุษที่สามไว้ในน้ำผู้ทรงใช้เมฆเป็นราชรถผู้ประทับไปบนปีกของลม
4
ผู้ทรงใช้ลมเป็นทูตสื่อสารทรงใช้ไฟที่ลุกโชนเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ฮบ.1:7
5
พระองค์ทรงตั้งแผ่นดินโลกไว้บนรากฐานของมันเพื่อมิให้มันสั่นคลอนเป็นนิตย์นิรันดร์
6
พระองค์ข้อ 6-9 เป็นคำสรรพนามบุรุษที่สองทรงคลุมมันไว้ด้วยน้ำลึกอย่างคลุมด้วยเครื่องนุ่งห่มน้ำอยู่เหนือภูเขา
7
เมื่อพระองค์ทรงกำราบ น้ำนั้นก็หนีไปพอได้ยินเสียงฟ้าร้องของพระองค์ มันก็วิ่งไป
8
ไหลขึ้นภูเขา ไหลลงหุบเขาไปไหลไปยังที่ซึ่งพระองค์ทรงกำหนดไว้ให้อยู่นั้น
9
พระองค์ทรงวางขอบเขตมิให้มันข้ามเพื่อมิให้มันคลุมแผ่นดินโลกอีก
10
พระองค์ข้อ 10-19 เป็นคำสรรพนามบุรุษที่สามทรงทำให้น้ำพุพลุ่งขึ้นมาในหุบเขาน้ำนั้นก็ไหลไปตามหว่างเขา
11
ให้บรรดาสัตว์ป่าได้ดื่มและให้ลาป่าดับความกระหายของมัน
12
ที่ริมน้ำนั้น นกในอากาศจึงได้มีที่อาศัยมันร้องอยู่ท่ามกลางกิ่งไม้
13
พระองค์ทรงรดน้ำภูเขาจากที่ประทับอันสูงของพระองค์แผ่นดินโลกก็อิ่มด้วยผลแห่งพระราชกิจของพระองค์
14
พระองค์ทรงให้หญ้างอกมาเพื่อสัตว์เลี้ยงและให้ผักแก่มนุษย์ได้เพาะปลูกเพื่อเขาจะทำให้เกิดอาหารจากแผ่นดิน
15
และเหล้าองุ่น ซึ่งให้ใจมนุษย์ยินดีน้ำมัน เพื่อทำให้หน้าของเขาทอแสงและอาหาร ซึ่งเสริมเรี่ยวแรงแก่ใจมนุษย์
16
บรรดาต้นไม้ของพระยาห์เวห์ได้อิ่มหนำคือต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอน ซึ่งพระองค์ได้ทรงปลูกไว้
17
นกสร้างรังของมันอยู่ในนั้นส่วนนกยางมีต้นสนสามใบเป็นบ้านของมัน
18
ภูเขาสูงเป็นของเลียงผาหินเป็นที่ลี้ภัยของตัวกระจงผา
19
พระองค์ทรงตั้งดวงจันทร์ให้กำหนดฤดูดวงอาทิตย์รู้จักเวลาตกของมัน
20
พระองค์คำสรรพนามบุรุษที่สองทรงให้เกิดความมืด และนั่นเป็นกลางคืนในเวลาเช่นนั้น สัตว์ทั้งสิ้นของป่าไม้คลานออกมา
21
สิงโตหนุ่มคำรามหาเหยื่อและแสวงหาอาหารของมันจากพระเจ้า
22
เมื่อดวงตะวันขึ้น มันก็ไปเสียไปนอนอยู่ในถ้ำของมัน
23
มนุษย์ก็ออกไปทำงานของเขาไปทำภารกิจของเขาจนเวลาเย็น
24
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระราชกิจของพระองค์ข้อ 24-30 เป็นคำสรรพนามบุรุษที่สองมากมายจริงๆพระองค์ทรงสร้างทุกสิ่งด้วยพระปัญญาแผ่นดินโลกเต็มไปด้วยสิ่งที่ทรงสร้าง
25
ทะเลอยู่ข้างโน้น ทั้งใหญ่และกว้างในนั้นมีสิ่งเคลื่อนไหวนับไม่ถ้วนคือสิ่งมีชีวิตทั้งเล็กและใหญ่
26
กำปั่นเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งแล่นไปโน่นแน่ะและเลวีอาธานสัตว์ทะเลในตำนานที่มีขนาดมหึมาโยบ41:1; สดด.74:14; อสย.27:1ที่พระองค์ทรงสร้างไว้ให้เล่นในนั้น
27
สิ่งทั้งหมดนี้แหงนหาพระองค์เพื่อให้พระองค์ประทานอาหารแก่มันตามเวลา
28
เมื่อพระองค์ประทาน มันก็เก็บไปเมื่อพระองค์แบพระหัตถ์ออก มันก็อิ่มหนำด้วยของดี
29
เมื่อพระองค์ซ่อนพระพักตร์เสีย มันก็ลำบากใจเมื่อพระองค์ทรงเอาลมหายใจมันไปเสีย มันก็ตาย และกลับเป็นผงคลี
30
เมื่อพระองค์ทรงส่งลมหายใจของพระองค์ออกไป มันก็ถูกสร้างขึ้นมาและพระองค์ก็ทรงเปลี่ยนโฉมหน้าของพื้นดินเสียใหม่
31
ขอพระสิริของพระยาห์เวห์ดำรงอยู่เป็นนิตย์ขอพระยาห์เวห์ทรงยินดีในบรรดาพระราชกิจของพระองค์พระองค์ ในข้อ 31-34 เป็นคำสรรพนามบุรุษที่สาม
32
พระองค์ทอดพระเนตรโลก มันก็สั่นสะท้านพระองค์ทรงแตะต้องภูเขา มันก็มีควันขึ้นมา
33
ข้ามีชีวิตอยู่ตราบใด ข้าจะร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์ขณะข้ายังเป็นอยู่ ข้าจะร้องเพลงสดุดีถวายพระเจ้าของข้า
34
ขอให้การภาวนาของข้าเป็นสิ่งที่พอพระทัยข้ายินดีในพระยาห์เวห์
35
ขอให้คนบาปถูกผลาญเสียจากแผ่นดินโลกและขออย่าให้มีคนอธรรมอีกเลยจิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์สรรเสริญพระยาห์เวห์ภาษาฮีบรูคือ ฮาเลลูยาห์