1
พวกเชลยกลับมาด้วยความร่าเริงยินดี พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “ในครั้งนั้น เราจะเป็นพระเจ้าของทุกตระกูลแห่งอิสราเอลและเขาทั้งหลายจะเป็นประชากรของเรา”
2
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า“ชนชาติที่รอดตายจากดาบได้รับความโปรดปรานในถิ่นทุรกันดารเมื่ออิสราเอลแสวงหาการหยุดพัก
3
พระยาห์เวห์ทรงปรากฏแก่เขาแปลจากฉบับกรีก ส่วนฉบับฮีบรูว่า ข้าพเจ้าจากที่ไกล ตรัสว่าเราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์เพราะฉะนั้น เราจึงนำเจ้ามาด้วยความรักมั่นคง
4
เราจะสร้างเจ้าอีก และเจ้าจะถูกสร้างใหม่โอ อิสราเอลพรหมจารีเจ้าจะหยิบรำมะนาขึ้นมาอีกและจะออกไปเต้นรำกับผู้ที่สนุกสนานกัน
5
เจ้าจะปลูกสวนองุ่นบนภูเขาสะมาเรียอีกผู้ปลูกก็จะปลูกและใช้ผลนั้น
6
เพราะว่าจะมีวันเมื่อคนเฝ้ายามจะร้องเรียกอยู่ในเขตแดนเทือกเขาเอฟราอิมว่า‘จงลุกขึ้น ให้เราไปยังศิโยนเถิดไปเฝ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา’ ”
7
เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า“จงร้องเพลงด้วยความยินดีเพื่อยาโคบและเปล่งเสียงโห่ร้องท่ามกลางประมุขของบรรดาประชาชาติจงป่าวร้องสรรเสริญ และกล่าวว่า‘ขอพระยาห์เวห์ทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้รอดเถิดคือคนที่เหลืออยู่ของอิสราเอล’
8
นี่แน่ะ เราจะนำพวกเขามาจากแดนเหนือและรวบรวมเขาจากส่วนที่ไกลที่สุดของพิภพมีคนตาบอด คนขาเขยกอยู่ท่ามกลางเขาผู้หญิงที่มีครรภ์และผู้หญิงที่กำลังจะคลอดบุตรจะมาด้วยกันเขาจะกลับมาที่นี่เป็นหมู่ใหญ่
9
เขาจะมาด้วยการร้องไห้และเราจะนำเขากลับด้วยการปลอบใจเราจะให้เขาเดินข้ามลำธารน้ำในทางราบซึ่งเขาจะไม่สะดุดเพราะเราเป็นบิดาแก่อิสราเอลและเอฟราอิมเป็นบุตรหัวปีของเรา
10
“บรรดาประชาชาติเอ๋ย จงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์และจงประกาศพระวจนะนั้นในแผ่นดินชายทะเลที่ห่างออกไปจงกล่าวว่า ‘พระองค์ผู้ทรงกระจายอิสราเอลนั้นจะรวบรวมเขาและจะดูแลเขาอย่างกับผู้เลี้ยงแกะดูแลฝูงแกะของตน’
11
เพราะพระยาห์เวห์ทรงไถ่ยาโคบไว้แล้วและได้ไถ่มาจากมือที่แข็งแรงเกินกว่าเขา
12
เขาทั้งหลายจะมาร้องเพลงอยู่บนที่สูงแห่งศิโยนและเขาจะปลาบปลื้มเพราะสิ่งดีของพระยาห์เวห์เพราะเมล็ดข้าว เหล้าองุ่น และน้ำมันเพราะลูกแกะและโคชีวิตของพวกเขาจะเหมือนกับสวนที่มีน้ำรดและเขาจะไม่อ่อนระอาอีกต่อไป
13
แล้วพวกหญิงพรหมจารีจะเปรมปรีดิ์ในการเต้นรำทั้งคนหนุ่มและคนแก่จะรื่นเริงเราจะกลับความโศกเศร้าของเขาให้เป็นความชื่นบานเราจะปลอบโยนเขาและให้ความยินดีแก่เขาแทนการไว้ทุกข์
14
เราจะให้ปุโรหิตอิ่มด้วยความอุดมสมบูรณ์และประชากรของเราจะพอใจด้วยสิ่งดีของเราพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ”
15
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า“ได้ยินเสียงในเมืองรามาห์เป็นเสียงโอดครวญและร่ำไห้นางราเชลร้องไห้คร่ำครวญ เพราะบุตรทั้งหลายของตนปฐก.35:16-19นางไม่รับคำปลอบโยนในเรื่องบุตรทั้งหลายของตนเพราะว่าบุตรทั้งหลายนั้นไม่มีแล้ว”มธ.2:18
16
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า“ระงับเสียงร้องไห้คร่ำครวญไว้เสียเถิดและระงับน้ำตาจากตาของเจ้าเสียเพราะว่าการงานของเจ้าจะได้รับรางวัลพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละและเขาทั้งหลายจะกลับมาจากแผ่นดินของศัตรู”
17
พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เรื่องอนาคตของเจ้ายังมีหวังและพวกลูกของเจ้าจะกลับมายังประเทศของเขาเอง
18
“เราได้ยินเอฟราอิมคร่ำครวญว่า‘พระองค์ทรงตีสอนข้าพระองค์ และข้าพระองค์ก็ถูกตีสอนอย่างลูกโคที่ยังไม่เชื่องขอทรงนำข้าพระองค์กลับ เพื่อข้าพระองค์จะได้กลับสู่สภาพเดิมเพราะพระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์
19
เพราะหลังจากที่ข้าพระองค์หันกลับ ข้าพระองค์ก็กลับใจและหลังจากที่ข้าพระองค์รับคำสั่งสอนแล้วข้าพระองค์ก็ตีขาตัวเองด้วยความเสียใจอย่างยิ่งข้าพระองค์อับอาย และขายหน้าเพราะข้าพระองค์ต้องทนรับความเสื่อมเสีย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อยังหนุ่มอยู่นั้น’
20
เอฟราอิมเป็นบุตรชายที่รักของเราเป็นลูกที่เราชื่นชมไม่ใช่หรือ?เพราะเราจะพูดกล่าวโทษเขาตราบใดเราก็ยังระลึกถึงเขาอยู่ตราบนั้นเพราะฉะนั้น จิตใจของเราจึงถวิลหาเขาเราจะมีความเมตตาต่อเขาแน่”พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
21
“จงปักป้ายชี้ทางไว้สำหรับตนจงทำป้ายนำทางไว้สำหรับตัวจงพิจารณาให้ดีถึงทางหลวงคือทางซึ่งเจ้าดำเนินไปนั้นอิสราเอลพรหมจารีเอ๋ย จงกลับเถิดจงกลับมายังเมืองเหล่านี้ของเจ้า
22
ลูกสาว ผู้กลับสัตย์เอ๋ยเจ้าจะเถลไถลอยู่อีกนานสักเท่าใด?เพราะพระยาห์เวห์ทรงสร้างสิ่งใหม่บนพิภพ คือผู้หญิงล้อมผู้ชาย”
23
พระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตรัสดังนี้ว่า “เมื่อเราให้เขากลับสู่สภาพเดิม เขาจะใช้ถ้อยคำต่อไปนี้ในแผ่นดินของยูดาห์ และในเมืองทั้งหลายอีกครั้งหนึ่ง คือ‘โอ ที่อยู่แห่งความชอบธรรมเอ๋ย ภูเขาบริสุทธิ์เอ๋ยขอพระยาห์เวห์ทรงอวยพรเจ้า’
24
ยูดาห์และเมืองทั้งสิ้นนั้น ทั้งบรรดาชาวนา บรรดาผู้ที่ท่องเที่ยวไปมาพร้อมกับฝูงแกะของเขา จะอาศัยอยู่ด้วยกันที่นั่น
25
เพราะเราจะให้จิตใจที่อ่อนแรงนั้นอิ่ม และทุกจิตใจที่อ่อนระอาเราจะให้อิ่มบริบูรณ์”
26
เมื่อนั้น ข้าพเจ้าตื่นขึ้นและมองดู และการนอนหลับของข้าพเจ้าก็เป็นที่ชื่นใจข้าพเจ้า
27
การตอบแทนรายบุคคล พระยาห์เวห์ตรัสว่า “นี่แน่ะ วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะหว่านเมล็ดพันธุ์ทั้งของคนและของสัตว์ในเชื้อสายของอิสราเอลและเชื้อสายของยูดาห์
28
และเมื่อเราเฝ้าดูเขาเพื่อจะถอนออก พังลง คว่ำเสีย ทำลาย และนำเหตุร้ายมาอย่างไร เราจะเฝ้าดูเขาเพื่อจะสร้างขึ้นและปลูกฝังอย่างนั้น” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
29
“ในสมัยนั้น เขาจะไม่กล่าวต่อไปอีกว่า‘พ่อกินองุ่นเปรี้ยวแล้วลูกก็เข็ดฟัน’อสค.18:2
30
แต่ทุกคนจะต้องตายเพราะความผิดบาปของตนเอง มนุษย์ทุกคนที่รับประทานองุ่นเปรี้ยว ก็จะเข็ดฟัน”
31
พันธสัญญาใหม่ พระยาห์เวห์ตรัสว่า “นี่แน่ะ วันเวลาจะมาถึง ซึ่งเราจะทำพันธสัญญาใหม่มธ.26:28; มก.14:24; ลก.22:20;1 คร.11:25;2 คร.3:6กับเชื้อสายของอิสราเอลและเชื้อสายของยูดาห์
32
ไม่เหมือนกับพันธสัญญาซึ่งเราได้ทำกับบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย เมื่อเราจูงมือเขาเพื่อนำเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เป็นพันธสัญญาของเราซึ่งเขาฝ่าฝืน ถึงแม้ว่าเราได้เป็นสามีของเขา” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
33
“แต่นี่จะเป็นพันธสัญญาซึ่งเราจะทำกับเชื้อสายของอิสราเอลภายหลังสมัยนั้น” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ “เราจะบรรจุธรรมบัญญัติไว้ในเขาทั้งหลาย และเราจะจารึกมันไว้บนดวงใจของเขาฮบ.10:16 และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชากรของเรา
34
และทุกคนจะไม่สอนเพื่อนบ้านและพี่น้องของตนแต่ละคนอีกว่า ‘จงรู้จักพระยาห์เวห์’ เพราะเขาทุกคนจะรู้จักเราตั้งแต่คนเล็กน้อยที่สุดถึงคนใหญ่โตที่สุด” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ “เพราะเราจะให้อภัยความผิดบาปของเขา และจะไม่จดจำบาปของเขาอีกต่อไป”ฮบ.10:17ฮบ.8:8-12
35
พระยาห์เวห์ผู้ทรงให้ดวงอาทิตย์เป็นแสงสว่างตอนกลางวันและทรงให้กฎเกณฑ์แก่ดวงจันทร์ และทรงให้บรรดาดวงดาวเป็นแสงสว่างตอนกลางคืนผู้ทรงกวนทะเลให้คลื่นกำเริบพระนามของพระองค์ คือพระยาห์เวห์จอมทัพ ตรัสดังนี้ว่า
36
“หากระเบียบตายตัวนี้จะพรากไปจากหน้าเราแล้วเชื้อสายของอิสราเอลจึงจะสิ้นสุด จากการเป็นชนชาติหนึ่งต่อหน้าเราเป็นนิตย์” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
37
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า“หากฟ้าสวรรค์เบื้องบนเป็นที่วัดได้ และรากฐานของพิภพเบื้องล่างเป็นที่ให้สำรวจได้แล้วเราจึงจะปลดเชื้อสายทั้งสิ้นของอิสราเอลทิ้งไปเสีย เพราะทุกสิ่งซึ่งเขาได้ทำนั้น” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
38
เยรูซาเล็มจะถูกขยายออกไป พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “นี่แน่ะ วันเวลาจะมาถึงที่เมืองนี้จะถูกสร้างขึ้นใหม่เพื่อพระยาห์เวห์ ตั้งแต่หอคอยฮานันเอลไปถึงประตูมุม
39
และเชือกวัดจะไปไกลกว่านั้นตรงไปถึงเนินเขากาเรบ แล้วจะเลี้ยวไปถึงตำบลโกอาห์
40
และทั่วทั้งหุบเขาแห่งซากศพและขี้เถ้า และทุ่งนาทั้งหมดไกลไปจนถึงลำธารขิดโรน จนถึงมุมประตูม้าไปทางตะวันออก จะเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์แด่พระยาห์เวห์ จะไม่ถูกถอนรากหรือคว่ำอีกต่อไปเป็นนิตย์”