เพลงสดุดี-78

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 ความสัตย์สุจริตของพระเจ้าต่อชนชาติ ผู้ไม่ซื่อสัตย์ของพระองค์ มัสคิลบทหนึ่งของอาสาฟ ประชากรของข้าพเจ้าเอ๋ย จงเงี่ยหูฟังคำสอนของข้าพเจ้าเอียงหูของท่านทั้งหลายฟังถ้อยคำจากปากข้าพเจ้า
  • 2 ข้าพเจ้าจะอ้าปากกล่าวคำอุปมาข้าพเจ้าจะกล่าวคำลับลึกของโบราณกาล มธ. 13:35
  • 3 ถึงสิ่งที่เราทั้งหลายได้ยินได้ทราบที่บรรพบุรุษของเราได้บอกเรา
  • 4 เราจะไม่ซ่อนไว้จากลูกหลานของเขาแต่จะบอกแก่ชาติพันธุ์ที่กำลังเกิดมาถึงพระราชกิจอันควรสรรเสริญของพระเจ้า และฤทธานุภาพของพระองค์และการอัศจรรย์ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำ
  • 5 เพราะพระองค์ทรงสถาปนากฎเกณฑ์ไว้ในยาโคบและทรงแต่งตั้งกฎหมายไว้ในอิสราเอลซึ่งพระองค์ทรงบัญชาแก่บรรพบุรุษของเราว่าให้แจ้งเรื่องราวเหล่านั้นแก่ลูกหลานของเขา
  • 6 เพื่อชาติพันธุ์รุ่นต่อไปจะทราบเรื่องคือลูกหลานที่จะเกิดมาและที่จะลุกขึ้นบอกลูกหลานของเขา
  • 7 เพื่อเขาจะตั้งความหวังของเขาไว้ในพระเจ้าและไม่ลืมพระราชกิจของพระเจ้าแต่รักษาพระบัญญัติของพระองค์
  • 8 และเพื่อเขาจะมิได้เหมือนบรรพบุรุษของเขาคือชาติพันธุ์ที่ดื้อดึงและมักกบฏชาติพันธุ์ที่จิตใจไม่มั่นคงผู้ซึ่งจิตวิญญาณของเขาไม่มั่นคงต่อพระเจ้า
  • 9 บรรดาคนเอฟราอิม พร้อมสรรพไปด้วยคันธนูได้หันกลับในวันสงคราม
  • 10 เขาทั้งหลายมิได้รักษาพันธสัญญาของพระเจ้าและปฏิเสธที่จะเดินตามกฎหมายของพระองค์
  • 11 เขาลืมสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำและการอัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงสำแดงแก่เขา
  • 12 พระองค์ทรงกระทำการประหลาด ต่อหน้าต่อตาบรรพบุรุษของเขาในแผ่นดินอียิปต์ อพย. 7:8-12:32 ในไร่นาโศอัน
  • 13 พระองค์ทรงแยกทะเล และให้เขาเดินผ่านไปและกระทำให้น้ำตั้งอยู่เหมือนกองสูง อพย. 14:21-22
  • 14 ในกลางวันพระองค์ทรงนำเขาด้วยเมฆและด้วยแสงไฟคืนยังรุ่ง อพย. 13:21-22
  • 15 พระเจ้าทรงผ่าหินในถิ่นทุรกันดารประทานน้ำเป็นอันมากให้เขาดื่ม เหมือนมาจากที่ลึก
  • 16 พระองค์ทรงกระทำให้ลำธารออกมาจากหินทรงกระทำให้น้ำไหลลงมาเหมือน แม่น้ำ อพย. 17:1-7; กดว. 20:2-13
  • 17 แต่เขายังกระทำบาปยิ่งขึ้นต่อพระองค์ได้กบฏต่อองค์ผู้สูงสุดในที่แห้งแล้ง
  • 18 เขาทดลองพระเจ้าอยู่ในใจของเขาโดยเรียกร้องอาหารที่เขาอยาก
  • 19 เขาพูดปรักปรำพระเจ้าว่า“พระเจ้าจะทรงเตรียมสำรับในถิ่นทุรกันดารได้หรือ
  • 20 ดูเถิด พระองค์ทรงตีหินให้น้ำพุออกมาและลำธารก็ไหลล้นพระองค์จะประทานขนมปังด้วยได้หรือหรือทรงจัดเนื้อให้ประชากรของพระองค์ได้หรือ”
  • 21 เพราะฉะนั้น เมื่อพระเจ้าทรงสดับแล้ว พระองค์ทรงพระพิโรธมีไฟลุกโพลงขึ้นสู้ยาโคบพระพิโรธของพระองค์ สูงขึ้นสู้อิสราเอล
  • 22 เพราะเขาไม่เชื่อพระเจ้าและไม่ไว้วางใจในฤทธิ์ช่วยของพระองค์
