1
ขู่เยเรมีย์ว่าจะต้องตาย ในต้นรัชกาลของเยโฮยาคิม 2 พกษ. 23:36-24:6;2 พศด. 36:5-7 ราชบุตรของโยสิยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ พระวจนะนี้มาจากพระเจ้า2
“พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงยืนอยู่ในลานพระนิเวศแห่งพระเจ้า และจงพูดกับบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ ซึ่งมานมัสการในพระนิเวศของพระเจ้า คือพูดบรรดาถ้อยคำที่เราสั่งเจ้าให้พูดกับเขา อย่าเก็บไว้สักคำเดียว3
บางทีเขาจะฟัง และทุกคนจะกลับจากทางชั่วของเขา และเราจะกลับใจไม่ทำโทษซึ่งเราเจตนา จะกระทำต่อเขาทั้งหลาย เนื่องด้วยการกระทำที่ชั่วช้าของเขาทั้งหลาย4
เจ้าจงพูดกับเขาทั้งหลายว่า “พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ถ้าเจ้าทั้งหลายไม่ฟังเรา ที่จะดำเนินตามพระธรรมที่เราได้วางไว้ต่อหน้าเจ้า5
และเชื่อฟังถ้อยคำของบรรดาผู้รับใช้ของเรา คือบรรดาผู้เผยพระวจนะ ซึ่งเราได้ส่งไปหาเจ้าอย่างไม่หยุดยั้ง ถึงเจ้าจะมิได้เชื่อฟัง6
แล้วเราจะกระทำให้พระนิเวศนี้เหมือนอย่างชิโลห์ ยชว. 18:1; สดด. 78:60; ยรม. 7:12-14 และเราจะกระทำให้เมืองนี้เป็นที่สาปแก่บรรดาประชาชาติทั่วโลก”7
บรรดาปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะ และประชาชนทั้งสิ้นได้ยินเยเรมีย์ พูดถ้อยคำเหล่านี้ในพระนิเวศของพระเจ้า8
และเมื่อเยเรมีย์ได้จบคำพูดทั้งสิ้น ซึ่งพระเจ้าได้บัญชาท่านให้พูดแก่ประชาชนนั้น บรรดาปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะและประชาชน ทั้งสิ้นได้จับเยเรมีย์กล่าวว่า “เจ้าจะต้องตาย9
ทำไมเจ้าจึงเผยพระวจนะในพระนามของพระเจ้าว่า ‘พระนิเวศนี้จะเหมือนชิโลห์และเมืองนี้จะร้างเปล่า ไม่มีชาวเมืองอยู่’ ” และประชาชนทั้งสิ้นก็ รวบรวมกันเข้ามาหาเยเรมีย์ที่พระนิเวศของพระเจ้า10
เมื่อบรรดาเจ้านายแห่งยูดาห์ได้ยินสิ่งเหล่านี้แล้ว ท่านก็ขึ้นมาจากพระราชวังถึงพระนิเวศของพระเจ้า และมานั่งในทางเข้าประตูใหม่แห่งพระนิเวศของพระเจ้า11
แล้วบรรดาปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะจึงทูล เจ้านายและบอกประชาชนทั้งปวงว่า “ชายคนนี้ควรแก่การตัดสินลงโทษถึงความตาย เพราะเขาเผยพระวจนะกล่าวโทษเมืองนี้ ดังที่ท่านทั้งหลายได้ยินกับหูของท่านเองแล้ว”12
เยเรมีย์จึงทูลเจ้านายทั้งสิ้นและบอกประชาชนทั้งปวงว่า “พระเจ้าทรงใช้ให้ข้าพเจ้ามาเผยพระวจนะต่อพระนิเวศ และเมืองนี้ ตามถ้อยคำทั้งสิ้นซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินมา13
