1
การถือเทศกาลปัสกาที่ซีนาย ( อพย.12:1-20 ) ในเดือนที่หนึ่งปีที่สอง ตั้งแต่เขาทั้งหลายออกจากแผ่นดินอียิปต์ พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสที่ถิ่นทุรกันดารซีนายว่า
2
“จงให้คนอิสราเอลถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดไว้
3
คือในวันที่สิบสี่เวลาเย็นของเดือนนี้ เจ้าทั้งหลายจงถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดนั้น เจ้าจงทำตามกฎเกณฑ์และกฎหมายทั้งสิ้นของเทศกาลเลี้ยงนั้น”
4
โมเสสจึงบอกคนอิสราเอลให้ถือเทศกาลปัสกา
5
เขาทั้งหลายถือเทศกาลปัสกาในเวลาเย็นของวันที่สิบสี่เดือนที่หนึ่งที่ถิ่นทุรกันดารซีนาย และคนอิสราเอลก็ทำทุกอย่างตามที่พระยาห์เวห์ตรัสสั่งโมเสสอพย.12:1-13
6
แต่มีผู้ชายบางคนเป็นมลทินเพราะแตะต้องศพ จึงถือปัสกาในวันนั้นไม่ได้ พวกเขาจึงมาหาภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า มาอยู่ต่อหน้าโมเสสและอาโรนในวันนั้น
7
คนเหล่านั้นกล่าวกับท่านว่า “เรามีมลทินเพราะแตะต้องศพ ทำไมจึงไม่ให้เราถวายเครื่องบูชาของพระยาห์เวห์ตามเวลาที่กำหนดไว้ท่ามกลางคนอิสราเอล?”
8
และโมเสสบอกเขาทั้งหลายว่า “จงคอยอยู่ก่อนเพื่อข้าพเจ้าจะฟังดูว่า พระยาห์เวห์จะตรัสสั่งในเรื่องของพวกท่านอย่างไร”
9
พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า
10
“จงกล่าวกับคนอิสราเอลว่า ถ้ามีใครในพวกเจ้าหรือในชาติพันธุ์ของเจ้ามีมลทินเพราะแตะต้องศพหรือไปทางไกล ผู้นั้นสามารถถือปัสกาแด่พระยาห์เวห์ได้
11
แต่ให้ถือปัสกาในเวลาเย็นของวันที่สิบสี่เดือนที่สอง ให้เขากินขนมปังไร้เชื้อและผักรสขม
12
เขาทั้งหลายต้องไม่ให้อะไรเหลือไว้จนวันรุ่งขึ้น และไม่ให้หักกระดูกแกะปัสกาอพย.12:46; ยน.19:36 ให้เขาทำตามกฎเกณฑ์ในเรื่องเทศกาลปัสกาทุกประการ
13
ส่วนคนที่สะอาดและไม่ได้เดินทาง แต่ไม่ยอมถือเทศกาลปัสกา ก็ให้คนนั้นถูกตัดออกจากท่ามกลางชนชาติของเขา เพราะเขาไม่ได้นำเครื่องบูชาของพระยาห์เวห์มาถวายตามเวลากำหนด เขาต้องรับโทษของเขา
14
ถ้าคนต่างด้าวที่มาอาศัยอยู่ท่ามกลางเจ้าทั้งหลายจะถือเทศกาลปัสกาแด่พระยาห์เวห์ ก็ให้เขาถือตามกฎเกณฑ์และกฎหมายของเทศกาลปัสกา เจ้าจงมีกฎเกณฑ์อย่างเดียวกันสำหรับคนต่างด้าวและคนพื้นเมือง”เสาเมฆและเสาไฟ
15
( อพย.13:21-22 ; 40:34-38 ) ในวันที่จัดตั้งพลับพลา มีเมฆมาปกคลุมพลับพลาคือเต็นท์แห่งสักขีพยาน ในเวลาเย็นเมฆนั้นก็ปรากฏเหมือนเปลวไฟอยู่เหนือพลับพลาจนรุ่งเช้า
16
เป็นอย่างนั้นอยู่เสมอ คือมีเมฆปกคลุมตอนกลางวันภาษาฮีบรูไม่มีข้อความ ตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนก็ปรากฏเหมือนเปลวไฟ
17
เมื่อไรที่เมฆลอยขึ้นจากเต็นท์ คนอิสราเอลก็จะยกออกเดินทางไปภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ออกเดินทางหลังจากนั้น และเมื่อเมฆนั้นหยุดอยู่ที่ไหน คนอิสราเอลก็จะตั้งค่ายที่นั่น
18
คนอิสราเอลยกออกเดินตามพระดำรัสของพระยาห์เวห์ และตั้งค่ายตามพระดำรัสของพระยาห์เวห์ ตราบใดที่เมฆยังหยุดอยู่เหนือพลับพลา พวกเขาก็จะยังตั้งค่ายอยู่
19
แม้เมื่อเมฆหยุดอยู่เหนือพลับพลานานเป็นเวลาหลายๆ วัน คนอิสราเอลก็ทำตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์คือไม่ยกออกเดินทาง
20
บางครั้งเมฆหยุดอยู่เหนือพลับพลาเพียงไม่กี่วัน เขาก็อยู่ในค่ายตามพระดำรัสของพระยาห์เวห์ และตามพระดำรัสของพระยาห์เวห์ พวกเขาก็ยกออกเดินทาง
21
บางครั้งเมฆหยุดอยู่ตั้งแต่เวลาเย็นจนถึงเวลาเช้า แต่เมื่อเมฆลอยขึ้นในเวลาเช้า พวกเขาก็ยกออกเดินทาง หรือถ้าเมฆหยุดอยู่ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน เมื่อเมฆลอยขึ้น พวกเขาก็ยกออกเดินทาง
22
ไม่ว่าเมฆจะหยุดอยู่เหนือพลับพลาสองวัน หรือหนึ่งเดือน หรือนานถึงหนึ่งปี คนอิสราเอลก็จะอยู่ในค่ายนานเท่านั้นโดยไม่ยกออกเดินทาง แต่ถ้าเมฆลอยขึ้นเมื่อไร พวกเขาก็จะยกออกเดินทางเมื่อนั้น
23
เขาทั้งหลายตั้งค่ายอยู่ตามพระดำรัสของพระยาห์เวห์ และยกออกเดินทางตามพระดำรัสของพระยาห์เวห์ เขาทั้งหลายรักษาพระบัญชาของพระยาห์เวห์ตามพระดำรัสที่พระองค์ตรัสสั่งโมเสส