1
สถานนมัสการในโลกและในสวรรค์ แม้แต่พันธสัญญาเดิมนั้นก็ยังมีกฎเกณฑ์ต่างๆ สำหรับศาสนพิธีและสำหรับสถานนมัสการในโลก
2
เพราะว่าพลับพลาจัดเตรียมเสร็จแล้วอพย.26:1-30ในห้องชั้นนอกห้องชั้นนอก ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า แรกนั้น มีคันประทีปอพย.25:31-40 โต๊ะ และขนมปังเฉพาะพระพักตร์อพย.25:23-30 ห้องนี้เรียกว่า วิสุทธิสถาน
3
และข้างหลังม่านชั้นที่สองมีห้องภาษากรีกแปลตรงตัวว่า มีพลับพลาซึ่งเรียกว่า อภิสุทธิสถานอพย.26:31-33
4
ห้องนั้นมีแท่นทองคำสำหรับเผาเครื่องหอมอพย.30:1-6 และมีหีบพันธสัญญาหุ้มด้วยทองคำทุกด้านอพย.25:10-16 ภายในนั้น มีโถทองคำบรรจุมานาอพย.16:33 มีไม้เท้าของอาโรนที่ออกดอกตูมกดว.17:8-10 และมีแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญาอพย.25:16; ฉธบ.10:3-5
5
เหนือหีบนั้น มีตัวเครูบหมายถึง ทูตสวรรค์จำพวกหนึ่งแห่งพระสิริ กางปีกคลุมพระที่นั่งกรุณาพระที่นั่งกรุณา หมายถึง ฝาหีบพันธสัญญานั้นอพย.25:18-22 สิ่งเหล่านี้เราไม่อาจพรรณนาให้ละเอียดตอนนี้ได้
6
เมื่อจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้อย่างนั้นแล้ว พวกปุโรหิตก็เข้าไปในห้องชั้นนอกนั้นคำว่า ห้องชั้นนอกนั้น ในข้อนี้ และข้อ 8 ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า พลับพลาแรกนั้น ทุกครั้งที่ประกอบศาสนพิธีกดว.18:2-6
7
แต่ในห้องที่สองนั้นมีมหาปุโรหิตผู้เดียวเท่านั้นที่เข้าไปได้ปีละครั้ง และต้องนำเลือดเข้าไปถวายเพื่อตัวเอง และเพื่อบาปที่ประชาชนทำโดยไม่เจตนาด้วยลนต.16:2-34
8
โดยสิ่งนี้เอง พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงทรงสำแดงว่า ทางที่นำเข้าสู่สถานศักดิ์สิทธิ์นั้นยังไม่เปิด ตราบใดที่ห้องชั้นนอกนั้นตั้งอยู่
9
ซึ่งเป็นเครื่องหมายของยุคปัจจุบัน การนำของถวายและเครื่องบูชามาถวายตามแบบนี้ไม่สามารถชำระมโนธรรมของผู้ถวายนั้น
10
เพราะเป็นเรื่องอาหารและเครื่องดื่มและพิธีชำระล้างต่างๆ เท่านั้น เป็นเพียงกฎเกณฑ์ต่างๆ ทางกายเกี่ยวกับชีวิตภายนอกที่ได้บัญญัติไว้ จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่
11
แต่เมื่อพระคริสต์เสด็จมาในฐานะมหาปุโรหิตแห่งบรรดาสิ่งประเสริฐซึ่งมาถึงแล้วซึ่งมาถึงแล้ว สำเนาโบราณบางฉบับว่า ซึ่งจะมาถึง พระองค์ก็เสด็จเข้าไปสู่พลับพลาที่ใหญ่และสมบูรณ์ยิ่งกว่าแต่ก่อน (ที่ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ คือไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างของโลกนี้)
12
คือเสด็จเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ครั้งเดียวเป็นพอ และพระองค์ไม่ได้ทรงนำเลือดแพะและเลือดลูกวัวเข้าไป แต่ทรงนำพระโลหิตของพระองค์เองเข้าไป จึงได้มาซึ่งการไถ่บาปชั่วนิรันดร์
13
เพราะว่าถ้าเลือดแพะและเลือดวัวตัวผู้ลนต.16:15-16และเถ้าของลูกวัวตัวเมียกดว.19:9,17,19 ที่ประพรมลงบนคนที่มีมลทิน สามารถชำระเนื้อตัวให้บริสุทธิ์ได้
14
มากยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระโลหิตของพระคริสต์ ผู้ทรงถวายพระองค์เองที่ปราศจากตำหนิแด่พระเจ้าโดยพระวิญญาณนิรันดร์ ก็จะทรงชำระมโนธรรมของเราจากการประพฤติที่เปล่าประโยชน์ เพื่อเราจะปรนนิบัติพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
