1
พระพรของการเชื่อฟัง ( ฉธบ.7:12-24 ; 28:1-14 ) “ห้ามเจ้าทั้งหลายทำรูปเคารพสำหรับตัวลนต.19:4 หรือตั้งรูปแกะสลักอพย.20:4; ฉธบ.5:8; 16:21-22; 27:15 หรือเสาศักดิ์สิทธิ์ และห้ามตั้งรูปศิลาแกะสลักไว้ในแผ่นดินของเจ้าเพื่อจะกราบไหว้ เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
2
จงรักษาสะบาโตทั้งหลายของเรา และเคารพต่อสถานนมัสการของเรา เราคือยาห์เวห์
3
“ถ้าเจ้าทั้งหลายดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา รักษาบัญญัติของเรา และทำตาม
4
เราจะประทานฝนตามฤดูแก่เจ้า แผ่นดินจะเกิดพืชผล ต้นไม้ในทุ่งจะบังเกิดผล
5
เวลานวดข้าวจะยาวนานถึงฤดูเก็บผลองุ่น ฤดูเก็บผลองุ่นจะยาวนานไปถึงฤดูหว่าน พวกเจ้าจะรับประทานอาหารอย่างอิ่มหนำฉธบ.11:13-15 และอยู่ในแผ่นดินของเจ้าอย่างปลอดภัย
6
เราจะให้เกิดสันติภาพในแผ่นดิน เจ้าทั้งหลายจะนอนลง และไม่มีใครทำให้เจ้ากลัว เราจะขจัดสัตว์ร้ายจากแผ่นดิน และดาบจะไม่ผ่านแผ่นดินของพวกเจ้าเลย
7
พวกเจ้าจะขับไล่ศัตรูของเจ้าทั้งหลาย เขาทั้งหลายจะล้มลงต่อหน้าพวกเจ้าด้วยดาบ
8
พวกเจ้าห้าคนจะขับไล่ศัตรูร้อยคน พวกเจ้าร้อยคนจะขับไล่ศัตรูหมื่นคน ศัตรูของพวกเจ้าจะล้มลงด้วยดาบต่อหน้าเจ้าทั้งหลาย
9
และเราจะคิดถึงพวกเจ้า จะทำให้พวกเจ้ามีพงศ์พันธุ์มากยิ่งขึ้น และรักษาพันธสัญญาซึ่งมีไว้กับเจ้าทั้งหลาย
10
พวกเจ้าจะได้รับประทานของที่สะสมไว้นาน และจะต้องเอาของเก่าออกไปเพื่อจะมีที่สำหรับเก็บของใหม่
11
เราจะตั้งที่ประทับของเราในหมู่พวกเจ้า เราจะไม่เกลียดชังเจ้า
12
เราจะดำเนินในหมู่พวกเจ้า จะเป็นพระเจ้าของเจ้า และเจ้าจะเป็นประชากรของเรา2 คร.6:16
13
เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเจ้าจะมิได้เป็นทาสของเขา เราได้หักไม้ที่เป็นแอกของเจ้าออกเสียเพื่อให้เจ้าเดินตัวตรงได้โทษของการไม่เชื่อฟัง
14
( ฉธบ.28:15-68 ) “ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟังเรา และไม่ทำตามบัญญัติทั้งหมดเหล่านี้
15
ถ้าเจ้าเบื่อหน่ายกฎเกณฑ์ของเราและใจของเจ้าเกลียดชังกฎหมายของเรา จึงไม่ทำตามบัญญัติทั้งสิ้นของเรา แต่ทำลายพันธสัญญาของเรา
16
เราจะทำดังนี้แก่เจ้า คือเราจะตั้งภัยพิบัติให้เกิดขึ้นแก่เจ้า ความพินาศและความเจ็บไข้ ซึ่งทำให้นัยน์ตาชำรุด และทำให้ชีวิตทรุดโทรม เจ้าทั้งหลายจะหว่านพืชไว้เสียเปล่า เพราะศัตรูของพวกเจ้าจะมากิน
17
เราจะตั้งหน้าต่อสู้เจ้า และเจ้าจะแพ้ศัตรูของเจ้า คนที่เกลียดชังเจ้าจะปกครองอยู่เหนือเจ้า เจ้าจะหลบหนีไปทั้งที่ไม่มีใครไล่ติดตาม
18
และเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเจ้าทั้งหลายยังไม่ฟังเรา เราก็จะลงโทษเจ้าเจ็ดเท่าของความผิดบาปของพวกเจ้า
19
เราจะทำลายความเห่อเหิมในกำลังอำนาจของเจ้า เราจะทำให้ฟ้าสวรรค์ของเจ้าเหมือนเหล็กและพื้นดินของเจ้าเหมือนทองเหลือง
20
เจ้าทั้งหลายจะเปลืองกำลังเสียเปล่าๆ เพราะว่าแผ่นดินของเจ้าจะไม่มีพืชผล และต้นไม้ในแผ่นดินก็จะไม่บังเกิดผล
21
“ถ้าเจ้ายังดำเนินขัดแย้งเราอยู่และไม่ยอมฟังเรา เราจะนำภัยพิบัติมาเหนือเจ้ามากยิ่งขึ้น เป็นเจ็ดเท่าของบาปของเจ้า
22
เราจะส่งสัตว์ป่ามาในหมู่พวกเจ้า มันจะปล้นเอาลูกหลานของเจ้า และทำลายสัตว์เลี้ยงของเจ้า และทำให้พวกเจ้าเหลือน้อย ถนนหนทางของพวกเจ้าจะถูกทิ้งให้ร้าง
23
“ถ้าด้วยการตีสอนนี้ เจ้ายังไม่หันมาหาเรา และยังประพฤติขัดแย้งเราอยู่
24
เราจะดำเนินการขัดแย้งเจ้าทั้งหลาย และเราเองจะเฆี่ยนตีเจ้าเพราะบาปของเจ้าทั้งหลายถึงเจ็ดเท่า
25
เราจะนำดาบมาเหนือเจ้าทั้งหลาย ซึ่งเป็นการลงโทษภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า การแก้แค้นตามพันธสัญญา ถ้าเจ้าทั้งหลายเข้ามารวมกันอยู่ในเมือง เราจะนำโรคร้ายมาในหมู่พวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจะตกอยู่ในมือของศัตรู
26
เมื่อเราทำลายอาหารหลักของพวกเจ้า เตาอบอันเดียวก็พอเพียงที่จะให้ผู้หญิงสิบคนปิ้งขนมของเจ้าทั้งหลาย แล้วเอาขนมมาชั่ง เพื่อแบ่งส่วนให้เจ้าทั้งหลาย พวกเจ้าจะกินแต่จะไม่อิ่ม
27
“และถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเจ้ายังไม่ยอมฟังเรา และยังประพฤติขัดแย้งเรา
28
เราจะดำเนินการขัดแย้งเจ้าด้วยความโกรธ และเราเองจะลงโทษเจ้าเพราะความผิดบาปของเจ้าเจ็ดเท่า
29
เจ้าทั้งหลายจะกินเนื้อลูกชายของพวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจะกินเนื้อลูกสาวของพวกเจ้า
30
เราจะทำลายปูชนียสถานสูงของเจ้า และตัดแท่นเครื่องหอมของเจ้าลง และโยนศพของพวกเจ้าลงเหนือซากรูปเคารพของพวกเจ้า และเราจะเกลียดชังเจ้า
31
เราจะให้เมืองต่างๆ ของพวกเจ้าพังพินาศไป และจะทำให้สถานนมัสการของพวกเจ้าเป็นที่ร้าง และเราจะไม่ดมกลิ่นเครื่องหอมที่สดชื่นของพวกเจ้า
32
และเราจะทำให้แผ่นดินของพวกเจ้าเป็นที่ร้าง จนศัตรูของพวกเจ้าผู้ซึ่งจะมาอาศัยอยู่ตกใจ
33
และเราจะให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และเราจะให้ดาบออกจากฝักไล่ตามเจ้า และแผ่นดินของเจ้าจะเป็นที่ร้าง และเมืองต่างๆ ของพวกเจ้าจะพังพินาศไป
34
“ในที่สุดแผ่นดินจะได้โอกาสมีสะบาโตตลอดเวลาที่ร้างอยู่ และพวกเจ้าจะเข้าไปอยู่ในแผ่นดินของศัตรู ในเวลานั้นแผ่นดินจะได้หยุดพักและได้โอกาสมีสะบาโต
