2 พงศ์‍กษัตริย์-19

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 เฮเซคียาห์ทรงปรึกษาอิสยาห์ ( อสย.37:1-7 ) ต่อมาเมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงได้ยิน ก็ฉีกฉลองพระองค์ และเอาผ้ากระสอบคลุมพระองค์ แล้วเสด็จเข้าไปในพระนิเวศของพระยาห์เวห์
  • 2 และพระองค์ทรงใช้เอลียาคิมเจ้ากรมวัง เชบนาห์ราชเลขาและพวกปุโรหิตอาวุโสคลุมตัวด้วยผ้ากระสอบ ไปหาผู้เผยพระวจนะอิสยาห์บุตรอามอส
  • 3 เขาทั้งหลายเรียนท่านว่า “เฮเซคียาห์ตรัสดังนี้ว่า ‘วันนี้เป็นวันทุกข์ใจ วันถูกติเตียนและอดสู เด็กก็ถึงกำหนดคลอดแต่ไม่มีกำลังเบ่งให้คลอด
  • 4 บางทีพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงได้ยินถ้อยคำทั้งสิ้นของรับชาเคห์ ผู้ที่พระราชาแห่งอัสซีเรียนายของเขาได้ส่งมาเยาะเย้ยพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และพระองค์จะทรงว่ากล่าวเขาด้วยเรื่องถ้อยคำซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงได้ยิน เพราะฉะนั้นขอท่านอธิษฐานเพื่อคนที่เหลืออยู่นี้’ ”
  • 5 เมื่อข้าราชการของกษัตริย์เฮเซคียาห์มาถึงอิสยาห์
  • 6 อิสยาห์ก็บอกเขาทั้งหลายว่า “จงทูลนายของท่านเถิดว่า ‘พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า อย่ากลัวเพราะถ้อยคำที่เจ้าได้ยินนั้น ซึ่งข้าราชการของพระราชาแห่งอัสซีเรียได้หมิ่นประมาทเรา
  • 7 ดูสิ เราจะบรรจุจิตใจอย่างหนึ่งในเขา เพื่อเขาจะได้ยินข่าวลือและกลับไปยังแผ่นดินของเขา และเราจะให้เขาล้มลงด้วยดาบในแผ่นดินของเขาเอง’ ”คำข่มขู่ของเซนนาเคอริบ
  • 8 ( อสย.37:8-13 ) รับชาเคห์ได้กลับไป และพบพระราชาแห่งอัสซีเรียกำลังสู้รบกับเมืองลิบนาห์ เพราะเขาได้ยินว่าพระราชาเสด็จออกจากเมืองลาคีชแล้ว
  • 9 และเมื่อพระราชาทรงได้ยินพวกเขากล่าวถึงทีรหะคาห์พระราชาแห่งคูชว่า “ดูสิ เขาได้ยกออกมาสู้รบกับพระองค์แล้ว” พระองค์จึงส่งบรรดาผู้สื่อสารไปเฝ้าเฮเซคียาห์อีก ตรัสว่า
  • 10 “เจ้าจงพูดกับเฮเซคียาห์พระราชาแห่งยูดาห์ดังนี้ว่า ‘อย่าให้พระเจ้าของท่านซึ่งท่านพึ่งนั้นหลอกลวงท่านว่า เยรูซาเล็มจะไม่ถูกมอบไว้ในมือของพระราชาแห่งอัสซีเรีย’
  • 11 ดูสิ ท่านได้ยินแล้วว่า บรรดาพระราชาแห่งอัสซีเรียได้ทำอะไรกับแผ่นดินทั้งหมดบ้าง คือทำลายจนสิ้น แล้วท่านเองจะรอดพ้นหรือ?
  • 12 บรรดาพระของประชาชาติซึ่งบรรพบุรุษของเราได้ทำลาย ได้ช่วยกู้พวกเขาให้พ้นหรือ? คือชนชาติโกซาน ฮาราน เรเซฟ และประชาชนของเอเดนซึ่งอยู่ในเทลอัสสาร์
  • 13 พระราชาของฮามัท พระราชาของอารปัด พระราชาของเมืองเสฟารวาอิม เฮนาและอิฟวาห์อยู่ที่ไหน?’ ”คำอธิษฐานของเฮเซคียาห์
  • 14 ( อสย.37:14-35 ) เฮเซคียาห์ทรงรับจดหมายจากมือของผู้สื่อสารและทรงอ่าน และเสด็จขึ้นไปยังพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และเฮเซคียาห์ทรงคลี่จดหมายนั้นออกเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์
  • 15 และเฮเซคียาห์ทรงอธิษฐานเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ประทับเหนือเหล่าเครูบอพย.25:22 พระองค์แต่องค์เดียวทรงเป็นพระเจ้าแห่งบรรดาราชอาณาจักรของแผ่นดินโลก พระองค์ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
  • 16 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณสดับ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอเบิกพระเนตรมองดู และขอทรงฟังถ้อยคำของเซนนาเคอริบซึ่งเขาได้ส่งมาเย้ยพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์
  • 17 ข้าแต่พระยาห์เวห์ เป็นความจริงที่พระราชาแห่งอัสซีเรียได้ทำให้ประชาชาติและแผ่นดินของพวกเขาร้างเปล่า
