1
นิมิตและการที่อิสยาห์ถูกทรงเรียก ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ 2 พกษ. 15:7;2 พศด. 26:23 ข้าพเจ้าเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับ ณ พระที่นั่งสูงและเทิดทูนขึ้น และชายฉลองพระองค์ของพระองค์เต็มพระวิหาร2
เหนือพระองค์มีเสราฟิมยืนอยู่ แต่ละตนมีปีกหกปีก ใช้สองปีกบังหน้า และสองปีกคลุมเท้า และด้วยสองปีกบินไป3
ต่างก็ร้องต่อกันและกันว่า“บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ พระเจ้าจอมโยธา วว. 4:8แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเต็มด้วยพระสิริของพระองค์”4
และรากฐานของธรณีประตูทั้งหลาย ก็สั่นสะเทือนด้วยเสียงของผู้ร้อง และพระนิเวศก็มีควันเต็มไปหมด วว. 15:85
และข้าพเจ้าว่า “วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาด และข้าพเจ้าอยู่ในหมู่ชนชาติที่ริมฝีปากไม่สะอาด เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นกษัตริย์ คือพระเจ้าจอมโยธา”6
แล้วตนหนึ่งในเสราฟิมบินมาหาข้าพเจ้า ในมือมีถ่านเพลิง ซึ่งเขาเอาคีมคีบมาจากแท่นบูชา7
และเขาถูกต้องปากของข้าพเจ้าพูดว่า “ดูเถิด สิ่งนี้ได้ถูกต้องริมฝีปากของเจ้าแล้ว กรรมชั่วของเจ้าก็ถูกยกเสีย และเจ้าก็จะรับการลบมลทินบาป”8
และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะใช้ผู้ใดไป และผู้ใดจะไปแทนเรา” แล้วข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด”9
และพระองค์ตรัสว่า“ไปเถอะและกล่าวแก่ชนชาตินี้ว่า‘ฟังแล้วฟังเล่า แต่อย่าเข้าใจดูแล้วดูเล่า แต่อย่ามองเห็น’10
จงกระทำให้จิตใจของชนชาตินี้มึนงงและให้หูทั้งหลายของเขาหนักและปิดตาของเขาทั้งหลายเสียเกรงว่าเขาจะเห็นด้วยตาของเขาและได้ยินด้วยหูของเขาและเข้าใจด้วยจิตใจของเขาและหันกลับมาได้รับการรักษาให้หาย มธ. 13:14-15; มก. 4:12; ลก. 8:10; ยน. 12:40; กจ. 28:26-27”11
แล้วข้าพเจ้าว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า นานสักเท่าใด” และพระองค์ตรัสว่า“จนหัวเมืองทั้งหลายถูกทิ้งร้างไม่มีชาวเมืองและเรือนไม่มีคนและแผ่นดินก็ร้างเปล่าอย่างสิ้นเชิง12
และพระเจ้าทรงกวาดคนออกไปไกลและที่ที่ทอดทิ้งก็มีมากอยู่ท่ามกลางแผ่นดินนั้น13
และแม้ว่ามีเหลืออยู่ในนั้นสักหนึ่งในสิบก็จะถูกเผาไฟอีกเหมือนต้นสนหรือต้นก่อหลวงซึ่งเหลืออยู่แต่ตอเมื่อถูกโค่น”ตอของมันเป็นพันธุ์บริสุทธิ์