  • 23 พระองค์ยังทรงบัญชาฟ้าเบื้องบนและทรงเปิดประตูฟ้าสวรรค์
  • 24 พระองค์ทรงหลั่งมานาให้เขารับประทานและทรงประทานทิพยาหารให้เขา ยน. 6:31
  • 25 มนุษย์ได้กินอาหารของทูตสวรรค์พระองค์ทรงประทานอาหารให้เขาอย่างอุดม
  • 26 พระองค์ทรงกระทำให้ลมตะวันออกพัดในฟ้าสวรรค์และทรงนำลมใต้ออกมาด้วยฤทธิ์ของพระองค์
  • 27 พระองค์ทรงหลั่งเนื้อให้เขาอย่างผงคลีคือนก ดังทรายทะเล
  • 28 พระองค์ทรงให้มันตกลงมากลางค่ายของเขาและรอบที่อาศัยของเขา
  • 29 เขาได้รับประทานอิ่มดีเพราะพระองค์ประทานสิ่งที่เขาอยาก
  • 30 แต่ก่อนที่เขาจะหายอยากขณะที่อาหารยังอยู่ในปากของเขา
  • 31 พระพิโรธของพระเจ้าพลุ่งขึ้นต่อเขาและพระองค์ทรงสังหารคนฉกรรจ์ที่สุดของเขาเสียและทรงคว่ำคนหนุ่มในอิสราเอลเสีย อพย. 16:2-15; กดว. 11:4-23, 31-35
  • 32 ถึงมีเรื่องทั้งสิ้นนี้ เขาก็ยังกระทำบาปเขามิได้เชื่อถือการอัศจรรย์ของพระองค์
  • 33 พระองค์จึงทรงกระทำให้วันของเขาหายไปดังลมหายใจและทรงให้ปีของเขาหายไปอย่างสยดสยอง
  • 34 เมื่อพระองค์ทรงสังหารเขา เขาแสวงหาพระองค์เขาได้กลับมาแสวงพระเจ้าด้วยใจร้อนรน
  • 35 เขาระลึกว่าพระเจ้าทรงเป็นพระศิลาของเขาและพระเจ้าองค์สูงสุดเป็นพระผู้ไถ่ของเขา
  • 36 แต่เขายอพระองค์ด้วยปากของเขาและมุสาต่อพระองค์ด้วยลิ้นของเขา
  • 37 เพราะจิตใจของเขาไม่แน่วแน่ต่อพระองค์ กจ. 8:21เขาไม่จริงจังต่อพันธสัญญาของพระองค์
  • 38 ถึงกระนั้นด้วยความสังเวชพระองค์ทรงอภัยความผิดบาปของเขาและมิได้ทรงทำลายเขาพระองค์ทรงยับยั้งพระพิโรธของพระองค์บ่อยๆและมิได้ทรงกวนพระพิโรธของพระองค์ทั้งสิ้นให้ขึ้นมา
  • 39 พระองค์ทรงระลึกว่าเขาเป็นเพียงแต่เนื้อหนังเป็นลมที่ผ่านไปแล้วมิได้กลับมาอีก
  • 40 เขากบฏต่อพระองค์ในถิ่นทุรกันดารบ่อยสักเท่าใดและทำให้พระองค์โทมนัสในทะเลทราย
  • 41 แต่เขายังได้กลับทดลองพระเจ้าอีกและได้ทำให้องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลเศร้าพระทัย
  • 42 เขามิได้ระลึกถึงฤทธานุภาพของพระองค์หรือวันที่พระองค์ทรงไถ่เขาจากคู่อริของเขา
  • 43 เมื่อพระองค์ทรงกระทำหมายสำคัญของพระองค์ในอียิปต์และการอัศจรรย์ของพระองค์ในไร่นาโศอัน
  • 44 พระองค์ทรงเปลี่ยนแม่น้ำของเขาให้เป็นเลือดเขาจึงดื่มจากลำธารของเขาไม่ได้ อพย. 7:17-21
  • 45 พระองค์ทรงส่งฝูงเหลือบ อพย. 8:20-24 มาท่ามกลางเขา ซึ่งผลาญเขาและกบ อพย. 8:1-6 ซึ่งทำลายเขา
  • 46 พระองค์ประทานพืชผลของเขาแก่ตั๊กแตนวัยคลานและผลงานออกแรงของเขาแก่ตั๊กแตนวัยบิน อพย. 10:12-15
  • 47 พระองค์ทรงทำลายเถาองุ่นของเขาด้วยลูกเห็บและต้นมะเดื่อของเขาด้วยน้ำค้างแข็ง
  • 48 พระองค์ทรงมอบฝูงวัวของเขาไว้กับลูกเห็บและฝูงแพะแกะของเขากับฟ้าผ่า อพย. 9:22-25
  • 49 พระองค์ทรงปล่อยความกริ้วดุร้ายของพระองค์มาเหนือเขาทั้งพระพิโรธ ความกริ้ว และความทุกข์ลำบากคือคณะทูตสวรรค์ผู้ทำลาย
