1
การพิพากษาโมอับ เกี่ยวกับโมอับอสย.15:1-16:14; 25:10-12; อสค.25:8-11; อมส.2:1-3; ศฟย.2:8-11พระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า“วิบัติแก่เนโบ เพราะเป็นที่ถูกทิ้งร้างเมืองคีริยาธาอิมต้องอับอาย มันถูกยึดแล้วป้อมปราการก็ต้องอับอายและพังลง
2
ไม่มีการสรรเสริญโมอับอีกแล้วในเมืองเฮชโบนนั้น เขาคิดอุบายเป็นการเล่นคำในภาษาฮีบรูซึ่งมีเสียงคล้ายกับ เฮชโบนต่อสู้โมอับว่า‘มาเถอะ ให้เราตัดมันออกเสียอย่าให้เป็นชนชาติ’เมืองมัดเมนเอ๋ย เจ้าจะถูกทำให้เงียบเป็นการเล่นคำในภาษาฮีบรูซึ่งมีเสียงคล้ายกับ มัดเมนเหมือนกันดาบจะไล่ตามเจ้าไป’
3
“มีเสียงร้องมาจากเมืองโฮโรนาอิมว่า‘การล้างผลาญและการทำลายอย่างใหญ่หลวง’
4
เมืองโมอับถูกทำลายแล้วเด็กๆ ของเธอร้องระงม
5
พวกเขาขึ้นไปตามทางสู่เมืองลูฮีทร้องไห้อย่างขมขื่นตามทางลงจากเมืองโฮโรนาอิมเขาได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญเพราะถูกทำลาย
6
หนีเถิด เอาตัวรอดเถิดให้เป็นเหมือนพุ่มสนในถิ่นทุรกันดาร
7
เพราะว่าเจ้าได้วางใจในที่กำบังเข้มแข็งและในทรัพย์สมบัติของเจ้าเจ้าจะต้องถูกยึดด้วยและพระเคโมชจะต้องถูกกวาดไปเป็นเชลยพร้อมกับปุโรหิตและเจ้านายของเขา
8
ผู้ทำลายจะมาถึงทุกเมืองและจะไม่มีเมืองใดรอดพ้นไปได้ที่ลุ่มจะต้องพินาศและที่ราบจะต้องถูกทำลายดังที่พระยาห์เวห์ได้ตรัสไว้
9
“จงให้ปีกแก่โมอับเพื่อมันจะบินไปเสียเมืองต่างๆ ของมันจะกลายเป็นที่ร้างเปล่าไม่มีคนอาศัยอยู่ในนั้นเลย
10
“ใครทำงานของพระยาห์เวห์อย่างไม่เอาใจใส่ คนนั้นจะถูกสาป คนที่กันไม่ให้ดาบของตนทำให้โลหิตตก คนนั้นก็ถูกสาป
11
“โมอับสบายตั้งแต่หนุ่มๆ มาและนิ่งอยู่บนตะกอนของตนมันไม่ได้ถูกถ่ายออกจากภาชนะนี้ไปยังภาชนะนั้นหรือต้องถูกกวาดไปเป็นเชลยดังนั้นรสจึงยังอยู่ในนั้นและกลิ่นก็ไม่เปลี่ยนแปลง”
12
พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เพราะฉะนั้น นี่แน่ะ วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะส่งผู้ถ่ายเทมายังเขาเพื่อถ่ายเทเขา และเทภาชนะของเขาให้เกลี้ยง และทุบไหของเขาให้แตกเป็นชิ้นๆ
13
แล้วโมอับก็จะต้องอับอายเพราะพระเคโมชอย่างที่พงศ์พันธุ์อิสราเอลต้องอับอายเพราะเมืองเบธเอล ซึ่งเป็นที่วางใจของเขา
14
“เจ้าพูดได้อย่างไรว่า‘เราเป็นพวกวีรชนและนักรบกล้าหาญในสงคราม’
15
