กัน‌ดาร‍วิถี-14

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 ประชาชนกบฏ แล้วชุมนุมชนทั้งหมดก็ร้องลั่นขึ้นมา และประชาชนร้องไห้ในคืนวันนั้น
  • 2 คนอิสราเอลทั้งหมดบ่นว่าโมเสสและอาโรน ชุมนุมชนทั้งหมดกล่าวกับท่านทั้งสองว่า “ให้เราตายเสียที่อียิปต์ หรือตายในถิ่นทุรกันดารนี้ยังดีกว่า
  • 3 ทำไมพระยาห์เวห์ทรงนำเรามาในแผ่นดินนี้ให้ล้มตายด้วยคมดาบ? ลูกเมียของเราต้องถูกปล้นเอาไป เรากลับอียิปต์ไม่ดีกว่าหรือ?”
  • 4 เขาพูดต่อกันและกันว่า “ให้เราตั้งคนหนึ่งขึ้นเป็นหัวหน้า แล้วกลับไปอียิปต์”
  • 5 ส่วนโมเสสกับอาโรนซบหน้าลงต่อหน้าที่ประชุมของชุมนุมชนอิสราเอล
  • 6 และโยชูวาบุตรนูนกับคาเลบบุตรเยฟุนเนห์ผู้ร่วมไปสอดแนมแผ่นดินนั้นได้ฉีกเสื้อผ้าของตน
  • 7 และพูดกับชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดว่า “แผ่นดินที่เราไปสอดแนมดูมาตลอดนั้นเป็นแผ่นดินที่ดีเหลือเกิน
  • 8 ถ้าพระยาห์เวห์พอพระทัยในเรา พระองค์จะทรงนำเราเข้าไปและประทานแผ่นดินนี้แก่เรา เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์
  • 9 ขอเพียงอย่าให้เรากบฏต่อพระยาห์เวห์ฮบ.3:16 อย่ากลัวชาวแผ่นดินนั้น เพราะเขาทั้งหลายเป็นเหมือนขนมปังของเราแล้ว เกราะกำบังของพวกเขาก็ถูกนำออกไปแล้ว พระยาห์เวห์สถิตกับเรา อย่ากลัวพวกเขาเลย”
  • 10 แต่ชุมนุมชนทั้งหมดนั้นพูดว่าให้เอาหินขว้างเขาทั้งสองขณะนั้นพระสิริของพระยาห์เวห์ปรากฏที่เต็นท์นัดพบต่อหน้าคนอิสราเอลทั้งหมด
  • 11 และพระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “ชนชาตินี้จะสบประมาทเรานานเท่าไร? พวกเขาจะไม่เชื่อเรานานแค่ไหน? แม้เราได้ทำการอัศจรรย์ทุกอย่างท่ามกลางพวกเขามาแล้ว
  • 12 เราจะประหารเขาทั้งหลายด้วยโรคระบาด และตัดเขาทิ้งไปแปลได้อีกว่า และทำลายเขา แล้วเราจะทำให้เจ้าเป็นประเทศใหญ่โตและแข็งแรงกว่าพวกเขาอีก”
  • 13 โมเสสทูลวิงวอนเพื่อประชาชน แต่โมเสสกราบทูลพระยาห์เวห์ว่า “ชาวอียิปต์จะได้ยินเรื่องนี้ เพราะพระองค์ทรงพาชนชาตินี้ออกจากท่ามกลางพวกเขาด้วยฤทธานุภาพของพระองค์
  • 14 พวกเขาจะเล่าเรื่องนี้แก่ชาวแผ่นดินนี้ เขาทั้งหลายได้ยินว่า พระองค์คือพระยาห์เวห์สถิตท่ามกลางชนชาตินี้ ชนชาตินี้ได้เห็นพระองค์คือพระยาห์เวห์อย่างชัดเจน เมฆของพระองค์ลอยอยู่เหนือเขาทั้งหลาย พระองค์ทรงนำหน้าพวกเขาในเวลากลางวันด้วยเสาเมฆและกลางคืนด้วยเสาไฟ
  • 15 ถ้าพระองค์จะทรงประหารชนชาตินี้ในคราวเดียวภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ชนชาตินี้เหมือนคนคนเดียว ประชาชาติต่างๆ ที่ได้ยินกิตติศัพท์ของพระองค์จะพูดกันว่า
