ฮีบรู-10

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 เพราะเหตุที่ธรรมบัญญัติเป็นเพียงเงาของสิ่งประเสริฐทั้งหลายที่จะมาในภายหลัง ไม่ใช่ตัวจริง จึงไม่สามารถทำให้ผู้ที่เข้าเฝ้าพระเจ้าพร้อมกับเครื่องบูชาที่พวกเขาถวายเหมือนเดิมทุกปีเสมอมานั้น ถึงความสมบูรณ์ได้
  • 2 เพราะถ้าทำได้ พวกเขาคงหยุดการถวายเครื่องบูชาแล้วไม่ใช่หรือ? เพราะถ้าผู้นมัสการได้รับการชำระให้บริสุทธิ์สักครั้งหนึ่งแล้ว คงจะไม่รู้สึกว่ามีบาปอีกต่อไป
  • 3 แต่การถวายเครื่องบูชานั้นเป็นการเตือนให้คิดถึงบาปทุกปี
  • 4 เพราะเลือดวัวผู้และเลือดแพะไม่มีทางชำระบาปให้หมดสิ้นไปได้เลย
  • 5 เพราะฉะนั้น เมื่อพระคริสต์เสด็จเข้ามาในโลกแล้ว พระองค์ตรัสว่า“พระองค์เจ้าข้า ภาษากรีก ไม่มีคำนี้ เหตุที่ใส่ไว้ก็เพื่อให้คำสรรพนามต่อมาชัดเจน เครื่องสัตวบูชาและเครื่องบูชาอื่นๆ พระองค์ไม่ทรงประสงค์แต่พระองค์ทรงจัดเตรียมกายสำหรับข้าพระองค์
  • 6 เครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาลบบาปนั้นพระองค์ไม่พอพระทัย
  • 7 แล้วข้าพระองค์ทูลว่า‘ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์มาแล้วเพื่อจะทำตามพระทัยของพระองค์’ตามที่มีเรื่องข้าพระองค์เขียนไว้ในหนังสือม้วน” สดด.40:6-8
  • 8 เมื่อพระองค์ตรัสในตอนแรกว่า “เครื่องสัตวบูชาและเครื่องบูชาอื่นๆ และเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาลบบาป (ที่ได้ถวายตามธรรมบัญญัตินั้น) พระองค์ไม่ทรงประสงค์และไม่พอพระทัย”
  • 9 แล้วพระองค์ท่านก็ตรัสด้วยว่า “ข้าพระองค์มาแล้วเพื่อจะทำตามพระทัยของพระองค์” พระองค์ท่านทรงยกเลิกระบบเดิมนั้นเสียเพื่อจะทรงตั้งระบบใหม่
  • 10 และโดยพระประสงค์นั้นเอง เราจึงได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ โดยการถวายพระกายของพระเยซูคริสต์ครั้งเดียวเป็นพอ
  • 11 ส่วนปุโรหิตทุกคนก็ยืนปฏิบัติกิจอยู่ทุกวัน โดยการนำเครื่องบูชาอย่างเดียวกันมาถวายเสมอๆ เครื่องบูชาเหล่านั้นไม่มีวันลบล้างบาปได้เลยอพย.29:38
  • 12 แต่เมื่อพระคริสต์ทรงถวายเครื่องบูชาเพื่อลบบาปเพื่อลบบาป ภาษากรีกแปลตรงตัวว่า เนื่องจากบาปทั้งหลายเพียงครั้งเดียวสำหรับตลอดไปแล้ว พระองค์ก็ประทับเบื้องขวาของพระเจ้า
  • 13 เพื่อทรงคอยอยู่จนกว่าศัตรูของพระองค์ถูกนำมาเป็นที่รองพระบาทของพระองค์สดด.110:1
  • 14 โดยการถวายบูชาเพียงครั้งเดียว พระองค์ก็ทรงทำให้คนทั้งหลายที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้วนั้นถึงความสมบูรณ์ตลอดไป
  • 15 และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทรงเป็นพยานแก่เราด้วย เพราะหลังจากที่พระองค์ตรัสว่า
  • 16 “องค์พระผู้เป็นเจ้า คำว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า ในข้อนี้และข้อ 30 หมายถึงพระเจ้า ตรัสว่า นี่คือพันธสัญญาซึ่งเราจะทำกับเขาทั้งหลายหลังจากสมัยนั้นเราจะบรรจุธรรมบัญญัติของเราไว้ในใจของพวกเขาและเราจะจารึกมันไว้ในจิตใจของพวกเขา” ยรม.31:33
  • 17 “และเราจะไม่จดจำบาปของพวกเขา และการอธรรมของพวกเขาอีกต่อไป”ยรม.31:34
  • 18 เมื่อมีการยกโทษบาปแล้ว ก็ไม่มีการถวายเครื่องบูชาเพื่อลบบาปอีกต่อไป
  • 19 คำกำชับและคำเตือน เพราะฉะนั้น พี่น้องทั้งหลาย เมื่อเรามีใจกล้าที่จะเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์โดยพระโลหิตของพระเยซู