เพราะฉะนั้น บัดนี้ท่านทั้งหลายจงแก้ไขพฤติการณ์ และการกระทำของท่านทั้งหลายและ เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และพระเจ้าจะทรงกลับพระทัยจากโทษ ซึ่งพระองค์ได้ทรงกำหนดให้ท่าน14
แต่ส่วนตัวข้าพเจ้า ดูเถิด ข้าพเจ้าอยู่ในมือของท่านทั้งหลาย ท่านจงกระทำแก่ข้าพเจ้าตามที่ท่านเห็นดีและเห็นชอบ15
ขอแต่เพียงให้ทราบแน่ว่า ถ้าท่านประหารข้าพเจ้าที่คนไร้ความผิดต้องตายนั้น ตัวท่านเองและเมืองนี้และชาวเมืองนี้ต้องรับผิดชอบ เพราะความจริงพระเจ้าทรงใช้ให้ข้าพเจ้ามาพูด ถ้อยคำเหล่านี้ทั้งสิ้นให้เข้าหูของท่าน”16
แล้วเจ้านายและประชาชนทั้งสิ้นได้พูดกับบรรดาปุโรหิต และผู้เผยพระวจนะว่า “ชายผู้นี้ไม่สมควรที่จะต้องคำพิพากษาถึงความตาย เพราะเขาได้พูดกับเราในพระนามของพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเรา”17
และผู้ใหญ่บางคนแห่งแผ่นดินนั้นก็ลุกขึ้นพูดกับ ประชาชนทั้งสิ้นที่ประชุมกันอยู่ว่า18
“มีคาห์ชาวเมืองโมเรเชทได้เผยพระวจนะ ในสมัยเฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ และกล่าวแก่ประชาชนทั้งสิ้นของยูดาห์ว่า ‘พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่าเมืองศิโยนจะถูกไถเหมือนกับไถนากรุงเยรูซาเล็มจะกลายเป็นกองสิ่งปรักหักพังและภูเขาที่ตั้งของนิเวศนั้นจะเป็นที่สูงมีป่าไม้’ มคา. 3:1219
เฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ และคนยูดาห์ทั้งสิ้นได้ฆ่าเขาเสียหรือ ท่านไม่ยำเกรงพระเจ้าและทูลวิงวอนขอพระเจ้าหรือ และพระเจ้ามิได้กลับพระทัยต่อโทษซึ่งพระองค์ทรง กำหนดให้เขาเหล่านั้นหรือ แต่เรากำลังจะนำเหตุร้ายใหญ่ยิ่งมาสู่ตัวเราเอง”20
ยังมีชายอีกคนหนึ่งผู้เผยพระวจนะในพระนามของพระเจ้า ชื่ออุรีอาห์ บุตรเชไมอาห์ ชาวคีริยาทเยอาริม ท่านได้เผยพระวจนะกล่าวโทษเมืองนี้ และแผ่นดินนี้เป็นถ้อยคำคล้ายคลึงกับของเยเรมีย์21
และเมื่อกษัตริย์เยโฮยาคิม พร้อมกับบรรดาทแกล้วทหาร และบรรดาเจ้านายได้ยินถ้อยคำนี้ พระราชาก็ทรงแสวงหาจะสังหารท่านเสีย และเมื่ออุรีอาห์ได้ทราบเรื่อง ท่านก็กลัวจึงหนีรอดไปยังอียิปต์22
แล้วกษัตริย์เยโฮยาคิมก็ส่งชายบางคน คือเอลนาธันบุตรอัคโบร์และคนอื่นอีกไปยังอียิปต์23
และเขาทั้งหลายจับอุรีอาห์มาจากอียิปต์ และนำท่านมาถวายกษัตริย์เยโฮยาคิม พระองค์ทรงประหารท่านเสียด้วยดาบ และโยนศพเข้าไปในที่ฝังศพของคนสามัญ24
แต่มือของอาหิคัมบุตรชาฟานอยู่กับเยเรมีย์ ฉะนั้นเยเรมีย์จึงมิได้ถูกมอบให้ประชาชนประหารชีวิต