ฮีบรู-9

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 สถานนมัสการในโลกและในสวรรค์ แม้แต่พันธสัญญาเดิมนั้นก็ยังมีกฎเกณฑ์ต่างๆ สำหรับศาสนพิธีและสำหรับสถานนมัสการในโลก
  • 2 เพราะว่าพลับพลาจัดเตรียมเสร็จแล้วอพย.26:1-30ในห้องชั้นนอกห้องชั้นนอก ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า แรกนั้น มีคันประทีปอพย.25:31-40 โต๊ะ และขนมปังเฉพาะพระพักตร์อพย.25:23-30 ห้องนี้เรียกว่า วิสุทธิสถาน
  • 3 และข้างหลังม่านชั้นที่สองมีห้องภาษากรีกแปลตรงตัวว่า มีพลับพลาซึ่งเรียกว่า อภิสุทธิสถานอพย.26:31-33
  • 4 ห้องนั้นมีแท่นทองคำสำหรับเผาเครื่องหอมอพย.30:1-6 และมีหีบพันธสัญญาหุ้มด้วยทองคำทุกด้านอพย.25:10-16 ภายในนั้น มีโถทองคำบรรจุมานาอพย.16:33 มีไม้เท้าของอาโรนที่ออกดอกตูมกดว.17:8-10 และมีแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญาอพย.25:16; ฉธบ.10:3-5
  • 5 เหนือหีบนั้น มีตัวเครูบหมายถึง ทูตสวรรค์จำพวกหนึ่งแห่งพระสิริ กางปีกคลุมพระที่นั่งกรุณาพระที่นั่งกรุณา หมายถึง ฝาหีบพันธสัญญานั้นอพย.25:18-22 สิ่งเหล่านี้เราไม่อาจพรรณนาให้ละเอียดตอนนี้ได้
  • 6 เมื่อจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้อย่างนั้นแล้ว พวกปุโรหิตก็เข้าไปในห้องชั้นนอกนั้นคำว่า ห้องชั้นนอกนั้น ในข้อนี้ และข้อ 8 ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า พลับพลาแรกนั้น ทุกครั้งที่ประกอบศาสนพิธีกดว.18:2-6
  • 7 แต่ในห้องที่สองนั้นมีมหาปุโรหิตผู้เดียวเท่านั้นที่เข้าไปได้ปีละครั้ง และต้องนำเลือดเข้าไปถวายเพื่อตัวเอง และเพื่อบาปที่ประชาชนทำโดยไม่เจตนาด้วยลนต.16:2-34
  • 8 โดยสิ่งนี้เอง พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงทรงสำแดงว่า ทางที่นำเข้าสู่สถานศักดิ์สิทธิ์นั้นยังไม่เปิด ตราบใดที่ห้องชั้นนอกนั้นตั้งอยู่
  • 9 ซึ่งเป็นเครื่องหมายของยุคปัจจุบัน การนำของถวายและเครื่องบูชามาถวายตามแบบนี้ไม่สามารถชำระมโนธรรมของผู้ถวายนั้น
  • 10 เพราะเป็นเรื่องอาหารและเครื่องดื่มและพิธีชำระล้างต่างๆ เท่านั้น เป็นเพียงกฎเกณฑ์ต่างๆ ทางกายเกี่ยวกับชีวิตภายนอกที่ได้บัญญัติไว้ จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่
  • 11 แต่เมื่อพระคริสต์เสด็จมาในฐานะมหาปุโรหิตแห่งบรรดาสิ่งประเสริฐซึ่งมาถึงแล้วซึ่งมาถึงแล้ว สำเนาโบราณบางฉบับว่า ซึ่งจะมาถึง พระองค์ก็เสด็จเข้าไปสู่พลับพลาที่ใหญ่และสมบูรณ์ยิ่งกว่าแต่ก่อน (ที่ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ คือไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างของโลกนี้)
  • 12 คือเสด็จเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ครั้งเดียวเป็นพอ และพระองค์ไม่ได้ทรงนำเลือดแพะและเลือดลูกวัวเข้าไป แต่ทรงนำพระโลหิตของพระองค์เองเข้าไป จึงได้มาซึ่งการไถ่บาปชั่วนิรันดร์
  • 13 เพราะว่าถ้าเลือดแพะและเลือดวัวตัวผู้ลนต.16:15-16และเถ้าของลูกวัวตัวเมียกดว.19:9,17,19 ที่ประพรมลงบนคนที่มีมลทิน สามารถชำระเนื้อตัวให้บริสุทธิ์ได้
  • 14 มากยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระโลหิตของพระคริสต์ ผู้ทรงถวายพระองค์เองที่ปราศจากตำหนิแด่พระเจ้าโดยพระวิญญาณนิรันดร์ ก็จะทรงชำระมโนธรรมของเราจากการประพฤติที่เปล่าประโยชน์ เพื่อเราจะปรนนิบัติพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
