1
ผลของปัญญา ปัญญาไม่ได้ร้องเรียกหรือ?ความเข้าใจไม่ได้เปล่งเสียงหรือ?
2
บนยอดสูง ที่ข้างทางและตามถนน ปัญญายืนอยู่
3
ข้างประตูหน้าเมืองคือที่ทางเข้า ปัญญาร้องเสียงดังว่าสภษ.1:20-21
4
“โอ ทุกๆ คน ข้าพเจ้าเรียกเจ้าและเสียงเรียกของข้าพเจ้าไปถึงมนุษย์ทั้งหลาย
5
โอ คนรู้น้อย จงเข้าถึงความสุขุมโอ คนโง่ จงเข้าใจแปลได้อีกว่า จงมีสามัญสำนึก
6
จงฟัง เพราะข้าพเจ้าจะพูดสิ่งที่มีเกียรติเพราะสิ่งที่ถูกต้องจะมาจากปากของข้าพเจ้า
7
เพราะปากของข้าพเจ้าจะพูดความจริงความชั่วเป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังต่อริมฝีปากของข้าพเจ้า
8
ทุกคำจากปากของข้าพเจ้านั้นชอบธรรมไม่บิดผันหรือตลบตะแลง
9
คำเหล่านั้นก็ตรงหมดสำหรับผู้ที่เข้าใจและถูกต้องสำหรับผู้พบความรู้
10
จงรับคำสั่งสอนของข้าพเจ้าแทนเงินและจงรับความรู้แทนทองคำเนื้อดี
11
เพราะปัญญาดีกว่าทับทิมอาจหมายถึง กัลปังหาสีแดง (ซึ่งคนสมัยนั้นถือว่าเป็นของมีค่า)และทุกสิ่งที่เจ้าปรารถนาเปรียบกับปัญญาไม่ได้เลย
12
ข้าพเจ้าคือปัญญา อยู่กับความสุขุมและข้าพเจ้าพบความรู้และความเฉลียวฉลาด
13
ความยำเกรงพระยาห์เวห์คือการเกลียดชังความชั่วร้ายข้าพเจ้าเกลียดความเย่อหยิ่งและความจองหองและทางของความชั่วร้ายกับวาจาตลบตะแลง
14
ข้าพเจ้ามีคำแนะนำและสติปัญญาข้าพเจ้าเองเป็นความรอบรู้ ข้าพเจ้ามีพลัง
15
โดยข้าพเจ้า กษัตริย์จึงครองราชย์และผู้ครอบครองจึงตรากฎหมายที่ยุติธรรม
16
โดยข้าพเจ้า เจ้านายจึงครอบครองรวมทั้งขุนนาง คือทุกคนที่วินิจฉัยแปลได้อีกว่า ปกครองอย่างยุติธรรม
17
ข้าพเจ้ารักคนที่รักข้าพเจ้าและคนที่เสาะหาข้าพเจ้าอย่างตั้งใจก็จะพบข้าพเจ้า
18
ความมั่งคั่งและเกียรติอยู่กับข้าพเจ้าทั้งทรัพย์สินที่ทนทานและความชอบธรรม
19
ผลของข้าพเจ้าดีกว่าทองคำ ดีกว่าทองบริสุทธิ์และผลผลิตของข้าพเจ้าดีกว่าเงินเนื้อดี
20
ข้าพเจ้าดำเนินในทางแห่งความชอบธรรมในท่ามกลางวิถีแห่งความยุติธรรม
21
ข้าพเจ้าจะให้คนที่รักข้าพเจ้าได้ครอบครองทรัพย์สินข้าพเจ้าจะบรรจุคลังทรัพย์ของเขาให้เต็ม
22
บทบาทของปัญญาในการทรงสร้าง “พระยาห์เวห์ทรงให้กำเนิดข้าพเจ้าแล้ว เมื่อทรงเริ่มงานของพระองค์วว.3:14ข้าพเจ้าเป็นสิ่งแรกในพระราชกิจโบราณของพระองค์
23
ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มาแล้ว ข้าพเจ้าถูกสถาปนาไว้ตั้งแต่แรก ก่อนการเริ่มต้นของแผ่นดินโลก
24
เมื่อยังไม่มีมหาสมุทร ข้าพเจ้าถือกำเนิดมาแล้วเมื่อไม่มีน้ำพุที่มีน้ำมากมาย
25
ก่อนภูเขาถูกวางรากก่อนเนินเขา ข้าพเจ้าก็ถือกำเนิดมาแล้ว
26
ก่อนทรงสร้างแผ่นดินและไร่นาทั้งก่อนผงคลีแรกของพิภพ
27
เมื่อทรงสถาปนาฟ้าสวรรค์ ข้าพเจ้าอยู่ที่นั่นแล้วเมื่อทรงลากเส้นรอบวงบนพื้นมหาสมุทร
28
เมื่อทรงทำให้ฟ้าเบื้องบนมั่นคงเมื่อทรงสถาปนาน้ำพุของที่ลึก
29
เมื่อทรงกำหนดขอบเขตให้ทะเลเพื่อว่าน้ำจะไม่ละเมิดพระบัญชาของพระองค์เมื่อทรงปักรากฐานของแผ่นดินโลก
30
ข้าพเจ้าก็อยู่ข้างพระองค์แล้วเหมือนอย่างนายช่างแปลได้อีกว่า เหมือนอย่างเด็กเล็กข้าพเจ้าเป็นความปีติยินดีประจำวันของพระองค์เปรมปรีดิ์อยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ทุกเวลา
31
เปรมปรีดิ์ในพิภพของพระองค์ภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า พิภพ แผ่นดินของพระองค์และปีติยินดีในมนุษย์ทั้งหลาย
32
“ลูกทั้งหลายเอ๋ย บัดนี้จงฟังข้าพเจ้าคนทั้งหลายที่รักษาทางของข้าพเจ้าก็เป็นสุข
33
จงฟังคำสั่งสอน และจงมีปัญญาและอย่าเพิกเฉยเสีย
34
คนที่ฟังข้าพเจ้า ก็เป็นสุขคือคนที่เฝ้าอยู่ที่ประตูรั้วของข้าพเจ้าทุกวันและคอยอยู่ข้างประตูบ้านของข้าพเจ้า
35
เพราะคนที่พบข้าพเจ้า ก็พบชีวิตและได้ความโปรดปรานจากพระยาห์เวห์
36
แต่คนที่ไม่พบข้าพเจ้าก็ทำให้ตัวเองเจ็บทุกคนที่เกลียดข้าพเจ้าก็รักความมรณา”