1
คำทำนายถึงมรณกรรมของเศเดคียาห์เมื่อถูกจับเป็นเชลย ขณะเมื่อเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน กองทัพทั้งหมดของพระองค์ บรรดาราชอาณาจักรในแผ่นดินโลกซึ่งอยู่ใต้การครอบครองของพระองค์ และชนชาติทั้งหลายกำลังต่อสู้กับกรุงเยรูซาเล็ม2 พกษ.25:1-11;2 พศด.36:17-21และเมืองทั้งปวงของกรุงนั้น มีพระวจนะจากพระยาห์เวห์ถึงเยเรมีย์ว่า
2
“พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า จงไปพูดกับเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ และกล่าวแก่ท่านว่า ‘พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “นี่แน่ะ เราจะมอบกรุงนี้ไว้ในมือกษัตริย์แห่งบาบิโลน และเขาจะเผาเสียด้วยไฟ
3
ท่านจะไม่รอดไปจากมือของเขา แต่จะถูกจับแน่และถูกมอบไว้ในมือของเขา ท่านจะได้เห็นกษัตริย์แห่งบาบิโลนตาต่อตา และจะได้พูดกันปากต่อปาก และท่านจะต้องไปยังบาบิโลน” ’ ”
4
ข้าแต่เศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ อย่างไรก็ดีขอทรงสดับพระวจนะของพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ตรัสเกี่ยวกับฝ่าพระบาทดังนี้ว่า “ท่านจะไม่ตายด้วยดาบ
5
ท่านจะตายด้วยความสงบ และเขาก่อเพลิงเพื่อบรรพบุรุษของท่านคือบรรดากษัตริย์ซึ่งอยู่ก่อนท่านอย่างไร เขาจะก่อเพลิงเพื่อท่านอย่างนั้น และเขาจะคร่ำครวญเพื่อท่านว่า ‘อนิจจาเอ๋ย พระองค์เจ้าข้า’ เพราะเราได้ลั่นวาจาไว้แล้ว” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
6
แล้วเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะได้ทูลพระวจนะเหล่านี้ต่อเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม
7
ขณะเมื่อกองทัพของกษัตริย์แห่งบาบิโลนกำลังสู้รบกรุงเยรูซาเล็มและเมืองต่างๆ ของยูดาห์ที่ยังเหลืออยู่คือ เมืองลาคีชและเมืองอาเซคาห์ ที่ยังเหลืออยู่สองเมืองนี้เท่านั้นเพราะเป็นเมืองของยูดาห์ที่มีกำแพงป้อม
8
การปฏิบัติอย่างไร้สัตย์ต่อทาส พระวจนะมาจากพระยาห์เวห์ยังเยเรมีย์ หลังจากกษัตริย์เศเดคียาห์ได้ทรงทำพันธสัญญากับประชาชนในกรุงเยรูซาเล็มว่า จะประกาศพระราชกฤษฎีกาเรื่องอิสรภาพแก่เขาทั้งหลายดังนี้
9
ให้ทุกคนปล่อยทาสฮีบรูของตนทั้งชายและหญิงให้เป็นอิสระ เพื่อจะไม่มีใครทำให้คนยูดาห์พี่น้องของตนเป็นทาส
10
และพวกเขาก็เชื่อฟัง คือทั้งบรรดาเจ้านายและบรรดาประชาชนผู้เข้าทำพันธสัญญาว่า ทุกคนจะปล่อยทาสของตนทั้งชายและหญิง เพื่อพวกเขาจะไม่ตกเป็นทาสอีก เขาทั้งหลายก็ได้เชื่อฟังและปล่อยทาสให้เป็นอิสระ
11
แต่ภายหลังเขาได้หวนกลับและจับทาสชายและหญิง ซึ่งเขาได้ปล่อยให้เป็นอิสระนั้นมาให้เป็นทาสอยู่ใต้บังคับอีก
12
พระวจนะแห่งพระยาห์เวห์มายังเยเรมีย์จากพระยาห์เวห์ว่า
13
“พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เราได้ทำพันธสัญญากับบรรพบุรุษของเจ้า เมื่อเรานำเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ออกจากเรือนทาสว่า
14
เมื่อถึงปีที่ 7 ทุกคนจะต้องปล่อยพี่น้องฮีบรูผู้ที่ถูกขายไว้กับเจ้า และได้รับใช้เจ้ามา 6 ปี เจ้าต้องปล่อยเขาให้เป็นอิสระพ้นจากการรับใช้เจ้าอพย.21:2; ฉธบ.15:12 แต่บรรพบุรุษของเจ้าไม่ฟังเราและไม่เงี่ยหูฟังเรา
15
เมื่อเร็วๆ นี้เจ้าได้กลับใจและทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเราโดยการประกาศอิสรภาพแก่เพื่อนบ้านของตน และเจ้าได้ทำพันธสัญญาต่อหน้าเราในนิเวศซึ่งเรียกตามชื่อของเรา
16
แต่แล้วเจ้าก็หวนกลับทำให้นามของเราเป็นมลทิน เมื่อเจ้าทุกคนจับทาสชายหญิงของเจ้า ซึ่งเจ้าได้ปล่อยให้เป็นอิสระไปตามความปรารถนาของพวกเขาแล้วนั้นกลับมาให้เป็นทาสอยู่ใต้บังคับอีก
17
เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์จึงตรัสดังนี้ว่า พวกเจ้าไม่ได้เชื่อฟังเรา ที่ให้ประกาศอิสรภาพแก่พี่น้องและเพื่อนบ้านของตน พระยาห์เวห์ตรัสว่า นี่แน่ะ เราจะประกาศอิสรภาพแก่พวกเจ้าด้วย ดาบ โรคระบาด และการกันดารอาหาร เราจะทำให้เจ้าเป็นที่หวาดกลัวแก่บรรดาราชอาณาจักรของแผ่นดินโลก
18
และคนที่ทำผิดต่อพันธสัญญาของเรา และไม่ได้ทำตามข้อตกลงในพันธสัญญาซึ่งเขาได้กระทำต่อหน้าเรานั้น เราจะทำให้เขาเหล่านั้นเป็นดังลูกวัวที่ถูกตัดออกเป็นสองท่อน และมีคนเดินผ่านกลางท่อนเหล่านั้นไป
19
เจ้านายแห่งยูดาห์ก็ดี เจ้านายแห่งกรุงเยรูซาเล็มก็ดี ข้าราชสำนักก็ดี ปุโรหิตและบรรดาประชาชนแห่งแผ่นดินนั้นก็ดี ผู้ผ่านระหว่างท่อนลูกวัวนั้น
20
เราจะมอบพวกเขาไว้ในมือศัตรูของเขา และในมือของบรรดาผู้ที่แสวงเอาชีวิตของเขา ศพของพวกเขาจะเป็นอาหารของนกในอากาศและของสัตว์บนแผ่นดินโลก
21
ส่วนเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์และเจ้านายทั้งหลายของเขานั้น เราจะมอบไว้ในมือศัตรูของเขาและบรรดาผู้ที่แสวงเอาชีวิตของเขา และกองทัพแห่งกษัตริย์บาบิโลนซึ่งได้ถอยไปจากเจ้าแล้วนั้น
22
พระยาห์เวห์ตรัสว่า นี่แน่ะ เราจะบัญชาและจะนำพวกเขากลับมายังกรุงนี้ เขาจะสู้รบกับกรุงนี้ ยึดเอาจนได้ และเผาเสียด้วยไฟ เราจะทำให้เมืองต่างๆ ของยูดาห์เป็นที่ร้างเปล่าไม่มีคนอาศัย”