เย‌เร‌มีย์-51

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 พระเจ้าทรงพิพากษาลงโทษกรุงบาบิโลน พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า“ดูเถิด เราจะปลุกวิญญาณของผู้ทำลายต่อสู้กับบาบิโลนต่อสู้กับชาวประเทศเคลเดีย
  • 2 เราจะส่งผู้ฝัดไปยังบาบิโลนและเขาทั้งหลายจะฝัดมันและเขาทั้งหลายจะทำให้แผ่นดินของมันว่างเปล่าเมื่อเขาทั้งหลายมาล้อมมันไว้ทุกด้านในวันแห่งความยากลำบาก
  • 3 อย่าให้นักธนูโก่งคันธนูได้อย่าให้เขาสวมเสื้อเกราะลุกขึ้นได้อย่าไว้ชีวิตคนหนุ่มๆของมันเลยจงทำลายพลโยธาของมันทั้งหมด
  • 4 เขาทั้งหลายจะถูกฆ่าล้มลงในแผ่นดินของชาวเคลเดียและบาดเจ็บอยู่ที่ถนนเมืองนั้น
  • 5 เพราะว่าอิสราเอลและยูดาห์มิได้ถูกทอดทิ้งโดยพระเจ้าของเขาทั้งหลายพระเจ้าจอมโยธาแต่แผ่นดินของชาวเคลเดียนั้นเต็มด้วยความผิดต่อองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
  • 6 “จงหนีเสียจากท่ามกลางบาบิโลนให้ทุกคนเอาชีวิตของตนรอดเถิดในการลงโทษมันนั้น เจ้าอย่าถูกตัดออกเลยเพราะนี่เป็นเวลาแก้แค้นแห่งพระเจ้าเป็นการซึ่งพระองค์ทรงตอบสนอง
  • 7 บาบิโลนได้เคยเป็นถ้วยทองคำในพระหัตถ์ของพระเจ้ากระทำให้แผ่นดินโลกทั้งสิ้นมึนเมาไปบรรดาประชาชาติได้ดื่มเหล้าองุ่นของมัน วว. 17:2-4; 18:3เพราะฉะนั้นประชาชาติต่างๆจึงบ้าไป
  • 8 บาบิโลนได้ล้มลงและแตกไปอย่างฉับพลันจงคร่ำครวญเพื่อมันเถิดจงเอาพิมเสนมาให้มันบรรเทาปวดชะรอยจะรักษามันให้หายได้กระมัง
  • 9 เราทั้งหลายอยากจะรักษาบาบิโลนให้หายแต่มันไม่หายละทิ้งมันเสียเถิดและให้เราไปต่างไปยังประเทศของตนเพราะว่าการพิพากษามันได้ขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ วว. 18:5และได้ถูกยกขึ้นถึงฟากฟ้า
  • 10 พระเจ้าทรงนำความยุติธรรมออกมาให้เรามาเถิด ให้เราประกาศพระราชกิจของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราที่ในศิโยน
  • 11 “จงฝนลูกธนูจงหยิบโล่ขึ้นมาพระเจ้าทรงเร้าใจบรรดากษัตริย์คนมีเดีย เพราะว่าพระประสงค์ของพระองค์เกี่ยวด้วยเรื่องบาบิโลน ก็คือการทำลายมันเสีย เพราะนั่นแหละเป็นการแก้แค้นของพระเจ้า คือการแก้แค้นแทนพระวิหารของพระองค์
  • 12 จงปักธงชิดบรรดากำแพงของบาบิโลนจงทำคนเฝ้าให้เข้มแข็งจงตั้งคนยามขึ้น จงเตรียมกองซุ่มไว้เพราะพระเจ้าทรงวางแผนงานและทั้งทรงกระทำเสร็จตามที่พระองค์ทรงลั่นพระวาจาเกี่ยวด้วยชาวเมืองบาบิโลน
