1
การประกาศของยอห์นผู้ให้บัพติศมา ( มธ.3:1-12 ; ลก.3:1-20 ; ยน.1:19-28 ) ข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระเจ้าสำเนาโบราณหลายฉบับไม่มีข้อความ พระบุตรของพระเจ้าเริ่มต้นตรงนี้
2
ตามที่เขียนในพระธรรมอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะว่า“นี่แน่ะ เราใช้ทูตของเรานำหน้าท่านผู้นั้นจะเตรียมมรรคา ในข้อนี้และข้อถัดไปแปลว่า ทางของท่านไว้มลค.3:1
3
เสียงคนร้องในถิ่นทุรกันดารว่าจงเตรียมมรรคาแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจงทำหนทางของพระองค์ให้ตรงไป” อสย.40:3
4
ยอห์นผู้ให้บัพติศมาพิธีชำระ ใช้น้ำเป็นสัญลักษณ์ เล็งถึงการที่พระเจ้าทรงให้อภัยคนบาปปรากฏตัวขึ้นในถิ่นทุรกันดาร ท่านประกาศถึงบัพติศมาที่แสดงการกลับใจใหม่กจ.13:24; 19:4 เพื่อรับการยกโทษความผิดบาป
5
คนทั้งแคว้นยูเดียกับคนทั้งกรุงเยรูซาเล็มพากันออกไปหายอห์น สารภาพความผิดบาปของพวกเขา และรับบัพติศมาจากท่านในแม่น้ำจอร์แดน
6
ยอห์นแต่งกายด้วยผ้าขนอูฐ และใช้หนังสัตว์คาดเอว2 พกษ.1:8 รับประทานตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า
7
ท่านประกาศว่า “ภายหลังข้าพเจ้าจะมีผู้หนึ่งเสด็จมา พระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะน้อมตัวลงแก้สายฉลองพระบาทให้พระองค์
8
ข้าพเจ้าให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”พระเยซูทรงรับบัพติศมา
9
( มธ.3:13-17 ; ลก.3:21-22 ; ยน.1:29-34 ) ในเวลานั้นพระเยซูเสด็จมาจากเมืองนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี และทรงรับบัพติศมาจากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดน
10
ทันทีที่พระองค์เสด็จขึ้นมาจากน้ำ ก็ทอดพระเนตรเห็นท้องฟ้าแหวกออก และพระวิญญาณดุจนกพิราบเสด็จลงมาประทับบนภาษากรีกแปลตรงตัวว่า เสด็จลงมาเข้าในพระองค์
11
แล้วมีพระสุรเสียงมาจากฟ้าสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก”ปฐก.22:2; สดด.2:7; อสย.42:1; มธ.3:17; 12:18; มก.9:7; ลก.3:22พระเยซูทรงถูกทดลอง
12
( มธ.4:1-11 ; ลก.4:1-13 ) แล้วโดยทันที พระวิญญาณก็ทรงเร่งเร้าพระองค์ให้เสด็จเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร
13
และประทับอยู่ที่นั่นถึงสี่สิบวัน ทรงถูกซาตานชื่อหนึ่งของมาร มีความหมายว่า ผู้ขัดขวาง (ปฏิปักษ์)ทดลอง และประทับอยู่กับสัตว์ป่า และมีพวกทูตสวรรค์มาปรนนิบัติพระองค์พระเยซูทรงเริ่มพระราชกิจที่แคว้นกาลิลี
14
( มธ.4:12-17 ; ลก.4:14-15 ) หลังจากยอห์นถูกจับแล้ว พระเยซูเสด็จมายังแคว้นกาลิลี ทรงประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้า
15
โดยตรัสว่า “เวลากำหนดมาถึงแล้วและแผ่นดินของพระเจ้าก็มาใกล้แล้ว จงกลับใจใหม่มธ.3:2 และเชื่อข่าวประเสริฐ”การทรงเรียกชาวประมงสี่คน
16
( มธ.4:18-22 ; ลก.5:1-11 ) ขณะที่พระองค์เสด็จไปตามชายทะเลสาบกาลิลี ก็ทอดพระเนตรเห็นชาวประมงสองคน คือซีโมนและอันดรูว์น้องของซีโมน กำลังทอดแหอยู่ในทะเลสาบ
17
พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “จงตามเรามา เราจะตั้งพวกท่านให้เป็นผู้หาคนเหมือนหาปลา”
18
พวกเขาก็ละแหตามพระองค์ไปทันที
19
เมื่อพระองค์เสด็จต่อไปอีกหน่อยหนึ่ง ก็ทอดพระเนตรเห็นยากอบบุตรเศเบดี กับยอห์นน้องชายของเขากำลังชุนอวนอยู่ในเรือ
20
พระองค์ทรงเรียกพวกเขาทันที พวกเขาจึงละเศเบดีผู้เป็นบิดาไว้ที่เรือกับพวกลูกจ้างแล้วตามพระองค์ไปชายที่มีผีโสโครก
21
