1
ประชาชาติที่บาปหนา นิมิตของอิสยาห์บุตรชายของอามอส ซึ่งท่านได้เห็นเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม ในรัชกาลของอุสซียาห์ 2 พกษ. 15:1-7;2 พศด. 26:1-23 โยธาม 2 พกษ. 15:32-38;2 พศด. 27:1-9 อาหัส 2 พกษ. 16:1-20;2 พศด. 28:1-27 และเฮเซคียาห์ 2 พกษ. 18:1-20:21;2 พศด. 29:1-32:33 พระราชาแห่งยูดาห์2
ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงฟัง แผ่นดินโลกเอ๋ย จงเงี่ยหูเพราะพระเจ้าได้ตรัสว่า“เราได้เลี้ยงดูบุตรและให้เติบโตขึ้นแต่เขาทั้งหลายได้กบฏต่อเรา3
โครู้จักเจ้าของของมันและลาก็รู้จักรางหญ้าของนายมันแต่อิสราเอลไม่รู้จักชนชาติของเราไม่เข้าใจ”4
เออ ประชาชาติบาปหนาชนชาติซึ่งหนักด้วยความบาปชั่วหน่อเนื้อของผู้กระทำความชั่วร้ายบรรดาบุตรที่ทำความเสียหายเขาทั้งหลายได้ทอดทิ้งพระเจ้าเขาได้ดูหมิ่นองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลเขาทั้งหลายหันหลังให้เสีย5
ยังจะให้เฆี่ยนเจ้าตรงไหนอีกที่เจ้ากบฏอยู่เรื่อยไปศีรษะก็เจ็บหมดจิตใจก็อ่อนเปลี้ยไปสิ้น6
ตั้งแต่ฝ่าเท้าจนถึงศีรษะไม่มีความปกติในนั้นเลยมีแต่ฟกช้ำและดำเขียวและเป็นแผลเลือดไหลไม่เห็นบีบออกหรือพันไว้หรือทำให้อ่อนลงด้วยน้ำมัน7
ประเทศของเจ้าก็ร้างเปล่าและหัวเมืองของเจ้าก็ถูกไฟเผาส่วนแผ่นดินของเจ้าคนต่างด้าวก็ทำลายเสียต่อหน้าเจ้ามันก็ร้างเปล่าไป อย่างที่คนต่างด้าวคว่ำมัน8
ส่วนศิโยนธิดาก็ถูกทิ้งไว้เหมือนอย่างเพิงที่ในสวนองุ่นเหมือนเพิงในไร่แตงกวาเหมือนเมืองที่ถูกล้อม9
ถ้าพระเจ้าจอมโยธามิได้เหลือคนไว้ให้เราบ้างเล็กน้อยแล้วเราก็จะได้เป็นเหมือนเมืองโสโดมและเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์ ปฐก. 19:24; รม. 9:2910
ทรงเรียกให้กลับใจจริงๆ ดูก่อนท่านผู้ปกครองเมืองโสโดมจงฟังพระวจนะของพระเจ้าดูก่อนท่านประชาชนเมืองโกโมราห์จงเงี่ยหูฟังพระธรรมของพระเจ้าของเรา11
พระเจ้าตรัสว่า“เครื่องบูชาอันมากมายของเจ้านั้นจะเป็นประโยชน์อะไรแก่เราเราเอือมแกะตัวผู้อันเป็นเครื่องเผาบูชาและไขมันของสัตว์ที่ขุนไว้นั้นแล้วเรามิได้ปีติยินดีในเลือดของวัวผู้หรือลูกแกะหรือแพะผู้12
“เมื่อเจ้าเข้ามาเฝ้าเราผู้ใดขอให้เจ้าทำอย่างนี้ที่เหยียบย่ำเข้ามาในบริเวณพระนิเวศของเรา13
อย่านำเครื่องถวายอนิจจังมาอีกเลยเครื่องบูชาอันเป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังต่อเราวันเทศกาลข้างขึ้นและวันสะบาโตและการเรียกประชุมเราทนต่อความบาปชั่วและการประชุมตามพิธีไม่ได้อีก14