  • 13 เจ้าผู้อาศัยตามน้ำมากหลาย วว. 17:1ผู้มีสมบัติมากมายเอ๋ยอวสานของเจ้ามาถึงแล้วเส้นชีวิตของเจ้าได้ถูกตัดขาดเสียแล้ว
  • 14 พระเจ้าจอมโยธาได้ทรงปฏิญาณเองว่าแน่ละ เราจะให้เจ้ามีคนเต็มเมือง ให้มากอย่างตั๊กแตนและเขาทั้งหลายจะเปล่งเสียงโห่ร้องมีชัยเหนือเจ้า
  • 15 “ผู้ทรงสร้างโลกด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ผู้ทรงสถาปนาพิภพไว้ด้วยพระสติปัญญาของพระองค์และทรงคลี่ท้องฟ้าออกด้วยความเข้าใจของพระองค์
  • 16 เมื่อพระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียงก็ มีเสียงน้ำคะนองในท้องฟ้าและทรงกระทำให้หมอกลอยขึ้นจากปลายพิภพทรงกระทำฟ้าแลบเพื่อฝนและทรงนำลมมาจากพระคลังของพระองค์
  • 17 มนุษย์ทุกคนบัดซบและไม่มีความรู้ช่างทองทุกคนจะได้อายเพราะรูปเคารพของตนเพราะรูปเคารพหล่อของเขาเป็นของเท็จและไม่มีลมหายใจในรูปเคารพนั้น
  • 18 มันเป็นของไร้ค่า และเป็นผลงานที่น่าเยาะเย้ยมันจะต้องพินาศเมื่อถึงเวลาการลงโทษ
  • 19 พระองค์ผู้ทรงเป็นส่วนของยาโคบไม่เหมือนสิ่งเหล่านี้เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ที่ก่อร่างทุกสิ่งขึ้นและอิสราเอลเป็นเผ่าที่เป็นมรดกของพระองค์พระเยโฮวาห์จอมโยธาเป็นพระนามของพระองค์
  • 20 “เจ้าเป็นค้อนและยุทโธปกรณ์ของเราเราทุบบรรดาประชาชาติเป็นชิ้นๆด้วยเจ้าเราทำลายราชอาณาจักรทั้งหลายด้วยเจ้า
  • 21 เราทุบม้าและคนขี่เป็นชิ้นๆด้วยเจ้าเราทุบบรรดารถรบและคนขับให้เป็นชิ้นๆด้วยเจ้า
  • 22 เราทุบผู้ชายและผู้หญิงเป็นชิ้นๆด้วยเจ้าเราทุบคนแก่และคนหนุ่มเป็นชิ้นๆด้วยเจ้าเราทุบคนหนุ่มและหญิงพรหมจารีเป็นชิ้นๆด้วยเจ้า
  • 23 เราทุบผู้เลี้ยงแกะและฝูงแกะเป็นชิ้นๆด้วยเจ้าเราทุบชาวนาและโคคู่แอกของเขาเป็นชิ้นๆด้วยเจ้าเราทุบเจ้าเมืองและปลัดเป็นชิ้นๆด้วยเจ้า
  • 24 “พระเจ้าตรัสว่า เราจะสนองบาบิโลนและบรรดาชาวประเทศ เคลเดียต่อหน้าต่อตาของเจ้า ซึ่งบรรดาความชั่วร้าย อันเขาได้กระทำในศิโยน
  • 25 “พระเจ้าตรัสว่า ภูเขาซึ่งทำลายเอ๋ยดูเถิด เราต่อสู้เจ้าเจ้าผู้ทำลายแผ่นดินโลกทั้งสิ้นเราจะเหยียดมือของเราออกต่อสู้เจ้าและกลิ้งเจ้าลงมาจากหน้าผาและกระทำให้เจ้าเป็นภูเขาที่ถูกไหม้
  • 26 เขาจะไม่เอาหินจากเจ้าไปทำศิลาหัวมุมและไม่เอาไปทำรากฐานแต่เจ้าจะเป็นของทิ้งร้างเป็นนิตย์พระเจ้าตรัสดังนี้