15
เพราะเหตุนี้ พระคริสต์ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า พระองค์ จึงทรงเป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ เพื่อให้คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกมาได้รับมรดกนิรันดร์ตามพระสัญญา เพราะความตายที่เกิดขึ้นนั้นไถ่พวกเขาให้พ้นจากบรรดาการล่วงละเมิดที่เกิดภายใต้พันธสัญญาเดิมแล้ว
16
เพราะว่าในกรณีที่เกี่ยวกับหนังสือพินัยกรรมหนังสือพินัยกรรม ภาษากรีกเป็นคำเดียวกับคำว่า พันธสัญญา ก็จะต้องพิสูจน์ว่าผู้ทำหนังสือนั้นตายแล้ว
17
คนนั้นต้องตายเสียก่อน หนังสือพินัยกรรมจึงจะมีผล แต่ถ้าผู้ทำยังมีชีวิตอยู่ พินัยกรรมนั้นก็ใช้ไม่ได้
18
เหตุฉะนั้นแม้แต่พันธสัญญาเดิมก็ไม่ได้ทรงตั้งขึ้นโดยปราศจากเลือด
19
เพราะเมื่อโมเสสประกาศบัญญัติทุกข้อในธรรมบัญญัติแก่บรรดาประชาชนแล้ว ท่านก็เอาเลือดลูกวัวเลือดแพะกับน้ำ และเอาขนแกะสีแดงและต้นหุสบมาประพรมหนังสือม้วนนั้นรวมทั้งประชาชนทั้งปวงด้วย
20
ท่านกล่าวว่า “นี่คือโลหิตแห่งพันธสัญญาซึ่งพระเจ้าทรงบัญญัติไว้แก่เจ้าทั้งหลาย” อพย.24:6-8
21
แล้วท่านก็เอาเลือดประพรมพลับพลากับเครื่องใช้ทุกชนิดในพิธีนมัสการนั้นเช่นเดียวกันลนต.8:15
22
แท้จริงตามธรรมบัญญัตินั้นถือว่าเกือบทุกสิ่งได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ได้ด้วยเลือด และถ้าไม่มีโลหิตไหลออกแล้ว ก็จะไม่มีการยกโทษบาปเลยลนต.17:11
23
บาปถูกขจัดโดยการถวายบูชาของพระคริสต์ เพราะฉะนั้น แบบจำลองของสวรรค์จึงจำเป็นต้องถูกชำระให้บริสุทธิ์โดยใช้เครื่องบูชาเช่นนี้ แต่ว่าของจริงจากสวรรค์นั้นต้องชำระให้บริสุทธิ์ด้วยเครื่องบูชาอันประเสริฐกว่านั้น
24
เพราะว่าพระคริสต์ไม่ได้เสด็จเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ ซึ่งถอดแบบจากของจริง แต่พระองค์เสด็จเข้าไปในสวรรค์นั้นเอง เพื่อทรงปรากฏตัวต่อพระพักตร์พระเจ้าเพื่อพวกเรา
25
ไม่ใช่เพื่อทรงถวายพระองค์เองซ้ำอีก ไม่เหมือนมหาปุโรหิตที่เข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ทุกปี โดยนำเอาเลือดซึ่งไม่ใช่ของตัวเองเข้าไปด้วย
26
เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น พระองค์คงจะต้องทรงทนทุกข์หลายครั้งนับตั้งแต่สร้างโลกมา แต่ความจริง พระองค์ทรงปรากฏครั้งเดียวเท่านั้นในปลายยุค เพื่อกำจัดบาปให้หมดสิ้นไปโดยการถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชา
27
ตามที่มีข้อกำหนดสำหรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะตายครั้งเดียว และหลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษาฉันใด
28
พระคริสต์ก็ฉันนั้น คือพระองค์ทรงถวายพระองค์เองภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ถูกนำมาถวายเป็นเครื่องบูชาครั้งเดียวเป็นพอ เพื่อจะได้ทรงแบกบาปของคนจำนวนมากไว้ อสย.53:12 แล้วพระองค์จะทรงปรากฏเป็นครั้งที่สอง ไม่ใช่เพื่อกำจัดบาปไม่ใช่เพื่อกำจัดบาป ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ปราศจากบาป หรือ ไม่เกี่ยวข้องกับบาป แต่เพื่อนำความรอดมาให้บรรดาผู้ที่รอคอยพระองค์ด้วยใจจดจ่อ