ใจของเราเกลียดวันเทศกาลข้างขึ้นของเจ้าและวันเทศกาลตามกำหนดของเจ้ามันกลายเป็นภาระแก่เราเราแบกเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว อมส. 5:21-2215
เมื่อเจ้ากางมือของเจ้าออกเราจะซ่อนหน้าของเราเสียจากเจ้าแม้ว่าเจ้าจะอธิษฐานมากมายเราจะไม่ฟังมือของเจ้าเปรอะไปด้วยโลหิต16
จงชำระตัว จงทำตัวให้สะอาดจงเอากรรมชั่วของเจ้าออกไปให้พ้นจากสายตาของเราจงเลิกกระทำชั่ว17
จงฝึกกระทำดีจงแสวงหาความยุติธรรมจงบรรเทาผู้ถูกบีบบังคับจงป้องกันให้ลูกกำพร้าพ่อจงสู้ความเพื่อหญิงม่าย18
พระเจ้าตรัสว่า“มาเถิด ให้เราสู้ความกันถึงบาปของเจ้าเหมือนสีแดงเข้มก็จะขาวอย่างหิมะถึงมันจะแดงอย่างผ้าแดงก็จะกลายเป็นอย่างขนแกะ19
ถ้าเจ้าเต็มใจและเชื่อฟังเจ้าจะได้กินผลดีแห่งแผ่นดิน20
แต่ถ้าเจ้าปฏิเสธและกบฏเจ้าจะเป็นเหยื่อของคมดาบเพราะว่าพระโอษฐ์ของพระเจ้าได้ตรัสแล้ว”21
การพิพากษาและการไถ่ศิโยน เมืองที่ซื่อสัตย์กลายเป็นแพศยาเสียแล้วหนอคือเธอที่เคยเปี่ยมด้วยความยุติธรรมความชอบธรรมเคยพำนักอยู่ในเธอแต่เดี๋ยวนี้ผู้กระทำฆาตกรรมพำนักอยู่22
เงินของเจ้าได้กลายเป็นขี้เงินไปแล้วเหล้าองุ่นของเจ้าปนน้ำแล้ว23
เจ้านายของเจ้าเป็นพวกกบฏและเป็นเพื่อนของโจรทุกคนรักสินบนและวิ่งตามของกำนัลเขามิได้ป้องกันให้ลูกกำพร้าพ่อและคดีของหญิงม่ายก็ไม่มาถึงเขา24
ฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าคือพระเจ้าจอมโยธาผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ของอิสราเอลตรัสว่า“ดูเถิด เราจะระบายความโกรธของเราเหนือศัตรูของเราและแก้แค้นข้าศึกของเราเสียเอง25
เราจะหันมือของเรามาสู้เจ้าและจะถลุงไล่ขี้แร่ของเจ้าออกเสียอย่างกับล้างด้วยน้ำด่างและเอาของเจือปนของเจ้าออกให้หมด26
และเราจะคืนผู้พิพากษาของเจ้าให้ดังเดิมและคืนที่ปรึกษาของเจ้าอย่างกับตอนแรกภายหลัง เขาจะเรียกเจ้าว่านครแห่งความชอบธรรมนครซื่อสัตย์”27
ศิโยนจะรับการไถ่ด้วยความยุติธรรมและบรรดาคนในนครที่กลับใจจะรับการไถ่ด้วยความชอบธรรม28
แต่พวกกบฏและพวกคนบาปจะถูกทำลายด้วยกันและบรรดาคนเหล่านั้นที่ละทิ้งพระเจ้าจะถูกล้างผลาญ29
เพราะเจ้าจะละอายเรื่องต้นก่อหลวงที่เจ้าปรารถนานั้นและเจ้าจะหน้าแดงเรื่องสวนซึ่งเจ้าเลือก30
เพราะเจ้าจะเป็นเหมือนต้นก่อหลวงที่ใบเหี่ยวแห้งและเหมือนสวนที่ขาดน้ำ31
และผู้ที่แข็งแรงจะกลายเป็นใยป่านและกิจการของเขาเป็นประกายไฟและทั้งสองจะไหม้เสียด้วยกันไม่มีผู้ใดดับได้