1
ในรัชกาลของพระองค์เนบูคัดเนสซาร์ พระราชาแห่งบาบิโลนยกขึ้นมา ยรม. 25:1-38; ดนล. 1:1-2 และเยโฮยาคิมเป็นคนใช้ของพระองค์สามปี แล้วท่านก็กลับกบฏต่อพระองค์2
และพระเจ้าทรงใช้พวกคนเคลเดีย และพวกคนซีเรียและพวกคนโมอับและพวกคนอัมโมนมา ต่อสู้กับท่าน และทรงใช้เขาทั้งหลายไปต่อสู้ยูดาห์เพื่อจะทำลายเสีย ตามพระวจนะของพระเจ้าซึ่งพระองค์ตรัสโดยบรรดาผู้ เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์3
แท้จริงเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับยูดาห์ตามพระบัญชา ของพระเจ้า เพื่อจะให้เขาออกไปเสียจากสายพระเนตรของพระองค์ เพราะบรรดาบาปของมนัสเสห์ตามทุกอย่างซึ่งพระองค์ ได้ทรงกระทำ4
และเพราะโลหิตที่ไร้ความผิดซึ่งท่านได้ทำให้หลั่งนั้นด้วย เพราะท่านได้กระทำให้โลหิตไร้ความผิดตกเต็มเยรูซาเล็ม และพระเจ้าไม่ทรงอภัย5
ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยโฮยาคิม และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ มิได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งพระราชา ประเทศยูดาห์หรือ6
เยโฮยาคิมจึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของ พระองค์ และเยโฮยาคีนโอรสของพระองค์ขึ้นครอบครองแทนพระองค์7
และพระราชาแห่งอียิปต์มิได้ทรงยกออกมาจาก แผ่นดินของพระองค์อีก เพราะพระราชาแห่งบาบิโลนได้ยึดแดนทั้งสิ้น ซึ่งเป็นของพระราชาอียิปต์ตั้งแต่ลำธารอียิปต์ถึงแม่น้ำยูเฟรติสเยโฮยาคีนและเจ้านายถูกจับไปเป็นเชลยยังบาบิโลน 8
( 2 พศด. 36:9-10 ) เยโฮยาคีนมีพระชนมายุสิบแปดพรรษา เมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มสามเดือน พระมารดาของพระองค์มีพระนามว่าเนหุชทา บุตรีของเอลนาธันชาวเยรูซาเล็ม9
และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายใน สายพระเนตรพระเจ้า ตามทุกอย่างซึ่งพระบิดาของพระองค์ทรงกระทำ10
คราวนั้นข้าราชการของเนบูคัดเนสซาร์ พระราชาแห่งบาบิโลน ยกขึ้นมายังกรุงเยรูซาเล็มล้อมกรุงไว้11
และเนบูคัดเนสซาร์พระราชาแห่งบาบิโลน เสด็จมาที่เมืองนั้น ขณะเมื่อข้าราชการของพระองค์ยังล้อมเมืองอยู่12
และเยโฮยาคีนพระราชาแห่งยูดาห์ ทรงมอบพระองค์แก่พระราชาแห่งบาบิโลนพระองค์เอง และพระมารดาของพระองค์และข้าราชการของพระองค์ และเจ้านายของพระองค์ และข้าราชสำนักของพระองค์ พระราชาแห่งบาบิโลนจับพระองค์เป็นนักโทษใน ปีที่แปดแห่งรัชกาลของพระองค์ ยรม. 22:24-30; 24:1-10; 29:1-1213
ได้ขนเอาทรัพย์สินในพระนิเวศของพระเจ้าและ ทรัพย์สินในสำนักพระราชวัง และทอนเครื่องใช้ทองคำ ซึ่งซาโลมอนพระราชาแห่ง อิสราเอลทรงสร้างไว้ในพระวิหารของพระเจ้า ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ก่อนแล้ว14
พระองค์ทรงกวาด ชาวเยรูซาเล็มไปหมดทั้งเจ้านายทั้งปวง และทแกล้วทหารทั้งหมด เป็นเชลยหนึ่งหมื่นคน มีช่างฝีมือและช่างเหล็กทั้งหมด ไม่มีผู้ใดเหลือนอกจากราษฎรที่จนที่สุด15
และพระองค์นำเยโฮยาคีนไปยังบาบิโลน อสค. 17:12 ทั้งพระชนนี พระมเหสี ข้าราชสำนักของพระองค์และบุคคลชั้นหัวหน้าของแผ่นดิน พระองค์จับเป็นเชลยจากกรุงเยรูซาเล็มถึงบาบิโลน16
และพระราชาแห่งบาบิโลนทรงนำเชลยมายัง บาบิโลนคือ ทแกล้วทหารทั้งหมดเจ็ดพันคน และช่างฝีมือและช่างเหล็กหนึ่งพัน ทุกคนแข็งแรง และเหมาะสำหรับการรบ17
และพระราชาบาบิโลนตั้งมัทธานิยาห์ปิตุลา ของเยโฮยาคีนเป็นพระราชาแทนพระองค์ และเปลี่ยนพระนามว่าเศเดคียาห์ ยรม. 37:1; อสค. 17:13รัชกาลเศเดคียาห์ 18
( 2 พศด. 36:11-16 ; อสย. 53:1-3 ) เศเดคียาห์มีพระชนมายุยี่สิบเอ็ดพรรษา เมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครอง ยรม. 27:1-22; 28:1-17 และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มสิบเอ็ดปี พระมารดาของพระองค์มีพระนามว่า ฮามุทาลบุตรีของเยเรมีย์ชาวลิบนาห์19
และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้าย ในสายพระเนตรพระเจ้า ตามทุกอย่างซึ่งเยโฮยาคิมทรงกระทำ20
เพราะว่าโดยพระพิโรธของพระเจ้านั้น เหตุการณ์มาถึงขีดที่พระองค์ทรงเหวี่ยง เยรูซาเล็มและยูดาห์ไปให้พ้นพระพักตร์พระองค์กรุงเยรูซาเล็มแตก และเศเดคียาห์ได้กบฏต่อพระราชาแห่ง บาบิโลน อสค. 17:15 เมื่อวันที่สิบเดือนที่สิบปีที่เก้าแห่งรัชกาลของพระองค์