ผู้ทำลายโมอับและเมืองต่างๆ ของมันขึ้นมาแล้วและคนหนุ่มๆ ที่เก่งที่สุดของเมืองก็ลงไปเพื่อถูกฆ่ากษัตริย์ผู้ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้แหละ
16
ภัยพิบัติของโมอับมาใกล้แล้วและความทุกข์ใจของเขามาถึงอย่างรวดเร็ว
17
บรรดาท่านที่อยู่รอบเขา จงเสียใจเพราะเขาเถิดทั้งคนที่รู้จักชื่อเขาด้วยจงกล่าวว่า ‘ธารพระกรคำราชาศัพท์หมายถึง ไม้เท้าอันทรงฤทธิ์หักเสียแล้วคือคทาอันรุ่งโรจน์นั้น’
18
“ชาวเมืองผู้อาศัยในดีโบนเอ๋ยจงลงมาจากศักดิ์ศรีของเจ้าและนั่งบนดินที่แตกระแหงเพราะผู้ทำลายโมอับได้มาสู้กับเจ้าเขาได้ทำลายที่กำบังเข้มแข็งของเจ้าแล้ว
19
ชาวเมืองอาโรเออร์เอ๋ยจงยืนเฝ้าอยู่ข้างทางจงถามผู้ชายที่หนีมาและผู้หญิงที่รอดพ้นมาว่า ‘เกิดอะไรขึ้น?’
20
โมอับต้องอับอาย เพราะมันแตกเสียแล้วจงคร่ำครวญและร้องไห้จงประกาศทั่วแถบแม่น้ำอารโนนว่าโมอับถูกทิ้งร้างเสียแล้ว
21
“การพิพากษาได้ตกมาเหนือที่ราบเหนือโฮโลน ยาซาห์ เมฟาอาท
22
ดีโบน เนโบ เบธดิบลาธาอิม
23
คีริยาธาอิม เบธกามุล เบธเมโอน
24
เคริโอท โบสราห์ และเมืองทั้งสิ้นของแผ่นดินโมอับ ทั้งไกลและใกล้
25
พระยาห์เวห์ตรัสว่า เขาของโมอับถูกตัดออกแล้ว และแขนของมันก็หัก
26
“จงทำให้เขามึนเมา เพราะว่าเขาได้พองตัวขึ้นต่อพระยาห์เวห์ เพราะฉะนั้น โมอับจะต้องกลิ้งเกลือกอยู่ในอาเจียนของตัว และเขาจะถูกเยาะเย้ยด้วย
27
อิสราเอลไม่ถูกเจ้าเยาะเย้ยหรือ? เจ้าพบเขาอยู่ท่ามกลางโจรหรือ? เจ้าจึงสั่นศีรษะ เมื่อเจ้าพูดถึงเขา
28
“ชาวเมืองโมอับเอ๋ย จงออกจากเมืองไปอาศัยอยู่ในซอกหินจงเป็นเหมือนนกพิราบซึ่งทำรังอยู่ที่ข้างปากถ้ำ
29
เราได้ยินถึงความเห่อเหิมของโมอับเขาเห่อเหิมมากได้ยินถึงความยโส ความเห่อเหิมของเขา และความจองหองของเขาและความหยิ่งในใจของเขา
30
พระยาห์เวห์ตรัสว่า เรารู้ความโอหังของเขาการโอ้อวดของเขาเป็นความเท็จการกระทำทั้งหลายของเขาก็ไม่เป็นความจริง
31
เพราะฉะนั้น เราจึงคร่ำครวญเพื่อโมอับเราร่ำร้องเพื่อโมอับทั้งมวลเราโอดครวญเพื่อคนของคีร์เฮเรส
32
เถาองุ่นแห่งสิบมาห์เอ๋ยเราร้องไห้เพื่อเจ้ามากกว่าเพื่อยาเซอร์กิ่งทั้งหลายของเจ้ายื่นข้ามทะเลจนถึงทะเลแห่งยาเซอร์ผู้ทำลายได้โจมตีผลไม้ฤดูร้อนและการเก็บองุ่นของเจ้า
33
ความยินดีและความชื่นบานได้ถูกกวาดออกไปเสียจากเรือกสวนไร่นาและแผ่นดินของโมอับเราได้ทำให้เหล้าองุ่นหยุดไหลจากบ่อย่ำองุ่นไม่มีคนย่ำด้วยเสียงโห่ร้องเพราะความชื่นบานเสียงโห่ร้องนั้นไม่ใช่เสียงโห่ร้องแห่งความชื่นบาน