  • 50 พระองค์ทรงเปิดวิถีให้แก่ความกริ้วของพระองค์พระองค์มิได้ทรงเว้นเขาไว้จากความตายแต่ประทานชีวิตของเขาแก่กาฬโรค
  • 51 พระองค์ทรงประหารลูกหัวปีทั้งสิ้นในอียิปต์ อพย. 12:29คือผลแรกแห่งกำลังของเขาในเต็นท์ของฮาม
  • 52 แล้วพระองค์ทรงนำประชากรของพระองค์ออกมาเหมือนนำแกะและนำเขาไปในถิ่นทุรกันดารเหมือนฝูงแพะแกะ อพย. 13:17-22
  • 53 พระองค์นำเขาไปอย่างปลอดภัย เขาจึงไม่กลัวแต่ทะเลท่วมศัตรูของเขา อพย. 14:26-28
  • 54 และพระองค์ทรงพาเขามายังแดนบริสุทธิ์ของ พระองค์ อพย. 15:17; ยชว. 3:14-17ยังภูเขาซึ่งพระหัตถ์ขวาของพระองค์ได้เนรมิตขึ้น
  • 55 พระองค์ทรงขับประชาชาติต่างๆออกไปข้างหน้าเขา ยชว. 11:16-23พระองค์ทรงวัดแบ่งแดนประชาชาตินั้นให้เป็นมรดกและทรงตั้งบรรดาเผ่าอิสราเอลไว้ในเต็นท์ของเขา
  • 56 แต่เขาทั้งหลายยังทดลองและกบฏต่อพระเจ้าองค์สูงสุด วนฉ. 2:11-15มิได้รักษาบรรดาพระโอวาทของพระองค์
  • 57 กลับหันไปเสียและประพฤติทรยศอย่างบรรพบุรุษของเขาเขาบิดไปเหมือนคันธนูที่ไว้ใจไม่ได้
  • 58 เพราะเขายั่วเย้าพระองค์ให้ทรงกริ้วด้วยเรื่อง ปูชนียสถานบนที่สูงของเขาทั้งหลายได้หมุนให้พระองค์หวงแหนเขาด้วย เรื่องรูปเคารพแกะสลักของเขา
  • 59 เมื่อพระเจ้าทรงได้ยิน พระองค์ทรงพิโรธยิ่งและพระองค์ทรงทอดทิ้งอิสราเอลไว้เสีย
  • 60 พระองค์ทรงละที่ประทับของพระองค์ในชิโลห์คือพลับพลาที่พระองค์ทรงตั้งไว้ท่ามกลางมนุษย์ ยชว. 18:1; ยรม. 7:12-14; 26:6
  • 61 และทรงมอบประชาอันเป็นฤทธานุภาพของพระองค์แก่การเป็นเชลยและชนอันเป็นพระสิริของพระองค์ แก่มือของคู่อริ 1 ซมอ. 4:4-22
  • 62 พระองค์ทรงมอบประชากรของพระองค์แก่ดาบและทรงพระพิโรธต่อมรดกของพระองค์
  • 63 ไฟผลาญหนุ่มๆของเขาเสียและสาวๆของเขาก็ไม่มีเพลงแต่งงาน
  • 64 บรรดาปุโรหิตของเขาล้มลงด้วยดาบและหญิงม่ายของเขาไม่มีการร้องทุกข์
  • 65 แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตื่นอย่างตื่นบรรทมอย่างชายฉกรรจ์โห่ร้อง เพราะฤทธิ์เหล้าองุ่น
  • 66 และพระองค์ทรงตีปฏิปักษ์ของพระองค์ให้ถอยหลังและให้เขาได้อายเป็นนิตย์
  • 67 พระองค์ทรงปฏิเสธเต็นท์ของโยเซฟพระองค์มิได้ทรงเลือกเผ่าเอฟราอิม
  • 68 แต่พระองค์ทรงเลือกเผ่ายูดาห์ภูเขาศิโยนซึ่งพระองค์ทรงรัก
  • 69 พระองค์ทรงสร้างสถานนมัสการของพระองค์ อย่างกับฟ้าสวรรค์สูงอย่างแผ่นดินโลกซึ่งพระองค์ตั้งไว้เป็นนิตย์
  • 70 พระองค์ทรงเลือกดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ทรงพาท่านมาจากคอกแกะ
  • 71 พระองค์ทรงพาท่านมาจากการดูแลแม่แกะที่มีลูกอ่อนให้เป็นผู้เลี้ยงดูยาโคบประชากรของพระองค์คืออิสราเอลมรดกของพระองค์อย่างเลี้ยง แกะ 1 ซมอ. 16:11-12;2 ซมอ. 7:8;1 พศด. 17:7
  • 72 ท่านจึงเลี้ยงดูเขาทั้งหลายด้วยใจเที่ยงธรรมและนำเขาทั้งหลายไปด้วยมือช่ำชอง
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页