35
ตราบใดที่แผ่นดินร้างอยู่ก็จะได้หยุดพัก คือจะได้หยุดพักอย่างที่ไม่ได้หยุดในสะบาโตขณะเมื่อเจ้าอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น
36
ส่วนผู้ที่ยังเหลืออยู่ เราจะให้พวกเขามีใจอ่อนแอในแผ่นดินของศัตรู จนเสียงใบไม้แห้งปลิวจะทำให้พวกเขาหนี และพวกเขาจะหนีเหมือนคนหนีจากดาบ และจะล้มลงทั้งๆ ที่ไม่มีคนไล่ตาม
37
พวกเขาจะสะดุดซึ่งกันและกัน เหมือนคนหนีดาบทั้งๆ ที่ไม่มีคนตามมา และพวกเขาจะไม่มีกำลังต่อต้านศัตรู
38
เขาทั้งหลายจะล้มตายท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และแผ่นดินของศัตรูจะกินพวกเขาเสีย
39
ส่วนผู้ที่ยังเหลืออยู่จะทรุดโทรมไปในแผ่นดินของศัตรูเพราะความชั่วของตน และเพราะความชั่วของบรรพบุรุษ พวกเขาจะต้องทรุดโทรมไปเช่นเดียวกับบรรพบุรุษ
40
“แต่ถ้าเขาทั้งหลายสารภาพความชั่วของเขา และความชั่วของบรรพบุรุษ ซึ่งทำผิดต่อเราด้วยการทรยศของเขาทั้งหลายนั้น และที่ได้ประพฤติขัดแย้งเรา
41
เราจึงดำเนินการขัดแย้งเขา และได้นำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินศัตรู ถ้าเมื่อนั้นจิตใจที่ดื้อรั้นภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ใจที่ไม่ได้เข้าสุหนัตของพวกเขาถ่อมลงและยอมรับเรื่องความชั่วของพวกเขาแล้ว
42
เราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่อยาโคบปฐก.28:13-14 และเราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราซึ่งมีต่ออิสอัคปฐก.26:3-4 และพันธสัญญาของเราต่ออับราฮัมปฐก.17:7-8 และเราจะระลึกถึงแผ่นดินนั้น
43
แต่พวกเขายังต้องทิ้งแผ่นดินนั้นไว้ และแผ่นดินจะได้โอกาสมีสะบาโตในช่วงที่ถูกทิ้งร้าง เขาทั้งหลายจะยอมรับโทษที่ได้ทำผิด ด้วยเรื่องเบื่อหน่ายกฎหมายของเรา และจิตใจของพวกเขาเกลียดชังกฎเกณฑ์ของเรา
44
ถึงเพียงนั้นก็ดีเมื่อเขาทั้งหลายอยู่ในแผ่นดินศัตรูของพวกเขา เราจะไม่เบื่อหน่ายพวกเขา เราจะไม่เกลียดชังพวกเขาจนถึงกับจะทำลายพวกเขาเสียให้หมดทีเดียว และทำลายพันธสัญญาซึ่งมีกับพวกเขาเสีย เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเขาทั้งหลาย
45
เพราะเห็นแก่พวกเขา เราจะระลึกถึงพันธสัญญาซึ่งมีต่อบรรพบุรุษของพวกเขา ผู้ซึ่งเราได้พาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ต่อหน้าบรรดาประชาชาติ เพื่อเราจะได้เป็นพระเจ้าของพวกเขา เราคือยาห์เวห์”
46
สิ่งเหล่านี้เป็นกฎเกณฑ์และกฎหมายและธรรมบัญญัติ ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงทำไว้ระหว่างพระองค์กับชนชาติอิสราเอลบนภูเขาซีนายโดยโมเสส