1
วันแห่งการแก้แค้นของพระเป็นเจ้า นี่ใครหนอที่มาจากเมืองเอโดม อสย. 34:5-17; ยรม. 49:7-22; อสค. 25:12-14; 35:1-15; อมส. 1:11-12; อบด. 1-14; มลค. 1:2-5สวมเสื้อผ้าย้อมสีแดงจากเมืองโบสราห์พระองค์ผู้ซึ่งโอ่อ่าในเครื่องทรงของพระองค์เสด็จมาด้วยกำลังยิ่งใหญ่ของพระองค์“นี่เราเองร้องประกาศการช่วยกู้และมีอานุภาพที่จะช่วยให้รอด”2
ทำไมเครื่องทรงของพระองค์จึงสีแดงและเสื้อผ้าของพระองค์เหมือนกับของคนที่ย่ำในบ่อย่ำองุ่น3
“เราได้ย่ำบ่อองุ่น วว. 14:20; 19:15แต่ลำพังและไม่มีใครจากชนชาติทั้งหลายอยู่กับเราเลยเราย่ำมันด้วยความโกรธของเราเราเหยียบมันด้วยความพิโรธของเราโลหิตของเขาพรมอยู่บนเสื้อผ้าของเราและเราได้ทำให้เสื้อผ้าของเราเปื้อนหมด วว. 19:134
เพราะวันแก้แค้นอยู่ในใจของเราและปีแห่งการไถ่ของเราได้มาถึง5
เรามอง แต่ไม่มีผู้ใดหนุนมาเราประหลาดใจ แต่ไม่มีผู้ชูไว้มือของเราเองจึงนำชัยมาให้เราและความพิโรธของเราชูเราไว้ อสย. 59:166
เราย่ำชนชาติทั้งหลายลงด้วยความโกรธของเราเราได้ทำให้เขาเมาด้วยความพิโรธของเราและเราได้เทโลหิตของเขาบนแผ่นดินโลก”7
ความดีของพระเป็นเจ้าต่ออิสราเอล ข้าพเจ้าจะกล่าวให้คิดถึงความรักมั่นคงแห่งพระเจ้าบรรดากิจการอันน่าสรรเสริญของพระเจ้าตามบรรดาซึ่งพระเจ้าประทานแก่พวกเราและความดียิ่งใหญ่ต่อวงศ์ของอิสราเอลซึ่งพระองค์ทรงอนุมัติให้ตามพระกรุณาของพระองค์ตามความรักมั่นคงอันอุดมสมบูรณ์ของพระองค์8
เพราะพระองค์ตรัสว่า แน่ทีเดียวเขาเป็นชนชาติของเราบุตรผู้จะไม่ประพฤติคดโกงเรา ฉบับกรีกโบราณอ่านว่า พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด จากความทุกข์ทั้งสิ้นของเขาทั้งหลาย มิใช่ทูตหรือทูตสวรรค์ แต่พระองค์เองทรงช่วยเขาทั้งหลายให้รอด และพระองค์ได้เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขา9
พระองค์ทรงทุกข์พระทัยในความทุกข์ใจทั้งสิ้นของเขาและทูตสวรรค์ที่อยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ช่วยเขาทั้งหลายให้รอดพระองค์ทรงไถ่เขาด้วยความรักของพระองค์ และด้วยความสงสารของพระองค์พระองค์ทรงยกเขาขึ้นและหอบเขาไปตลอดกาลก่อน10
แต่เขาทั้งหลายได้กบฏและทำให้วิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เสียพระทัยฉะนั้นพระองค์จึงทรงหันเป็นศัตรูของเขาทั้งหลายและพระองค์ทรงต่อสู้กับเขาทั้งหลายเอง11
แล้วพระองค์ทรงระลึกถึงสมัยเก่าก่อนถึงโมเสส ถึงชนชาติของพระองค์พระองค์ทรงนำเขาทั้งหลายขึ้นมาจากทะเลพร้อมกับผู้เลี้ยงแพะแกะของพระองค์อยู่ที่ไหนพระองค์ทรงอยู่ที่ไหน ผู้ซึ่งบรรจุวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ท่ามกลางเขาทั้งหลาย12
ผู้ให้พระกรอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ไปกับมือขวาของโมเสสผู้แยกน้ำออกต่อหน้าเขาทั้งหลาย อพย. 14:21เพื่อสร้างพระนามนิรันดร์ให้พระองค์เอง13
ผู้ได้นำเขาข้ามทะเลนั้นเหมือนม้าในถิ่นทุรกันดารเขาทั้งหลายมิได้สะดุด14
อย่างสัตว์เลี้ยงไปยังหุบเขาฉันใดพระวิญญาณของพระเจ้าประทานให้เขาหยุดพักฉันนั้นฉะนั้นพระองค์จึงทรงนำชนชาติของพระองค์เพื่อจะสร้างพระนามอันรุ่งโรจน์แด่พระองค์เอง15
คำอธิษฐานเพื่อพระกรุณาและความอุปถัมภ์ ขอทอดพระเนตรลงมาจากฟ้าสวรรค์และทรงเพ่งดูจากสถานบริสุทธิ์และรุ่งโรจน์ของพระองค์ความกระตือรือร้นและอานุภาพของพระองค์ อยู่ที่ไหนพระทัยกรุณาของพระองค์และความสมเพชของพระองค์ได้ถูกยึดไว้จากข้าพระองค์16
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลายแม้อับราฮัมมิได้รู้จักข้าพระองค์และอิสราเอลหาจำข้าพระองค์ได้ไม่ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลายพระนามของพระองค์คือพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์แต่เก่าก่อน17
ข้าแต่พระเจ้า ไฉนพระองค์ทรงกระทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายผิดไปจากพระมรรคาของพระองค์และกระทำใจของข้าพระองค์ให้แข็งกระด้างจนข้าพระองค์ไม่ยำเกรงพระองค์ขอพระองค์ทรงกลับมาเพื่อเห็นแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์คือ เผ่าทั้งหลายอันเป็นมรดกของพระองค์18
เขาขับไล่ชนชาติบริสุทธิ์ของพระองค์ออกไปประเดี๋ยวหนึ่งปฏิปักษ์ของข้าพระองค์ทั้งหลายได้เหยียบย่ำสถานศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ลง19
ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นอย่างกับผู้ที่พระองค์ไม่เคยปกครองเลยอย่างกับผู้ซึ่งเขาไม่ได้เรียกโดยพระนามของพระองค์