2 ซา‌มู‌เอล-14

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 โยอาบมีแผนการให้อับซาโลมกลับ ฝ่ายโยอาบบุตรของนางเศรุยาห์ทราบว่า พระราชาอาลัยถึงอับซาโลม
  • 2 โยอาบจึงใช้คนไปยังเมืองเทโคอาพาหญิงที่ฉลาด มาจากที่นั่นคนหนึ่ง บอกนางว่า “ขอจงแสร้งทำเป็นคนไว้ทุกข์ สวมเสื้อของคนไว้ทุกข์อย่าชโลมน้ำมัน แต่แสร้งทำเหมือนผู้หญิงที่ไว้ทุกข์ให้ผู้ตายมาหลายวันแล้ว
  • 3 จงเข้าไปเฝ้าพระราชา กราบทูลข้อความนี้แก่พระองค์” แล้วโยอาบก็สอนคำกราบทูลให้หญิงนั้น
  • 4 เมื่อหญิงชาวเทโคอามาเฝ้าพระราชา นางก็ซบหน้าลงถึงดินถวายบังคมแล้วกราบทูลว่า “ข้าแต่พระราชา ขอพระกรุณาคุณเป็นที่พึ่ง”
  • 5 พระราชาตรัสถามหญิงนั้นว่า “เจ้ามีเรื่องอะไร” นางกราบทูลว่า “อนิจจา หม่อมฉันเป็นหญิงม่าย สามีตายเสียแล้ว
  • 6 สาวใช้ของฝ่าพระบาทมีบุตรสองคน วิวาทกันที่ในทุ่งนา ไม่มีใครช่วยห้ามปราม บุตรคนหนึ่งจึงตีอีกคนหนึ่งตาย
  • 7 ดูเถิด หมู่ญาติรุมกันมาหาสาวใช้ของฝ่าพระบาทบอกว่า ‘จงมอบผู้ที่ฆ่าพี่ชายของตัวมาให้เรา เพื่อเราจะฆ่าเขาเสีย เพื่อแก้แค้นแทนพี่ชายที่เขาได้ฆ่าเสียนั้น จะได้ฆ่าผู้ที่รับมรดกเสียด้วย’ ดังว่าจะดับถ่านไฟของหม่อมฉันที่ยังเหลืออยู่นั้นเสีย ไม่ให้สามีของหม่อมฉันมีชื่อหรือมีเชื้อเหลืออยู่บนพื้นโลกเลย”
  • 8 พระราชาจึงรับสั่งแก่หญิงคนนั้นว่า “ไปบ้านของเจ้าเถิด เราจะสั่งการเรื่องเจ้า”
  • 9 หญิงชาวเทโคอาได้กราบทูลพระราชาว่า “ข้าแต่พระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน ขอให้โทษตกอยู่กับหม่อมฉัน และกับพงศ์พันธุ์บิดาของหม่อมฉัน แต่พระราชาและราชบัลลังก์ของพระองค์อย่าให้มีโทษเลย”
  • 10 พระราชาตรัสว่า “ถ้ามีผู้ใดกล่าวอะไรแก่เจ้า จงพาเขามาหาเรา คนนั้นจะไม่แตะต้องเจ้าอีกเลย”
  • 11 นางก็กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ ขอพระราชาทรงกระทำสาบานในพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของฝ่าพระบาท เพื่อผู้อาฆาตจะไม่กระทำการฆ่าอีกต่อไป และบุตรของหม่อมฉันจะไม่ต้องถูกทำลาย” พระองค์ตรัสว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เส้นผมของบุตรของเจ้าสักเส้นเดียวจะไม่ตกลงถึงดิน”
  • 12 แล้วหญิงนั้นกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ ขอสาวใช้ของฝ่าพระบาท กราบทูลอีกสักคำหนึ่ง แก่พระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน” พระองค์ตรัสว่า “พูดไป”
  • 13 หญิงนั้นจึงกราบทูลว่า “เหตุใดพระองค์ทรงดำริจะกระทำอย่างนี้แก่ประชากร ของพระเจ้า ในการที่ตรัสเช่นนี้พระราชาทรงกล่าวโทษพระองค์เอง ในประการที่พระราชามิได้ทรงนำผู้ถูก เนรเทศกลับสู่พระราชสำนัก
  • 14 คนเราจะต้องตายหมดด้วยกันทุกคน เป็นเหมือนน้ำที่หกบนแผ่นดิน จะเก็บรวมกลับคืนมาอีกไม่ได้ พระเจ้ามิทรงทำลายชีวิต แต่ทรงดำริหาหนทางไม่ให้ผู้ที่ถูก เนรเทศต้องถูกทรงทอดทิ้ง
  • 15 ที่หม่อมฉันมากราบทูลเรื่องนี้ ต่อพระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน เพราะประชาชนขู่หม่อมฉันให้กลัว และสาวใช้ของฝ่าพระบาทคิดว่า ‘ฉันจะกราบทูลพระราชา หวังว่าพระราชาจะโปรดตามคำขอของผู้รับใช้ของพระองค์
  • 16 ด้วยพระราชาจะทรงสดับฟังและทรงช่วยกู้ผู้รับใช้ของ พระองค์ ให้พ้นจากมือของผู้ที่ตั้งใจทำลายฉันและลูกของฉันเสีย จากมรดกของพระเจ้า’