  • 16 ‘เพราะพระยาห์เวห์ไม่สามารถพาชนชาตินี้เข้าไปในแผ่นดินที่พระองค์ทรงปฏิญาณกับพวกเขานั้น พระองค์จึงทรงประหารพวกเขาในถิ่นทุรกันดาร’
  • 17 บัดนี้ข้าพระองค์ทูลวิงวอน ขอองค์เจ้านายทรงสำแดงฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ขอให้ฤทธิ์อำนาจขององค์เจ้านายยิ่งใหญ่ตามที่พระองค์ตรัสไว้ว่า
  • 18 ‘พระยาห์เวห์กริ้วช้า ทรงอุดมด้วยความรักมั่นคง และทรงยกโทษบาปและการทรยศ แต่กระนั้นก็ไม่ละเว้นการลงโทษ ให้บาปของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานสามถึงสี่ชั่วอายุคน’อพย.20:5-6; 34:6-7; ฉธบ.5:9-10; 7:9-10
  • 19 ขอทรงอภัยบาปของชนชาตินี้ตามความรักมั่นคงอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ เหมือนดังที่พระองค์ทรงยกโทษบาปของชนชาตินี้ตั้งแต่อียิปต์จนถึงบัดนี้”อพย.32:11-14
  • 20 แล้วพระยาห์เวห์จึงตรัสว่า “เราให้อภัยตามคำของเจ้า
  • 21 แท้จริงเรามีชีวิตอยู่เช่นไร แผ่นดินโลกทั้งหมดจะเต็มไปด้วยพระสิริของพระยาห์เวห์เช่นนั้น
  • 22 ทุกคนที่ได้เห็นพระสิริของเรา และเห็นการอัศจรรย์ทั้งหลายที่เราทำในอียิปต์และในถิ่นทุรกันดาร แต่ยังทดลองเราถึงสิบครั้ง ทั้งไม่ฟังเสียงของเรา
  • 23 พวกเขาจะไม่ได้เห็นแผ่นดินที่เราปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของเขา และทุกคนที่สบประมาทเราก็จะไม่ได้เห็นแผ่นดินนั้นเช่นกันฮบ.3:18
  • 24 แต่ส่วนคาเลบผู้รับใช้ของเรา เนื่องจากเขามีจิตใจที่แตกต่างและได้ติดตามเราอย่างสุดใจ เราจะนำเขาไปถึงแผ่นดินที่เขาเข้าไปนั้น และพงศ์พันธุ์ของเขาจะได้เป็นกรรมสิทธิ์ยชว.14:9-12
  • 25 ในเมื่อพวกอามาเลขและพวกคานาอันอยู่ที่หุบเขา พรุ่งนี้พวกเจ้าจงกลับไปในถิ่นทุรกันดารตามทางไปยังทะเลแดงแปลจากฉบับกรีก ภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ทะเลแห่งต้นกก”การถูกขับไล่เมื่อเข้ายึดแผ่นดิน
  • 26 ( ฉธบ.1:41-45 ) แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า
  • 27 “เราจะทนต่อชุมนุมชนชั่วร้ายนี้ที่บ่นว่าเรานานแค่ไหน? เราได้ยินเสียงบ่นว่าของคนอิสราเอลซึ่งบ่นว่าเรา
  • 28 เจ้าจงกล่าวกับพวกเขาว่า พระยาห์เวห์ตรัสว่า ‘เรามีชีวิตอยู่ฉันใด เราจะทำกับพวกเจ้าตามสิ่งที่เจ้าทั้งหลายพูดเข้าหูของเราฉันนั้น
  • 29 ซากศพของพวกเจ้าจะตกหล่นอยู่ในถิ่นทุรกันดารนี้ฮบ.3:17 จำนวนคนทั้งหมดของเจ้าซึ่งถูกนับไว้ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปผู้ซึ่งบ่นว่าเรา
  • 30 พวกเจ้าจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินที่เราปฏิญาณว่าภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ในแผ่นดินซึ่งเรายกมือของเราขึ้นจะให้เจ้าอาศัยอยู่ นอกจากคาเลบบุตรเยฟุนเนห์และโยชูวาบุตรนูน
