เย‌เร‌มีย์-52

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 ทบทวนการทำลายเยรูซาเล็ม ( 2 พกษ.24:18-20 ;2 พศด.36:11-16 ) เศเดคียาห์มีพระชนมายุ 21 พรรษา เมื่อทรงขึ้นเป็นกษัตริย์ พระองค์ทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 11 ปี พระมารดามีพระนามว่าฮามุทาล เป็นบุตรหญิงของเยเรมีย์ชาวลิบนาห์
  • 2 พระองค์ทรงทำสิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ ตามทุกอย่างที่เยโฮยาคิมทรงกระทำนั้น
  • 3 และเนื่องด้วยพระพิโรธของพระยาห์เวห์ต่อเยรูซาเล็มและยูดาห์ พระองค์จึงทรงเหวี่ยงทั้งคู่ไปพ้นพระพักตร์ของพระองค์ และเศเดคียาห์ได้กบฏต่อกษัตริย์แห่งบาบิโลน
  • 4 และในปีที่ 9 แห่งรัชกาลของพระองค์ ในวันที่ 10 ของเดือนที่ 10 เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน พร้อมกับกองทัพทั้งสิ้นของพระองค์ได้ต่อสู้กับกรุงเยรูซาเล็มและล้อมเมืองไว้อสค.24:2 และสร้างเครื่องล้อมไว้รอบ
  • 5 กรุงนั้นจึงถูกล้อมอยู่ถึงปีที่ 11 แห่งรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์
  • 6 เมื่อถึงวันที่ 9 ของเดือนที่ 4 เกิดการกันดารอาหารรุนแรงในกรุงนั้น ไม่มีอาหารให้แก่ประชาชนของแผ่นดิน
  • 7 แล้วกรุงนั้นก็แตกอสค.33:21 และทหารทั้งสิ้นหนีออกไปในเวลากลางคืน ตามทางประตูเมืองระหว่างกำแพงทั้งสอง ซึ่งอยู่ริมพระราชอุทยาน ส่วนคนเคลเดียก็ล้อมอยู่รอบกรุง และเขาทั้งหลายไปทางที่ราบ
  • 8 แต่กองทัพของคนเคลเดียได้ไล่ตามกษัตริย์ไป และไปทันเศเดคียาห์ในที่ราบเมืองเยรีโค และกองทัพของพระองค์ก็กระจัดกระจายไปจากพระองค์
  • 9 และเขาก็จับพระองค์ นำขึ้นมาถวายกษัตริย์แห่งบาบิโลนที่เมืองริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท และกษัตริย์ก็ทรงพิพากษาโทษพระองค์
  • 10 กษัตริย์แห่งบาบิโลนทรงประหารบรรดาพระราชโอรสของเศเดคียาห์ต่อพระพักตร์พระองค์ และทรงประหารเจ้านายทั้งสิ้นแห่งยูดาห์เสียที่เมืองริบลาห์
  • 11 พระองค์ทรงทำให้พระเนตรของเศเดคียาห์บอดและตีตรวนไว้ แล้วกษัตริย์แห่งบาบิโลนทรงนำพระองค์ไปยังบาบิโลนอสค.12:13 และทรงขังพระองค์ไว้ในคุกจนวันที่พระองค์สิ้นพระชนม์
  • 12 เมื่อวันที่ 10 ในเดือนที่ 5 ซึ่งเป็นปีที่ 19 ของรัชกาลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ผู้ปรนนิบัติกษัตริย์บาบิโลนได้เข้าไปในกรุงเยรูซาเล็ม
  • 13 และเขาได้เผาพระนิเวศของพระยาห์เวห์1 พกษ.9:8 และพระราชวัง และบ้านเรือนทั้งสิ้นของกรุงเยรูซาเล็มเสีย ท่านเผาบ้านใหญ่ๆ เสียหมดทุกหลัง
  • 14 และกองทัพทั้งสิ้นของคนเคลเดีย ผู้อยู่กับผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระองค์ ได้ทลายกำแพงทั้งหมดที่อยู่รอบกรุงเยรูซาเล็มลง
  • 15 และเนบูซาระดานผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระองค์ ได้จับประชาชนยากจนที่สุดบางคน ประชาชนที่เหลืออยู่ผู้อยู่ในนคร ผู้หลบหนีผู้ได้หนีไปหากษัตริย์แห่งบาบิโลน และช่างที่เหลืออยู่ไปเป็นเชลย
  • 16 แต่เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ได้ละคนยากจนที่สุดในแผ่นดินไว้บ้าง เพื่อให้เป็นคนทำสวนองุ่นและเป็นคนทำไร่ไถนา