  • 27 “จงตั้งธงไว้บนแผ่นดินโลกจงเป่าเขาสัตว์ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลายจงเตรียมประชาชาติทั้งหลายไว้ทำสงครามกับมันจงเรียกราชอาณาจักรต่อไปนี้มาสู้กับมันอารารัต มินนี และอัชเคนัสจงตั้งจอมทัพไว้ต่อสู้มันจงทำม้าขึ้นเหมือนบุ้งคันระเกะระกะ
  • 28 จงเตรียมบรรดาประชาชาติมาทำสงครามกับมันคือเตรียมบรรดากษัตริย์แห่งมีเดียพร้อมทั้งเจ้าเมือง และปลัดทั้งหลายและทุกแผ่นดินที่ขึ้นแก่มีเดีย
  • 29 แผ่นดินที่สะเทือนสะท้าน และบิดตัวด้วยความเจ็บเพราะบรรดาพระประสงค์ของพระเจ้า ต่อบาบิโลนก็ตั้งมั่นอยู่ที่จะกระทำให้แผ่นดินบาบิโลนเป็นที่ร้างเปล่าปราศจากคนอาศัย
  • 30 นักรบแห่งบาบิโลนหยุดรบแล้วเขาทั้งหลายค้างอยู่ในที่กำบังเข้มแข็งของเขากำลังของเขาถอยเสียแล้วเขาทั้งหลายกลายเป็นเหมือนผู้หญิงที่อาศัยของมันก็กำลังไฟไหม้และดาลประตูของมันก็หัก
  • 31 นักวิ่งคนหนึ่งวิ่งไปพบนักวิ่งอีกคนหนึ่งทูตคนหนึ่งวิ่งไปพบทูตอีกคนหนึ่งเพื่อทูลกษัตริย์แห่งบาบิโลนว่าเมืองของพระองค์ถูกยึดไว้ทุกด้านแล้ว
  • 32 ท่าลุยข้ามก็ถูกยึดแล้วเครื่องป้องกันก็ถูกไฟไหม้และบรรดาทหารก็ระส่ำระสาย
  • 33 เพราะพระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่าบุตรีแห่งบาบิโลนก็เหมือนลานนวดข้าวณ เวลาที่มันถูกเหยียบย่ำอีกสักประเดี๋ยวเวลาเกี่ยวก็จะมาถึงแล้ว”
  • 34 “ให้ชาวเมืองศิโยนพูดว่า“เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้กินข้าพเจ้าเสียแล้วท่านได้ขย้ำข้าพเจ้าท่านได้ทำให้ข้าพเจ้าเป็นภาชนะว่างเปล่าท่านได้กลืนข้าพเจ้าดั่งจระเข้ท่านกินของอร่อยของข้าพเจ้าจนเต็มท้องและท่านได้ไล่ข้าพเจ้าออกไป
  • 35 ให้ชาวศิโยนกล่าวว่า“ความทารุณที่ได้กระทำแก่ข้าพเจ้าและแก่ญาติของข้าพเจ้า จงตกเหนือบาบิโลน”ให้เยรูซาเล็มกล่าวว่า“ที่ข้าพเจ้าต้องตายนั้นชาวประเทศเคลเดียก็รับผิดชอบ”
  • 36 เพราะฉะนั้น พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า“ดูเถิด เราจะแก้คดีของเจ้าและกระทำการแก้แค้นเพื่อเจ้าเราจะทำทะเลของมันให้แห้งและกระทำแหล่งน้ำของมันให้เหือด
  • 37 และบาบิโลนจะกลายเป็นสิ่งปรักหักพังเป็นที่ที่หมาป่าอยู่เป็นความหวาดเสียวและเป็นที่เยาะเย้ยปราศจากผู้คนอาศัย
  • 38 พระเจ้าตรัสว่า“เขาทั้งหลายจะคำรามด้วยกันอย่างสิงห์เขาทั้งหลายจะครางอย่างสิงห์หนุ่ม