34
“จากเสียงร้องในเมืองเฮชโบนจนถึงเมืองเอเลอาเลห์ เขาทั้งหลายส่งเสียงร้องไกลถึงเมืองยาฮาสจากโศอาร์ถึงโฮโรนาอิม และเอก-ลัทเชลีชิยาห์เพราะแหล่งน้ำของนิมริมก็เหือดแห้งด้วย
35
พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราจะนำอวสานมาสู่ผู้ที่ถวายเครื่องบูชาในปูชนียสถานสูง และเผาเครื่องหอมถวายพระของเขาในโมอับ
36
เพราะฉะนั้น ใจของเราจึงโอดครวญเพื่อโมอับเหมือนอย่างปี่ และใจของเราโอดครวญเหมือนปี่เพื่อคนเมืองคีร์เฮเรส เพราะฉะนั้น ทรัพย์สมบัติที่เขาได้มาก็พินาศไป
37
“ทุกศีรษะก็ถูกโกนและทุกเคราก็ถูกตัด บนมือทั้งปวงก็มีรอยเชือดเฉือน และมีผ้ากระสอบเป็นสัญลักษณ์ของการไว้ทุกข์ที่บั้นเอว
38
บนหลังคาเรือนทั้งสิ้นของโมอับและตามบรรดาลานเมือง มีแต่เสียงโอดครวญทั่วไป เพราะเราทุบโมอับเหมือนทุบภาชนะที่เราไม่ต้องการ พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
39
โมอับแตกแล้วหนอ เขาทั้งหลายคร่ำครวญ โมอับหันหลังกลับอย่างอับอาย ดังนั้นแหละโมอับได้กลายเป็นที่เยาะเย้ย และเป็นที่หวาดเสียวแก่บรรดาผู้ที่อยู่ล้อมรอบเขา”
40
เพราะพระยาห์เวห์ตรัสว่า“ดูสิ ผู้หนึ่งโฉบลงเหมือนนกอินทรีและกางปีกออกสู้โมอับ
41
เขาจะเอาเมืองต่างๆ ไปและที่กำบังเข้มแข็งจะถูกยึดจิตใจของบรรดานักรบแห่งโมอับในวันนั้นจะเหมือนจิตใจของผู้หญิงซึ่งกำลังเจ็บครรภ์คลอดบุตร
42
โมอับจะถูกทำลายและไม่เป็นชนชาติอีกต่อไปเพราะว่าเขายกตัวขึ้นต่อพระยาห์เวห์
43
พระยาห์เวห์ตรัสว่า ชาวเมืองโมอับเอ๋ยความสยดสยอง หลุมพราง และกับดัก อยู่ต่อหน้าเจ้า
44
ผู้ที่หนีจากความสยดสยองจะตกหลุมพรางและผู้ที่ปีนออกจากหลุมพรางก็จะติดกับเพราะเราจะนำสิ่งเหล่านี้มาเหนือโมอับในปีแห่งการลงโทษเขา” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
45
“ผู้ลี้ภัยได้ไปยืนอยู่อย่างหมดแรงในเงาของเมืองเฮชโบนเพราะว่าไฟออกมาจากเฮชโบนเปลวไฟออกมาจากเรือนของสิโหนมันทำลายหน้าผากของโมอับกระหม่อมของบรรดาบุตรแห่งความอลเวง
46
โมอับเอ๋ย วิบัติแก่เจ้าชนชาติแห่งพระเคโมชกำลังวอดวายเพราะบรรดาบุตรชายของเจ้าถูกจับไปเป็นเชลยและบุตรีของเจ้าก็เข้าสู่การเป็นเชลย
47
แต่เรายังจะให้โมอับกลับสู่สภาพเดิมในกาลต่อไป” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละการพิพากษาโมอับมีเท่านี้