1
โยสิยาห์และหนังสือธรรมบัญญัติ ( 2 พศด. 34:1-2 , 8-33 )โยสิยาห์ ยรม. 3:6มีพระชนมายุแปดพรรษาเมื่อเริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มสามสิบเอ็ดปี พระมารดาของพระองค์มีพระนามว่า เยดีดาห์บุตรีของอาดายาห์ชาวโบสคาท2
และพระองค์ได้ทรงกระทำสิ่งที่ชอบในสายพระเนตรพระเจ้า และทรงดำเนินในมรรคาของดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ และพระองค์มิได้ทรงหันไปทางขวามือหรือซ้ายมือ3
และอยู่มาในปีที่สิบแปดแห่งรัชกาลกษัตริย์โยสิยาห์ พระราชาทรงใช้ชาฟานบุตรอาซาลิยาห์ บุตรเมชุลลามราชเลขาไปยังพระนิเวศของพระเจ้า รับสั่งว่า4
“จงขึ้นไปหาฮิลคียาห์มหาปุโรหิต เพื่อให้ท่านรวมเงิน ซึ่งเขานำเข้ามาในพระนิเวศของพระเจ้าซึ่งผู้รักษาธรณี ประตูได้เก็บจากประชาชน5
และให้มอบไว้ในมือของคนงานผู้ดูแลพระนิเวศของพระเจ้า และให้เขาจ่ายแก่คนงานผู้ที่อยู่ ณ พระนิเวศของพระเจ้า ที่ทำการซ่อมแซมพระนิเวศอยู่6
คือให้แก่ช่างไม้ และแก่ช่างก่อสร้าง และแก่ช่างปูน ทั้งสำหรับซื้อตัวไม้ และหินสกัดเพื่อซ่อมแซมพระนิเวศ 2 พกษ. 21:3;2 พศด. 33:37
แต่ไม่ต้องขอบัญชีจากเขาเรื่องเงินที่จ่ายใส่มือของเขา เพราะเขากระทำด้วยความสัตย์ซื่อ”8
และฮิลคียาห์มหาปุโรหิตพูดกับชาฟานราชเลขาว่า “ข้าพเจ้าได้พบหนังสือธรรมบัญญัติในพระนิเวศของพระเจ้า” และฮิลคียาห์ได้มอบหนังสือนั้นให้ชาฟานและท่านก็อ่าน9
และชาฟานราชเลขาได้เข้าเฝ้าพระราชาและทูล รายงานต่อพระราชาว่า “ผู้รับใช้ของพระองค์ได้เทเงินที่พบในพระนิเวศออก และได้มอบไว้ในมือของคนงานผู้ดูแลพระนิเวศของพระเจ้า”10
แล้วชาฟานราชเลขาได้ทูลพระราชาว่า “ฮิลคียาห์ปุโรหิตได้มอบหนังสือแก่ข้าพระบาทม้วนหนึ่ง” และชาฟานก็อ่านถวายพระราชา11
และอยู่มาเมื่อพระราชาได้ฟังถ้อยคำของธรรมบัญญัติ พระองค์ทรงฉีกฉลองพระองค์12
และพระราชาทรงบัญชาฮิลคียาห์ปุโรหิต และอาหิคัมบุตรชาฟาน และอัคโบร์บุตรมีคายาห์และชาฟานราชเลขา และอาสายาห์ผู้รับใช้ของพระราชา รับสั่งว่า13
“จงไปทูลถามพระเจ้าให้เรา ให้ประชาชนและให้ยูดาห์ทั้งหมดเกี่ยวกับถ้อยคำใน หนังสือนี้ที่ได้พบ เพราะว่าพระพิโรธของพระเจ้าซึ่งพลุ่งขึ้นต่อเราทั้งหลาย นั้นใหญ่หลวงนัก เพราะว่าบรรพบุรุษของเรามิได้เชื่อฟังถ้อยคำของหนังสือนี้ กระทำทุกสิ่งซึ่งเขียนไว้เกี่ยวกับเราทั้งหลาย”14
ฮิลคียาห์ปุโรหิต และอาหิคัมและอัคโบร์ และชาฟาน และอาสายาห์ ได้ไปหาฮุลดาห์หญิงผู้เผยพระวจนะภรรยาของชัลลูม บุตรของทิกวาห์บุตรฮารฮัสชาวภูษามาลา (เวลานั้นนางอยู่ในเยรูซาเล็มแขวงสอง) และเขาทั้งหลายได้สนทนากับนาง15
และนางตอบเขาว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ‘จงบอกชายคนที่ใช้พวกเจ้ามาหาเรานั้นว่า16
พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะนำเหตุร้ายมาเหนือที่นี้ และเหนือชาวเมืองนี้ ตามถ้อยคำในหนังสือซึ่งพระราชาแห่งยูดาห์ได้อ่านนั้น17
เพราะเขาทั้งหลายได้ทอดทิ้งเรา และได้เผาเครื่องหอมถวายพระอื่น เพื่อเขาจะได้กระทำให้เราโกรธ ด้วยผลงานทั้งสิ้นแห่งมือของเขา เพราะฉะนั้นความพิโรธของเราจึงจะพลุ่งขึ้นต่อที่นี้ และจะดับเสียไม่ได้18
แต่ฝ่ายราชาแห่งยูดาห์ผู้ได้ส่งเจ้ามาถามพระเจ้านั้น เจ้าจงไปบอกเขาว่า พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เกี่ยวกับเรื่องถ้อยคำที่เจ้าได้ยิน19
เพราะจิตใจของเจ้ากลับใหม่แล้ว เจ้าได้ถ่อมตัวลงต่อพระเจ้าเมื่อเจ้าได้ยินว่า เรากล่าวโทษที่นี้และชาวเมืองนี้อย่างไร คือที่เขาจะต้องกลายเป็นที่ร้างเปล่าและที่ถูกสาป และเจ้าได้ฉีกเสื้อและร้องไห้ต่อเรา เราก็ได้ยินเจ้าแล้วด้วย พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ20
เพราะฉะนั้น ดูเถิด เราจะรวบเจ้าไปไว้กับบรรพบุรุษของเจ้า และเจ้าจะถูกรวบไปยังอุโมงค์ของเจ้าอย่างสันติ และตาของเจ้าจะไม่เห็นเหตุร้ายทั้งสิ้นซึ่งเราจะนำมา เหนือที่นี้’ ” และเขาทั้งหลายก็ได้นำถ้อยคำเหล่านั้นมาทูลพระราชาอีก