  • 31 แต่บรรดาลูกน้อยที่เจ้าทั้งหลายว่าจะถูกปล้นเอาไปนั้นเราจะให้พวกเขาเข้าไปและเขาจะรู้จักแผ่นดินที่เจ้าทั้งหลายสบประมาทแปลได้อีกว่า ที่เจ้าทั้งหลายปฏิเสธ
  • 32 ส่วนเจ้าทั้งหลาย ศพของเจ้าจะตกหล่นอยู่ในถิ่นทุรกันดารนี้
  • 33 ลูกๆ ของเจ้าทั้งหลายจะเป็นผู้เลี้ยงแกะอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปีกจ.7:36 เขาทั้งหลายจะรับผลของการนอกใจของพวกเจ้า จนกว่าจำนวนซากศพของเจ้าในถิ่นทุรกันดารนี้จะครบถ้วน
  • 34 ตามจำนวนวันที่พวกเจ้าเข้าไปสอดแนมแผ่นดินนั้น คือสี่สิบวัน วันหนึ่งจะเท่ากับปีหนึ่ง เจ้าทั้งหลายจะรับโทษบาปของเจ้าสี่สิบปี เจ้าทั้งหลายจะรู้ซึ้งถึงความไม่พอใจของเรา
  • 35 เราคือยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาแล้ว เราจะทำเช่นนี้กับชุมนุมชนชั่วร้ายทั้งหมดนี้ ซึ่งร่วมกันต่อสู้เรา พวกเขาจะถึงวาระสุดท้ายในถิ่นทุรกันดารและจะตายอยู่ที่นั่น”
  • 36 แล้วพวกที่โมเสสส่งไปสอดแนมแผ่นดิน ผู้ที่กลับมากล่าวร้ายแผ่นดินนั้น ซึ่งทำให้ชุมนุมชนบ่นว่าพระองค์ภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า บ่นว่าเขา ซึ่งอาจแปลได้อีกว่า บ่นว่าโมเสส
  • 37 พวกที่มาและกล่าวร้ายแผ่นดินนั้นต่างตายด้วยโรคภัยเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์
  • 38 เหลือเพียงโยชูวาบุตรนูนและคาเลบบุตรเยฟุนเนห์จากคนที่ไปสอดแนมแผ่นดินที่ยังมีชีวิตอยู่
  • 39 เมื่อโมเสสบอกเรื่องนี้ให้คนอิสราเอลทั้งหมดฟัง ประชาชนก็ร้องไห้โศกเศร้าอย่างยิ่ง
  • 40 และเขาทั้งหลายลุกขึ้นแต่เช้าแล้วขึ้นไปที่ยอดเขา กล่าวว่า “ดูสิ เรามาอยู่ที่นี่แล้ว เราจะเข้าไปยังที่ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงสัญญาไว้ เพราะเราได้ทำผิดแล้ว”
  • 41 แต่โมเสสกล่าวว่า “ทำไมพวกท่านยังขัดขืนพระดำรัสของพระยาห์เวห์? การนี้จะไม่สำเร็จ
  • 42 อย่าขึ้นไปเลย เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ท่ามกลางพวกท่าน อย่าให้ท่านทั้งหลายต้องล้มตายต่อหน้าศัตรูเลย
  • 43 เพราะคนอามาเลขและคนคานาอันอยู่ข้างหน้าท่าน ท่านทั้งหลายจะล้มลงด้วยคมดาบ เพราะท่านได้หันกลับจากการติดตามพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์จะไม่สถิตกับท่านทั้งหลาย”
  • 44 แต่เขาทั้งหลายยังบังอาจขึ้นไปที่ยอดเขา แม้ว่าหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ และโมเสสเองไม่ได้ออกจากค่าย
  • 45 แล้วคนอามาเลขและคนคานาอันที่อยู่ในเขตเทือกเขาลงมาโจมตีและขับไล่พวกเขาไปถึงตำบลโฮรมาห์
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页