  • 17 บรรดาเสาทองสัมฤทธิ์ซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ อีกทั้งแท่นและอ่างสาครทองสัมฤทธิ์ ซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์นั้น คนเคลเดียได้ทุบเสียเป็นชิ้นๆ และขนเอาทองสัมฤทธิ์ทั้งหมดไปยังบาบิโลน
  • 18 และเขาได้ขนเอาหม้อ พลั่ว ตะไกรตัดไส้ตะเกียง อ่าง ชามเครื่องหอม และภาชนะทองสัมฤทธิ์ ซึ่งใช้ในพิธีกรรมของพระวิหาร
  • 19 ทั้งชามอ่างเล็ก กระถางไฟ อ่าง หม้อ เชิงตะเกียง ชามเครื่องหอม และขันเครื่องดื่มบูชา อะไรที่ทำด้วยทองคำ ผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระองค์ก็เอาไปเป็นทองคำ อะไรที่ทำด้วยเงินก็เอาไปเป็นเงิน
  • 20 ส่วนเสาใหญ่สองต้น และอ่างสาครหนึ่งใบ กับวัวทองสัมฤทธิ์สิบสองตัว ซึ่งอยู่ใต้อ่างสาคร และเชิงทั้งหลาย ซึ่งกษัตริย์ซาโลมอนได้สร้างไว้สำหรับพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ทองสัมฤทธิ์ของสิ่งของเหล่านี้ก็ชั่งกันไม่ไหว
  • 21 ส่วนเสานั้น เสาต้นหนึ่งสูง 8 เมตร วัดรอบได้ 5.3 เมตร และหนา 75 มิลลิเมตร ตรงกลางกลวง
  • 22 บนเสานี้มีบัวคว่ำทองสัมฤทธิ์ บัวคว่ำอันหนึ่งสูง 2.2 เมตร มีลายไขว้และลูกทับทิม ทั้งหมดทำด้วยทองสัมฤทธิ์อยู่รอบบัวคว่ำ และเสาที่สองก็มีเหมือนกัน ทั้งลูกทับทิมด้วย
  • 23 ข้างๆ มีลูกทับทิม 96 ลูก บนลายไขว้โดยรอบนั้นมีลูกทับทิมทั้งหมด 100 ลูก1 พกษ.7:15-47
  • 24 ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ได้จับเสไรยาห์มหาปุโรหิต เศฟันยาห์ปุโรหิตรอง และผู้เฝ้าธรณีประตู 3 คน
  • 25 และจากกรุงนั้นท่านจับข้าราชสำนักซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพ และที่ปรึกษาของกษัตริย์ 7 คน ซึ่งพบอยู่ในกรุงนั้น และอาลักษณ์ของผู้บัญชาการกองทัพผู้ซึ่งเกณฑ์ราษฎร และราษฎรอีก 60 คนซึ่งพบอยู่ท่ามกลางกรุงนั้น
  • 26 และเนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ได้จับคนเหล่านี้นำไปถวายกษัตริย์แห่งบาบิโลนที่ริบลาห์
  • 27 และกษัตริย์แห่งบาบิโลนทรงตีเขา และประหารชีวิตเขาทั้งหลายเสียที่ริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท ยูดาห์จึงถูกกวาดไปเป็นเชลยจากแผ่นดินของตน
  • 28 ต่อไปนี้เป็นจำนวนประชาชนซึ่งเนบูคัดเนสซาร์จับไปเป็นเชลย ในปีที่ 7 พวกยิว 3,023 คน
  • 29 ในปีที่ 18 แห่งรัชกาลเนบูคัดเนสซาร์ ท่านขนเชลยจากกรุงเยรูซาเล็ม 832 คน
  • 30 ในปีที่ 23 แห่งรัชกาลเนบูคัดเนสซาร์ เนบูซาระดานผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระองค์จับยิวเป็นเชลย 745 คน รวมคนทั้งหมดเป็น 4,600 คนเยโฮยาคีนได้รับความกรุณาขณะเป็นเชลย
  • 31 ( 2 พกษ.25:27-30 ) และในปีที่ 37 แห่งการเป็นเชลยของเยโฮยาคีนกษัตริย์แห่งยูดาห์นั้น เมื่อวันที่ 25 ในเดือนที่ 12 ในปีที่ขึ้นครองราชย์ เอวิลเมโรดักกษัตริย์แห่งบาบิโลนทรงพระกรุณาต่อเยโฮยาคีนกษัตริย์แห่งยูดาห์ และทรงนำพระองค์ออกมาจากเรือนจำ
  • 32 พระองค์ตรัสอย่างเมตตาต่อเยโฮยาคีน และประทานที่นั่งที่มีเกียรติกว่ากษัตริย์ทั้งหลายที่อยู่ในบาบิโลน
  • 33 ดังนั้นเยโฮยาคีนจึงทรงถอดเครื่องแต่งกายนักโทษออกเสีย และได้เสวยที่โต๊ะเสวยของกษัตริย์ทุกวันตลอดชีวิต
  • 34 ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นก็ได้รับพระราชทานจากกษัตริย์ตามความต้องการรายวันตลอดชีวิต จนถึงวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页