( ลก.4:31-37 ) พระองค์กับพวกเขาจึงเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม และพอถึงวันสะบาโตวันพัก (งาน) และนมัสการตามพระบัญญัติ ดู อพย.20:8-11พระองค์เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาเทศนาสั่งสอน
22
คนทั้งหลายก็อัศจรรย์ใจด้วยคำสอนของพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงสั่งสอนพวกเขาด้วยสิทธิอำนาจ ไม่เหมือนพวกธรรมาจารย์มธ.7:28-29
23
ทันใดนั้นมีชายคนหนึ่งที่ถูกผีโสโครกเข้าสิงปรากฏตัวในธรรมศาลา
24
มันร้องตะโกนว่า “พระเยซูชาวนาซาเร็ธ พระองค์มายุ่งกับเราทำไม? พระองค์จะมาทำลายเราหรือ? ข้ารู้ว่าพระองค์เป็นใคร พระองค์เป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า”
25
พระเยซูจึงตรัสห้ามมันว่า “จงนิ่งเสีย และออกจากตัวเขา”
26
ผีโสโครกจึงทำให้คนนั้นชักดิ้นชักงอและร้องเสียงดัง แล้วมันก็ออกจากตัวเขา
27
คนทั้งหลายก็ประหลาดใจถามกันว่า “นี่มันอะไรกัน ต้องเป็นคำสอนใหม่ที่ประกอบด้วยสิทธิอำนาจแน่ๆ เขาสั่งได้แม้แต่ผีโสโครกและพวกมันก็ยอมเชื่อฟังเขา”
28
แล้วกิตติศัพท์ของพระองค์ก็เลื่องลือไปทั่วแคว้นกาลิลีในทันทีการทรงรักษาคนจำนวนมากที่บ้านของซีโมน
29
( มธ.8:14-17 ; ลก.4:38-41 ) หลังจากออกมาจากธรรมศาลา พระองค์ก็ทรงเข้าไปในบ้านของซีโมนและอันดรูว์ทันทีพร้อมกับยากอบและยอห์น
30
แม่ยายของซีโมนกำลังนอนป่วยจับไข้อยู่ พวกเขาจึงมาทูลเรื่องของนางให้พระองค์ทราบทันที
31
พระองค์จึงเสด็จไปหาและทรงจับมือนางพยุงให้ลุกขึ้น นางก็หายไข้ และปรนนิบัติพระองค์กับพวกเขา
32
ในเย็นวันนั้นเมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว คนทั้งหลายพาบรรดาคนเจ็บป่วย และคนที่มีผีสิงมาเฝ้าพระองค์
33
และคนทั้งเมืองก็มาออกันอยู่ที่ประตู
34
พระองค์จึงทรงรักษาคนจำนวนมากที่เป็นโรคต่างๆ ให้หาย และทรงขับผีออกไปมากมาย และทรงห้ามพวกมันพูด เพราะว่าพวกมันรู้จักพระองค์การเทศนาสั่งสอนตามที่ต่างๆ
35
( มธ.4:23-25 ; ลก.4:42-44 ) ในเวลาเช้ามืดพระองค์ทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังที่สงบ และทรงอธิษฐานที่นั่น
36
ซีโมนและคนเหล่านั้นที่อยู่ด้วยก็ตามหาพระองค์
37
เมื่อพบแล้วพวกเขาจึงทูลว่า “ทุกคนกำลังตามหาพระองค์”
38
พระองค์จึงตรัสแก่พวกเขาว่า “ให้พวกเราไปยังเมืองที่อยู่ใกล้เคียง เราจะได้ประกาศที่นั่นด้วย การที่เรามาก็เพื่อสิ่งนี้”
39
แล้วพระองค์เสด็จไปประกาศในธรรมศาลาของพวกเขาทั่วแคว้นกาลิลี และขับผีทั้งหลายออกมธ.4:23; 9:35การทรงรักษาคนโรคเรื้อน
40
( มธ.8:1-4 ; ลก.5:12-16 ) มีคนโรคเรื้อนคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์และคุกเข่าลงทูลวิงวอนพระองค์ว่า “เพียงแต่พระองค์พอพระทัย ก็จะทรงบันดาลให้ข้าพระองค์หายสะอาดได้”
41
พระเยซูทรงสงสารเขาจึงยื่นพระหัตถ์แตะต้องคนนั้น ตรัสกับเขาว่า “เราพอใจแล้ว จงหายสะอาดเถิด”
42
ในทันใดนั้นโรคเรื้อนก็ออกจากตัวเขาไป และคนนั้นได้รับการชำระให้สะอาด
43
พระองค์ทรงกำชับคนนั้น และทรงส่งเขาไปทันที
44
โดยตรัสกับเขาว่า “อย่าเล่าอะไรให้ใครฟังเลย แต่จงไปแสดงตัวต่อปุโรหิตและถวายเครื่องบูชาสำหรับคนที่หายสะอาดแล้วตามซึ่งโมเสสได้สั่งไว้ลนต.14:1-32 เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันต่อคนทั้งหลาย”
45
แต่เมื่อคนนั้นออกไป เขาก็เริ่มป่าวประกาศข่าวนี้ไปทั่ว จนพระองค์ไม่สามารถเสด็จเข้าไปในเมืองอย่างเปิดเผยได้อีกต่อไป แต่ต้องประทับนอกเมือง และมีคนจากทุกหนแห่งมาหาพระองค์