  • 15 เพราะเหตุนี้ พระคริสต์ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า พระองค์ จึงทรงเป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ เพื่อให้คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกมาได้รับมรดกนิรันดร์ตามพระสัญญา เพราะความตายที่เกิดขึ้นนั้นไถ่พวกเขาให้พ้นจากบรรดาการล่วงละเมิดที่เกิดภายใต้พันธสัญญาเดิมแล้ว
  • 16 เพราะว่าในกรณีที่เกี่ยวกับหนังสือพินัยกรรมหนังสือพินัยกรรม ภาษากรีกเป็นคำเดียวกับคำว่า พันธสัญญา ก็จะต้องพิสูจน์ว่าผู้ทำหนังสือนั้นตายแล้ว
  • 17 คนนั้นต้องตายเสียก่อน หนังสือพินัยกรรมจึงจะมีผล แต่ถ้าผู้ทำยังมีชีวิตอยู่ พินัยกรรมนั้นก็ใช้ไม่ได้
  • 18 เหตุฉะนั้นแม้แต่พันธสัญญาเดิมก็ไม่ได้ทรงตั้งขึ้นโดยปราศจากเลือด
  • 19 เพราะเมื่อโมเสสประกาศบัญญัติทุกข้อในธรรมบัญญัติแก่บรรดาประชาชนแล้ว ท่านก็เอาเลือดลูกวัวเลือดแพะกับน้ำ และเอาขนแกะสีแดงและต้นหุสบมาประพรมหนังสือม้วนนั้นรวมทั้งประชาชนทั้งปวงด้วย
  • 20 ท่านกล่าวว่า “นี่คือโลหิตแห่งพันธสัญญาซึ่งพระเจ้าทรงบัญญัติไว้แก่เจ้าทั้งหลาย” อพย.24:6-8
  • 21 แล้วท่านก็เอาเลือดประพรมพลับพลากับเครื่องใช้ทุกชนิดในพิธีนมัสการนั้นเช่นเดียวกันลนต.8:15
  • 22 แท้จริงตามธรรมบัญญัตินั้นถือว่าเกือบทุกสิ่งได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ได้ด้วยเลือด และถ้าไม่มีโลหิตไหลออกแล้ว ก็จะไม่มีการยกโทษบาปเลยลนต.17:11
  • 23 บาปถูกขจัดโดยการถวายบูชาของพระคริสต์ เพราะฉะนั้น แบบจำลองของสวรรค์จึงจำเป็นต้องถูกชำระให้บริสุทธิ์โดยใช้เครื่องบูชาเช่นนี้ แต่ว่าของจริงจากสวรรค์นั้นต้องชำระให้บริสุทธิ์ด้วยเครื่องบูชาอันประเสริฐกว่านั้น
  • 24 เพราะว่าพระคริสต์ไม่ได้เสด็จเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ ซึ่งถอดแบบจากของจริง แต่พระองค์เสด็จเข้าไปในสวรรค์นั้นเอง เพื่อทรงปรากฏตัวต่อพระพักตร์พระเจ้าเพื่อพวกเรา
  • 25 ไม่ใช่เพื่อทรงถวายพระองค์เองซ้ำอีก ไม่เหมือนมหาปุโรหิตที่เข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ทุกปี โดยนำเอาเลือดซึ่งไม่ใช่ของตัวเองเข้าไปด้วย
  • 26 เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น พระองค์คงจะต้องทรงทนทุกข์หลายครั้งนับตั้งแต่สร้างโลกมา แต่ความจริง พระองค์ทรงปรากฏครั้งเดียวเท่านั้นในปลายยุค เพื่อกำจัดบาปให้หมดสิ้นไปโดยการถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชา
  • 27 ตามที่มีข้อกำหนดสำหรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะตายครั้งเดียว และหลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษาฉันใด
  • 28 พระคริสต์ก็ฉันนั้น คือพระองค์ทรงถวายพระองค์เองภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ถูกนำมาถวายเป็นเครื่องบูชาครั้งเดียวเป็นพอ เพื่อจะได้ทรงแบกบาปของคนจำนวนมากไว้ อสย.53:12 แล้วพระองค์จะทรงปรากฏเป็นครั้งที่สอง ไม่ใช่เพื่อกำจัดบาปไม่ใช่เพื่อกำจัดบาป ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ปราศจากบาป หรือ ไม่เกี่ยวข้องกับบาป แต่เพื่อนำความรอดมาให้บรรดาผู้ที่รอคอยพระองค์ด้วยใจจดจ่อ
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页