1
รัชกาลมนัสเสห์ ( 2 พศด. 33:1-20 )มนัสเสห์มีพระชนมายุสิบสองพรรษาเมื่อพระองค์ขึ้น ครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มห้าสิบห้าปี พระมารดาของพระองค์มีพระนามว่าเฮฟซีบาห์2
และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายใน สายพระเนตรพระเจ้า ยรม. 15:4ตามการกระทำอันน่าเกลียดน่าชังแห่งประชาชาติ ซึ่งพระเจ้าทรงขับไล่ให้ออกไปให้พ้นหน้าประชาชน อิสราเอล3
เพราะพระองค์ทรงสร้างปูชนียสถานสูง ซึ่งเฮเซคียาห์พระราชบิดาของพระองค์ทรง ทำลายเสียนั้นขึ้นใหม่ และพระองค์ทรงสร้างแท่นบูชาสำหรับพระบาอัล และทรงสร้างอาเชราห์ ดังที่อาหับพระราชาแห่งอิสราเอลทรงกระทำ และทรงนมัสการบริวารทั้งสิ้นของฟ้าสวรรค์ และปรนนิบัติพระเหล่านั้น4
และพระองค์ทรงสร้างแท่นบูชาในพระนิเวศของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าได้ตรัสว่า “เราจะบรรจุชื่อของเราไว้ในเยรูซาเล็ม” 2 ซมอ. 7:135
และพระองค์ได้สร้างแท่นบูชาสำหรับบริวารแห่งฟ้าสวรรค์ใน ลานทั้งสองของพระนิเวศแห่งพระเจ้า6
และพระองค์ได้ทรงเผาโอรสของพระองค์เป็นเครื่องบูชา ถือฤกษ์ยามเวทมนตร์ คนทรง และแม่มด พระองค์ทรงกระทำความชั่วร้ายเป็นอันมากในสายพระเนตรพระเจ้า กระทำให้พระองค์ทรงพระพิโรธ7
ส่วนอาเชราห์อันเป็นรูปเคารพสลักนั้น พระองค์ทรงตั้งไว้ในพระนิเวศของพระเจ้า ผู้ซึ่งตรัสกับดาวิดและซาโลมอนโอรสของพระองค์ว่า “ในนิเวศนี้และในเยรูซาเล็ม ซึ่งเราได้เลือกออกจากเผ่าทั้งสิ้นของอิสราเอล เราจะบรรจุนามของเราไว้เป็นนิตย์8
เราจะไม่เป็นเหตุให้เท้าของ อิสราเอลพเนจรออกไปจากแผ่นดิน ซึ่งเราได้ให้กับบรรพบุรุษของเขาอีก ถ้าเขาเพียงแต่ระมัดระวังที่จะกระทำตามทุกอย่าง ซึ่งเราได้บัญชาเขาและตามธรรมบัญญัติทั้งสิ้น ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของเราบัญชา เขา” 1 พกษ. 9:3-5;2 พศด. 7:12-189
แต่เขามิได้ฟัง และมนัสเสห์ได้ชักจูงเขาให้กระทำชั่วมากยิ่งไปกว่า บรรดาประชาชาติ ซึ่งพระเจ้าทรงทำลายเสียต่อหน้าประชาชนอิสราเอลได้ เคยกระทำแล้วเสียอีก10
และพระเจ้าตรัสโดยผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ว่า11
“เพราะมนัสเสห์พระราชาแห่งยูดาห์ได้กระทำการ น่าเกลียดน่าชังเหล่านี้ และได้กระทำสิ่งชั่วร้ายมากยิ่งกว่าคนอาโมไรต์ได้ กระทำทั้งสิ้น ผู้ซึ่งอยู่ก่อนพระองค์และได้ทรงกระทำให้ยูดาห์ทำ บาปมากด้วยรูปเคารพของพระองค์12
เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เรากำลังนำเหตุร้ายมาถึงเยรูซาเล็มและยูดาห์ อย่างที่ทุกคนซึ่งได้ยินแล้วหูทั้งสองของเขาจะอื้อไป13
และเราจะเอาเชือกอย่างที่วัดกรุงสะมาเรียขึงเหนือ กรุงเยรูซาเล็ม และใช้ลูกดิ่งอย่างที่วัดราชวงศ์อาหับและเราจะล้าง เยรูซาเล็มอย่างเขาล้างชามล้างและพลิกคว่ำ14
และเราจะเหวี่ยงมรดกส่วนที่เหลือของเราออกไปเสีย และมอบเขาไว้ในมือศัตรูของเขา และเขาทั้งหลายจะเป็นเหยื่อและเป็นของริบของศัตรู ทั้งสิ้นของเขา15
เพราะเขาได้กระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของเรา และได้กระทำให้เราโกรธ ตั้งแต่วันที่บรรพบุรุษของเขาออกจากอียิปต์กระทั่งถึงทุกวันนี้”16
ยิ่งกว่านั้นอีกมนัสเสห์ได้ทรงกระทำให้ โลหิตไร้ความผิดตกมาก จนเต็มเยรูซาเล็มจากข้างหนึ่งถึงอีกข้างหนึ่ง นอกเหนือจากบาปที่พระองค์ทรงกระทำให้ยูดาห์ทำด้วย โดยประพฤติสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรพระเจ้า17
ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของมนัสเสห์ และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และบาปซึ่งพระองค์ทรงกระทำ มิได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งพระราชา ประเทศยูดาห์หรือ18
และมนัสเสห์ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังไว้ในพระอุทยานริมราชวังของพระองค์ใน สวนของอุสซา และอาโมนโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครอบครองแทนพระองค์รัชกาลอาโมน 19
( 2 พศด. 33:21-25 ) อาโมนมีพระชนมายุยี่สิบสองพรรษาเมื่อพระองค์ เริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มสองปี พระมารดาของพระองค์มีพระนามว่าเมชุลเลเมท บุตรีของฮารูสชาวโยทบาห์20
และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้าย ในสายพระเนตรพระเจ้า อย่างมนัสเสห์บิดาของพระองค์ได้ทรงกระทำ21
พระองค์ทรงดำเนินในทางทั้งสิ้นซึ่ง บิดาของพระองค์ทรงดำเนิน และปรนนิบัติรูปเคารพซึ่ง บิดาของพระองค์ทรงปรนนิบัติและนมัสการรูปเหล่านั้น22
พระองค์ทรงทอดทิ้งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่ง บรรพบุรุษของพระองค์ และมิได้ทรงดำเนินในมรรคาของพระเจ้า23
และข้าราชการของอาโมนได้ร่วมกันคิดกบฏต่อพระองค์ และประหารพระราชาในพระราชวังของพระองค์เสีย24
แต่ราษฎรได้ประหารทุกคนที่ร่วมกันคิดกบฏต่อ กษัตริย์อาโมน และราษฎรได้ตั้งโยสิยาห์โอรสของพระองค์ให้เป็น พระราชาแทนพระองค์25
ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของอาโมนซึ่งพระองค์ทรงกระทำ มิได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งพระราชา ประเทศยูดาห์หรือ26
และเขาฝังไว้ในอุโมงค์ของพระองค์ในสวนของอุสซา และโยสิยาห์โอรสของพระองค์ได้ครอบครองแทนพระองค์