  • 17 และสาวใช้ของฝ่าพระบาทคิดว่า ‘ขอให้พระดำรัสของพระราชาเจ้านาย ของฉันเป็นที่ให้พำนัก’ เพราะพระราชาเจ้านายของฉันเปรียบประดุจทูตของพระเจ้า ในการที่จะประจักษ์ความดีและความชั่ว ขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าของฝ่าพระบาท ทรงสถิตกับฝ่าพระบาทเถิด”
  • 18 แล้วพระราชาทรงตอบหญิงนั้นว่า “สิ่งใดที่เราจะถามเจ้าเจ้าอย่าปิดบังนะ” ผู้หญิงนั้นกราบทูลว่า “ขอพระราชาเจ้านายของหม่อมฉันจงตรัสเถิด”
  • 19 พระราชาจึงตรัสถามว่า “ในเรื่องทั้งสิ้นนี้มือของโยอาบ เกี่ยวข้องกับเจ้าด้วยหรือเปล่า” หญิงนั้นทูลตอบว่า “ข้าแต่พระราชา เจ้านายของหม่อมฉัน ฝ่าพระบาททรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ไม่มีใครหลบหลีกพระดำรัสของพระราชาเจ้านายของ หม่อมฉันไปทางขวาหรือทางซ้ายได้ โยอาบผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทนั่นแหละให้หม่อมฉันกราบทูล เขาเป็นผู้สอนคำกราบทูลแก่หม่อมฉันสาวใช้ของฝ่าพระบาท
  • 20 โยอาบได้กระทำเช่นนี้ก็เพื่อจะเปลี่ยนโฉมหน้าของ เหตุการณ์ แต่เจ้านายของหม่อมฉันทรงมีพระสติปัญญา ดังสติปัญญาแห่งทูตของพระเจ้า ทรงทราบทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนพิภพ”
  • 21 พระราชาตรัสสั่งโยอาบว่า “ดูเถิด เราอนุมัติตามคำขอนี้แล้ว จงไปพาอับซาโลมชายหนุ่มคนนั้นกลับมา”
  • 22 โยอาบก็ซบหน้าลงถึงดินถวายบังคม แล้วโมทนาพระคุณพระราชา โยอาบกราบทูลว่า “ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท วันนี้ข้าพระบาททราบว่า ข้าพระบาทได้รับพระกรุณาในประการที่ พระราชาทรงอนุมัติ ตามคำทูลขอของข้าพระบาท”
  • 23 โยอาบจึงลุกขึ้นไปยังเมือง เกชูร์และพาอับซาโลมมายังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 24 และพระราชารับสั่งว่า “ให้เขาไปอยู่วังของเขาเถิด อย่าให้เข้าเฝ้าเรา” อับซาโลมก็ไปอยู่วังของท่านมิได้ เข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระราชา
  • 25 ในบรรดาอิสราเอลหามีผู้ใดรูปงามน่าชมอย่าง อับซาโลมไม่ ในตัวท่านตั้งแต่ฝ่าเท้าจนถึงกระหม่อมไม่มีตำหนิเลย
  • 26 เมื่อท่านตัดผม (ท่านเคยตัดผมสิ้นปีทุกปีเพราะผมหนักแล้วท่านก็ตัดเสีย) ท่านก็ชั่งผมของท่านได้หนักสองร้อยเชเขลตามพิกัดหลวง
  • 27 มีบุตรชายสามคนเกิดแก่อับซาโลม และบุตรีคนหนึ่งชื่อทามาร์ เธอเป็นหญิงที่สวยงาม
  • 28 อับซาโลมประทับในกรุงเยรูซาเล็มได้สองปีเต็ม โดยมิได้เข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระราชา
  • 29 แล้วอับซาโลมก็ให้ไปตามโยอาบ จะใช้ให้เข้าไปเฝ้าพระราชาแต่โยอาบไม่ยอมมาหาท่าน ท่านก็ใช้คนไปครั้งที่สองแต่โยอาบก็ไม่มาเหมือนกัน
  • 30 ท่านจึงสั่งมหาดเล็กของท่านว่า “ดูซิ นาของโยอาบอยู่ถัดนาของเรา เขามีข้าวบารลีที่นั่น จงเอาไฟเผาเสีย” มหาดเล็กของอับซาโลมก็ไปเอาไฟเผานา
  • 31 โยอาบก็ลุกขึ้นไปหาอับซาโลมที่วัง ของท่านถามท่านว่า “ทำไมมหาดเล็กของท่านจึงเอาไฟเผานาของหม่อมฉัน”
  • 32 อับซาโลมตอบโยอาบว่า “ดูเถิด เราส่งคนไปบอกท่านว่า ‘มานี่เถิด เราจะส่งท่านไปหาพระราชาทูลว่า “ให้ข้าบาทมาจากเกชูร์ทำไม ข้าบาทยังอยู่ที่นั่นก็ดีกว่า” บัดนี้ขอให้เราได้เข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระราชา ถ้าเรามีความผิดก็ขอพระองค์ทรงประหารเราเสีย’ ”
  • 33 โยอาบจึงเข้าไปเฝ้าพระราชากราบทูลพระองค์ พระองค์ก็ทรงเรียกอับซาโลม ท่านจึงเข้าไปเฝ้าพระราชา โน้มกายลงซบหน้าลงถึงดินต่อพระพักตร์พระราชา พระราชาก็ทรงจุบอับซาโลม
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页