  • 20 ตามทางใหม่และเป็นทางที่มีชีวิต ซึ่งพระองค์ทรงเปิดให้เราผ่านเข้าไปทางม่านนั้น คือทางพระกายของพระองค์
  • 21 และเมื่อเรามีปุโรหิตใหญ่เหนือหมู่คนของพระเจ้าแล้ว
  • 22 ก็ให้เราเข้าไปใกล้ด้วยใจจริง ด้วยความไว้ใจเต็มที่ มีใจที่ได้รับการประพรมให้พ้นจากแปลได้อีกว่า รับการชำระให้สะอาดจากมโนธรรมที่ไม่ดีมโนธรรมที่ไม่ดี หมายถึง มโนธรรมที่ทำให้เรารู้สึกถึงความผิด และมีกายที่ล้างชำระด้วยน้ำสะอาดลนต.8:30; อสค.36:25
  • 23 ขอให้เรายังคงยึดมั่นในความหวังที่ประกาศรับไว้นั้นโดยไม่หวั่นไหว เพราะว่าพระองค์ผู้ประทานพระสัญญานั้นทรงซื่อสัตย์
  • 24 และขอให้เราพิจารณาดูเพื่อจะปลุกใจกันและกันให้มีความรักและทำความดีพิจารณาดูเพื่อ...และทำความดี แปลได้อีกว่า เอาใจใส่กันและกันที่จะปลุกใจให้มีความรักและทำความดี
  • 25 อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนทำเป็นนิสัย แต่จงหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะพวกท่านก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
  • 26 เพราะถ้าเรายังจงใจทำบาปอยู่เรื่อยๆ หลังจากได้รับความรู้เรื่องความจริงแล้ว ก็จะไม่มีเครื่องบูชาลบบาปเหลืออยู่เลย
  • 27 แต่จะมีความหวาดกลัวในการรอคอยการพิพากษาและไฟอันร้ายแรง ซึ่งจะเผาผลาญบรรดาศัตรูแปลได้อีกว่า บรรดาคนที่ขัดขวางนั้นอสย.26:11
  • 28 ส่วนคนที่ละเมิดธรรมบัญญัติของโมเสสนั้น ถ้ามีพยานสักสองหรือสามปาก ก็จะต้องตายโดยปราศจากความปรานีฉธบ.17:6; 19:15
  • 29 แล้วพวกท่านคิดดูซิว่าคนที่เหยียบย่ำพระบุตรของพระเจ้า และถือว่าพระโลหิตแห่งพันธสัญญาอพย.24:8 ซึ่งชำระเขาให้บริสุทธิ์นั้นเป็นมลทิน และดูหมิ่นพระวิญญาณแห่งพระคุณ สมควรจะถูกลงโทษหนักกว่าสักเท่าใด
  • 30 เพราะว่าเรารู้จักพระองค์ผู้ตรัสว่า“การแก้แค้นเป็นของเรา เราจะตอบสนอง” ฉธบ.32:35และตรัสอีกว่า“องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์” ฉธบ.32:36
  • 31 การตกอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์นั้นเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัว
  • 32 แต่ท่านทั้งหลายจงระลึกถึงคราวก่อนนั้น หลังจากที่ได้รับความสว่างแล้ว พวกท่านได้สู้ทนต่อความยากลำบากอย่างใหญ่หลวง
  • 33 บางทีท่านก็ถูกประจานให้อับอายขายหน้าและถูกข่มเหง บางทีท่านก็ร่วมทุกข์กับคนที่ถูกกระทำเช่นนั้น
  • 34 เพราะว่าท่านทั้งหลายมีใจเมตตาต่อผู้ที่ถูกคุมขังเหล่านั้น และเมื่อมีคนปล้นชิงเอาทรัพย์สิ่งของของท่านไป ท่านก็ยอมให้ด้วยใจยินดี เพราะท่านรู้แล้วว่าท่านมีทรัพย์สมบัติที่ดีกว่าและถาวรกว่านั้นอีก
  • 35 เพราะฉะนั้น อย่าละทิ้งความไว้วางใจของท่าน อันจะนำมาซึ่งบำเหน็จยิ่งใหญ่
  • 36 ท่านทั้งหลายจำเป็นต้องมีความทรหดอดทน เพื่อท่านจะสามารถทำตามพระทัยของพระเจ้าได้ แล้วท่านก็จะได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้นั้นภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ได้รับพระสัญญานั้น
  • 37 เพราะอีก เพียงไม่นานพระองค์ผู้จะเสด็จมาก็จะเสด็จมาและจะไม่ทรงชักช้า
  • 38 แต่คนชอบธรรมของเรานั้นจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อและถ้าเขาหันกลับเราจะไม่มีความพอใจในคนนั้นเลย ฮบก.2:3-4
  • 39 แต่พวกเราเองไม่ใช่พวกที่หันกลับ และถึงซึ่งความพินาศ แต่เป็นพวกที่เชื่อมั่น จึงทำให้ชีวิตปลอดภัย
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页