  • 39 ขณะที่เขาทั้งหลายผ่าวร้อน เราจะเตรียมการเลี้ยงให้และกระทำให้เขาทั้งหลายมึนเมาจนเขาทั้งหลายจะสลบไสลไปและนอนหลับอยู่เป็นนิตย์ไม่ตื่นเลย
  • 40 เราจะนำเขาทั้งหลายลงมาดุจลูกแกะไปยังการฆ่าเหมือนแกะผู้และแพะผู้
  • 41 “บาบิโลนถูกยึดแล้วหนอซึ่งเป็นที่สรรเสริญของแผ่นดินโลกถูกจับแล้วเล่าบาบิโลนได้กลายเป็นความหวาดเสียวท่ามกลางบรรดาประชาชาติเสียแล้วหนอ
  • 42 ทะเลขึ้นมาเหนือบาบิโลนคลื่นอย่างสับสนอลหม่านคลุมมันไว้
  • 43 หัวเมืองของมันกลายเป็นความหวาดเสียวเป็นแผ่นดินที่แห้งแล้งและเป็นทะเลทรายเป็นแผ่นดินที่ไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่และไม่มีมนุษย์คนใดข้ามไป
  • 44 และเราจะลงโทษพระเบลในโลนท่านกลืนอะไรเข้าไปแล้ว เราจะเอาออกจากปากท่านเสียบรรดาประชาชาติจะไม่ไหลไปหาท่านอีกเออ กำแพงแห่งบาบิโลนล้มลงแล้ว
  • 45 “ประชากรของเราเอ๋ย จงออกไปเสียจากท่ามกลางมันให้ทุกคนเอาชีวิตของตนรอดจากความพิโรธอันร้อนแรงของพระเจ้าเถิด
  • 46 อย่าให้ใจของเจ้าวิตกและอย่าให้กลัวต่อข่าวซึ่งได้ยินในแผ่นดินนั้นเมื่อมีข่าวมาในปีหนึ่งต่อมาอีกปีหนึ่งก็มีข่าวมาและความทารุณก็มีอยู่ในแผ่นดินและผู้ครอบครองก็ต่อสู้กับผู้ครอบครอง
  • 47 “เพราะฉะนั้น ดูเถิด วันเวลาจะมาถึงเมื่อเราจะลงโทษรูปเคารพแห่งบาบิโลนแผ่นดินทั้งสิ้นของมันจะต้องได้อายและบรรดาชาวบาบิโลน ซึ่งถูกฆ่าจะล้มลงที่ท่ามกลางมัน
  • 48 แล้วฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกและสรรพสิ่งที่มีอยู่ในนั้นจะร้องเพลงเพราะความชื่นบานเหนือบาบิโลน วว. 18:20เพราะว่าผู้ทำลายจะมาจากทิศเหนือต่อสู้กับเขาทั้งหลายพระเจ้าตรัสดังนี้
  • 49 บาบิโลนจะต้องล้มลง เนื่องด้วยคนที่ถูกฆ่าแห่งอิสราเอลดังผู้ที่ถูกฆ่าแห่งแผ่นดินโลกทั้งมวล วว. 18:24ได้ ล้มลงเพราะบาบิโลน
  • 50 “เจ้าทั้งหลายผู้ที่รอดพ้นไปจากดาบรีบไปเถิด อย่ายืนนิ่งอยู่จงระลึกถึงพระเจ้าจากที่ไกลและให้กรุงเยรูซาเล็มเข้ามาในจิตใจของเจ้า
  • 51 ว่า ‘เราได้อาย เพราะเราได้ยินคำเยาะเย้ยความอัปยศคลุมหน้าเราไว้เพราะคนต่างชาติได้เข้าในสถานบริสุทธิ์แห่งพระนิเวศของพระเจ้า’
  • 52 พระเจ้าตรัสว่า “เพราะฉะนั้น ดูเถิด วันเวลาจะมาถึงเมื่อเราจะลงโทษรูปเคารพของมันและคนที่บาดเจ็บจะคร่ำครวญอยู่ทั่วแผ่นดินทั้งสิ้นของมัน
  • 53 พระเจ้าตรัสว่าถึงแม้บาบิโลนจะขึ้นไปบนสวรรค์และถึงแม้มันจะสร้างป้อมกันที่สูงอันเข้มแข็งของมันไว้บรรดาผู้ทำลายก็ยังมาจากเราเหนือมัน
  • 54 “ฟังซิ มีเสียงร้องมาจากบาบิโลนเสียงโครมครามจากแผ่นดินของคนเคลเดีย
  • 55 เพราะพระเจ้า กำลังทรงกระทำให้บาบิโลนเป็นที่ทิ้งร้างและกระทำเสียงที่ใหญ่โตของมันให้เงียบคลื่นของเขาทั้งหลายคะนองเหมือนน้ำมากเสียงอึกทึกของเขาก็เปล่งออกมา
  • 56 เพราะว่าผู้ทำลายได้มาเหนือมันมาเหนือบาบิโลนบรรดานักรบของมันถูกยึดแล้วคันธนูของเขาทั้งหลายถูกหักเป็นชิ้นๆเพราะพระเยโฮวาห์ทรงเป็นเจ้าแห่งการตอบแทนพระองค์จะทรงสนองเป็นแน่
  • 57 เราจะกระทำให้เจ้านายของมันและนักปราชญ์ของมันมึนเมาเจ้าเมืองของมัน ผู้บังคับบัญชาของมัน และนักรบของมันเขาทั้งหลายจะนอนหลับอยู่เป็นนิตย์ไม่ตื่นอีกเลยพระบรมมหากษัตริย์ ผู้ทรงพระนามว่าพระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสดังนี้
  • 58 “พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่ากำแพงอันกว้างขวางของบาบิโลนจะถูกปราบลงให้เรียบเสมอพื้นดินและประตูเมืองสูงของมันจะถูกเผาด้วยไฟบรรดาประชาชนทำงานอย่างไร้ผลและชนชาติทั้งหลายจะเหน็ด เหนื่อยก็เพื่อเผาไฟเสียเท่านั้น”
  • 59 ถ้อยคำซึ่งเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ ได้บัญชาแก่เสไรอาห์บุตรเนริยาห์ผู้เป็นบุตรมาอาเสอาห์ เมื่อเขาไปยังบาบิโลนกับเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ ในปีที่สี่แห่งรัชกาลของท่านนั้น เสไรอาห์เป็นหัวหน้าจัดที่พัก
  • 60 เยเรมีย์ได้เขียนบรรดาโทษทั้งสิ้นซึ่งจะมาถึง บาบิโลนนั้นไว้ในหนังสือ ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำที่เขียนไว้เกี่ยวด้วยเรื่องบาบิโลน
  • 61 และเยเรมีย์พูดกับเสไรอาห์ว่า “เมื่อท่านมาถึงบาบิโลนแล้ว ท่านจงอ่านถ้อยคำเหล่านี้ทั้งหมดนะ
  • 62 และกล่าวว่า ‘ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ตรัสกับสถานที่นี้ว่า พระองค์จะทรงตัดออกเสีย เพื่อว่าจะไม่มีอะไรอาศัยอยู่ในนั้น ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ และจะเป็นที่ร้างเปล่าอยู่เป็นนิตย์
  • 63 เมื่อท่านอ่านหนังสือนี้จบแล้ว จงเอาหินก้อนหนึ่งมัดติดมันไว้ และโยนมันทิ้งไปกลางแม่น้ำยูเฟรติส’
  • 64 และจงกล่าวว่า ‘บาบิโลนจะจมลงอย่างนี้แหละ ไม่ลอยขึ้นอีกเลย วว. 18:21เนื่องด้วย โทษซึ่งเราจะนำมาเหนือมัน’ ” ถ้อยคำของเยเรมีย์มีเพียงนี้
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页