1
ประชากรของพระเจ้าได้รับการชูใจ พระเจ้าของพวกท่านตรัสว่า“จงชูใจ จงชูใจประชากรของเรา
2
จงพูดกับเยรูซาเล็มอย่างเห็นใจและจงบอกเมืองนั้นว่า‘ความลำบากแปลได้อีกว่า งานหนักของเธอสิ้นสุดลงแล้วและบาปของเธอได้รับการอภัยแล้วแปลได้อีกว่า และบาปของเธอได้รับการชดใช้แล้วและเธอได้รับโทษจากพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์เป็นสองเท่าของความผิดของเธอแล้ว’ ”
3
เสียงหนึ่งร้องว่า“จงเตรียมมรรคาของพระยาห์เวห์ในถิ่นทุรกันดารจงทำทางหลวงในที่ราบแห้งแล้งให้ตรงสำหรับพระเจ้าของเรา มธ.3:3; มก.1:3; ยน.1:23
4
หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมสูงขึ้นภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ถูกยกขึ้นภูเขาและเนินเขาทุกลูกจะปรับให้ต่ำลงที่ลุ่มๆ ดอนๆ จะทำให้เสมอและที่สูงๆ ต่ำๆ จะให้ราบเรียบ
5
และพระสิริของพระยาห์เวห์จะปรากฏแล้วมนุษย์ทุกคนจะมองเห็นด้วยกันเพราะพระโอษฐ์คำราชาศัพท์หมายถึง ปากของพระยาห์เวห์ตรัสไว้แล้ว”ลก.3:4-6
6
มีเสียงหนึ่งกล่าวว่า “จงร้องสิ”และข้าพเจ้าแปลตามฉบับกรีกและฉบับทะเลตาย ส่วนฉบับฮีบรูว่า และเขา ว่า“ข้าจะร้องอะไร? ”มนุษย์ทุกคนก็เป็นเหมือนต้นหญ้าและสง่าราศีแปลตามฉบับกรีก ส่วนฉบับฮีบรูว่า ความภักดีทั้งหมดของเขาก็เหมือนดอกไม้ในทุ่ง
7
ต้นหญ้าก็เหี่ยวแห้ง และดอกไม้ก็ร่วงโรยเมื่อพระปัสสาสะคำราชาศัพท์หมายถึง ลมหายใจออกของพระยาห์เวห์เป่ามาถูกมันแน่ทีเดียว มนุษยชาตินั้นคือต้นหญ้า
8
ต้นหญ้าก็เหี่ยวแห้ง และดอกไม้ก็ร่วงโรยแต่พระวจนะพระเจ้าของเราจะยั่งยืนเป็นนิตย์ยก.1:10-11;1 ปต.1:24-25
9
เจ้าจงขึ้นไปบนภูเขาสูงโอ ศิโยนผู้นำข่าวดีแปลได้อีกว่า โอ ผู้นำข่าวดีมายังศิโยนจงเปล่งเสียงของเจ้าด้วยเต็มกำลังโอ เยรูซาเล็มผู้นำข่าวดีแปลได้อีกว่า โอ ผู้นำข่าวดีมายังเยรูซาเล็มจงเปล่งเสียงเถิด อย่ากลัวเลยจงพูดกับเมืองทั้งหลายของยูดาห์ว่า“ดูเถิด พระเจ้าของพวกเจ้า”
10
ดูสิ พระยาห์เวห์ องค์เจ้านายเสด็จมาด้วยอานุภาพและพระกรของพระองค์ครอบครองเพื่อพระองค์นี่แน่ะ รางวัลของพระองค์ก็อยู่กับพระองค์และค่าตอบแทนของพระองค์ก็อยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์อสย.62:11; วว.22:12
11
พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแกะของพระองค์เหมือนผู้เลี้ยงแกะยน.10:11พระองค์จะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ด้วยพระกรของพระองค์พระองค์จะทรงอุ้มไว้ที่พระทรวงและจะค่อยๆ นำแม่แกะที่มีลูกอ่อน
12
ใครตวงน้ำทั้งหลายด้วยอุ้งมือของตนและวัดฟ้าสวรรค์ด้วยคืบเดียวทั้งบรรจุผงคลีของแผ่นดินโลกไว้ในถังตวง?ใครชั่งภูเขาทั้งหลายด้วยตาชั่งและชั่งบรรดาเนินเขาด้วยตราชู?
13
ใครให้คำแนะนำแก่พระวิญญาณของพระยาห์เวห์หรือเป็นที่ปรึกษาของพระองค์ผู้ให้คำสอนแก่พระองค์?รม.11:34;1 คร.2:16
14
ใครที่พระองค์ทรงต้องปรึกษาเพื่อจะรู้แจ้งและใครสอนทางแห่งความยุติธรรมให้พระองค์?ใครสอนความรู้แก่พระองค์และสำแดงให้พระองค์รู้ทางแห่งความเข้าใจ?
15
นี่แน่ะ บรรดาประชาชาติก็เหมือนน้ำหยดหนึ่งจากถังและถือว่าเป็นเหมือนฝุ่นบนตราชูดูสิ พระองค์ทรงหยิบเกาะทั้งหลายขึ้นมาเหมือนผงคลี
16
เลบานอนไม่พอเป็นฟืนและสัตว์ป่าของมันก็ไม่พอเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว
17
สำหรับพระองค์ ประชาชาติทั้งหมดก็เหมือนไม่มีอะไรเลยพระองค์ทรงนับเขาเป็นยิ่งกว่าศูนย์และความว่างเปล่า
18
ท่านทั้งหลายจะเปรียบพระเจ้าเหมือนกับใครหรือเปรียบพระองค์คล้ายกับอะไร?
19
คล้ายรูปเคารพที่ช่างหล่อไว้แล้วช่างทองทำทองหุ้มและทำสร้อยเงินให้หรือ?กจ.17:29
20
คนยากจนก็หาเครื่องบูชาเป็นไม้ที่ไม่ผุแปลได้อีกว่า คนยากจนเกินกว่าจะหาเครื่องบูชา ก็หาไม้ที่ไม่ผุเขาเสาะหาช่างที่มีฝีมือให้ตั้งมันขึ้นมาเป็นรูปเคารพที่ไม่สั่นคลอน
21
พวกท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือ? ท่านเคยได้ยินไม่ใช่หรือ?พวกท่านได้รับการบอกกล่าวตั้งแต่ต้นแล้วไม่ใช่หรือ?ท่านไม่เข้าใจเรื่องรากฐานแปลได้อีกว่า ไม่เข้าใจตั้งแต่วางรากฐานของแผ่นดินโลกหรือ?
22
คือพระองค์ประทับเหนือหลังคาโค้งของแผ่นดินโลกและชาวแผ่นดินโลกก็เป็นเหมือนตั๊กแตนพระองค์ทรงขึงฟ้าสวรรค์เหมือนขึงม่านและกางมันออกเหมือนเต็นท์สำหรับอาศัย
23
ผู้ทรงทำให้เจ้านายเป็นเหมือนไม่มีอะไรเลยและทรงทำให้ผู้ครอบครองแผ่นดินโลกเป็นเหมือนความว่างเปล่า
24
พวกเขายังไม่ทันจะถูกปลูก ยังไม่ทันจะถูกหว่านต้นของเขายังไม่ทันจะหยั่งรากลงพื้นดินเมื่อพระองค์ทรงเป่าบนพวกเขา เขาก็เหี่ยวแห้งไปและพายุก็พัดพาเขาไปเหมือนตอข้าว
25
องค์บริสุทธิ์ตรัสว่า “พวกเจ้าจะเปรียบเรากับผู้ใด?และมีใครที่เสมอเหมือนเรา? ”
26
จงเงยตาของพวกท่านขึ้น แล้วมองดูว่าใครสร้างสิ่งเหล่านี้?พระองค์ทรงนำพวกมันออกมาเป็นกลุ่มๆ ตามจำนวนเรียกชื่อของมันทั้งหมดเพราะพลังของพระองค์นั้นมีมากมายและกำลังของพระองค์นั้นใหญ่หลวงนักจึงไม่ขาดหายไปแม้แต่ดวงเดียว
27
โอ ยาโคบเอ๋ย ทำไมท่านจึงกล่าวว่าอิสราเอลเอ๋ย ทำไมท่านจึงพูดว่า“ทางของข้าพเจ้าถูกปิดไว้จากพระยาห์เวห์และความยุติธรรมที่ควรเป็นของข้าพเจ้านั้นก็ผ่านพระเจ้าของข้าพเจ้าไป?”
28
ท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือ? ท่านเคยได้ยินไม่ใช่หรือ?พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าเนืองนิตย์เป็นผู้สร้างที่สุดปลายแผ่นดินโลกพระองค์ไม่ทรงอ่อนเปลี้ยหรือเหน็ดเหนื่อยความเข้าใจของพระองค์ก็เหลือจะหยั่งรู้ได้
29
พระองค์ประทานกำลังแก่คนอ่อนเปลี้ยและผู้ไม่มีพลังนั้นพระองค์ทรงให้มีเรี่ยวแรงมาก
30
แม้คนหนุ่มๆ จะอ่อนเปลี้ยและเหน็ดเหนื่อยและชายฉกรรจ์จะล้มลงทีเดียว
31
แต่เขาทั้งหลายผู้รอคอยพระยาห์เวห์จะได้รับกำลังใหม่เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรีเขาจะวิ่งและไม่อ่อนเปลี้ยเขาจะเดินและไม่เหน็ดเหนื่อย