  • 18 และได้เหวี่ยงพระของพวกเขาลงในกองไฟ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่พระเจ้า เป็นแต่ผลงานของมือมนุษย์ เป็นไม้และหิน เพราะฉะนั้นจึงถูกทำลาย
  • 19 ฉะนั้นบัดนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยพวกข้าพระองค์ให้พ้นมือของเขา เพื่อราชอาณาจักรทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินโลกจะทราบว่า พระองค์คือพระยาห์เวห์ ทรงเป็นพระเจ้าแต่องค์เดียว”
  • 20 แล้วอิสยาห์บุตรอามอสได้ใช้คนไปเฝ้าเฮเซคียาห์ทูลว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ‘เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าเรื่องเซนนาเคอริบ พระราชาแห่งอัสซีเรียแล้ว’
  • 21 ต่อไปนี้เป็นพระวจนะที่พระยาห์เวห์ตรัสเกี่ยวกับท่านนั้นหมายถึง เซนนาเคอริบว่า‘ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยน ดูถูกเจ้า และเย้ยเจ้าธิดาแห่งเยรูซาเล็มสั่นศีรษะตามหลังใส่เจ้า
  • 22 เจ้าเย้ยและกล่าวหยาบช้าต่อผู้ใด?เจ้าขึ้นเสียงของเจ้าต่อผู้ใด?แล้วเบิ่งตาของเจ้าอย่างเย่อหยิ่งต่อผู้ใด?ต่อองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลน่ะซิ
  • 23 เจ้าได้เย้ยองค์เจ้านายด้วยผู้สื่อสารของเจ้าและเจ้าได้ว่า “ด้วยรถรบมากมายของข้าข้าได้ขึ้นไปที่สูงของภูเขาถึงที่ไกลสุดของเลบานอนข้าโค่นต้นสนสีดาร์ที่สูงที่สุดของมันลงทั้งต้นสนสามใบที่ดีที่สุดของมันข้าเข้าไปยังที่พักไกลลิบที่สุดของมันที่ป่าไม้ที่ทึบที่สุดของมัน
  • 24 ข้าขุดบ่อและดื่มน้ำในดินแดนต่างด้าวข้าเอาฝ่าเท้าของข้าทำให้ธารน้ำทั้งสิ้นของอียิปต์แห้งไป”
  • 25 ‘เจ้าไม่ได้ยินหรือ?เราได้จัดไว้นานแล้วเราได้กะแผนงานไว้แต่ดึกดำบรรพ์ณ บัดนี้เราให้เป็นไปแล้วคือเจ้าจะทำเมืองที่มีป้อมให้พังลงให้เป็นกองสิ่งปรักหักพัง
  • 26 ส่วนชาวเมืองนั้นก็หมดอำนาจตกตะลึงและอับอายกลายเป็นเหมือนต้นไม้ที่ทุ่งนาและเหมือนหญ้าอ่อนเหมือนหญ้าบนหลังคาเรือนแห้งไปก่อนที่จะงอกงาม
  • 27 ‘แต่เราได้รู้จักการที่เจ้านั่งลงการที่เจ้าออกไปและการที่เจ้าเข้ามาและการเกรี้ยวกราดของเจ้าต่อเรา
  • 28 เพราะการเกรี้ยวกราดของเจ้าต่อเราและความจองหองของเจ้าได้มาเข้าหูของเราฉะนั้นเราจะเอาขอของเราเกี่ยวจมูกเจ้าและเอาบังเหียนของเราใส่ปากเจ้าแล้วเราจะหันเจ้ากลับไปตามทาง ซึ่งเจ้ามานั้น
  • 29 ‘และนี่จะเป็นหมายสำคัญแก่เจ้า คือ ปีนี้เจ้าจะกินสิ่งที่งอกขึ้นเอง และในปีที่สองสิ่งที่ผลิจากเดิม แล้วในปีที่สามจงหว่านและเกี่ยวและทำสวนองุ่น และกินผลของมัน
  • 30 คนที่เหลืออยู่แห่งเชื้อวงศ์ของยูดาห์จะหยั่งรากลงล่าง และเกิดผลขึ้นบน
  • 31 เพราะคนที่รอดจะออกจากเยรูซาเล็ม และคนที่เหลืออยู่จะออกจากภูเขาศิโยน ความกระตือรือร้นของพระยาห์เวห์สำเนาโบราณบางฉบับว่า พระยาห์เวห์จอมทัพจะทำการนี้’
  • 32 “เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์ตรัสเกี่ยวกับพระราชาแห่งอัสซีเรียดังนี้ว่า ‘เขาจะไม่เข้าในเมืองนี้ หรือยิงลูกธนูไปที่นั่น หรือถือโล่เข้ามาหน้าเมือง หรือสร้างเชิงเทินสู้มัน
  • 33 เขามาทางไหน เขาจะกลับไปทางนั้น เขาจะไม่เข้าเมืองนี้ พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
  • 34 เพราะเราจะป้องกันเมืองนี้ไว้ให้รอด เพื่อเห็นแก่เราเอง และเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา’ ”เซนนาเคอริบแพ้และสิ้นพระชนม์
  • 35 ( อสย.37:36-38 ;2 พศด.32:20-23 ) และอยู่มาในคืนนั้น ทูตของพระยาห์เวห์ได้ออกไป และได้ประหารคนในค่ายอัสซีเรียเสีย185,000คน และเมื่อคนลุกขึ้นในเวลาเช้ามืด ดูสิ พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นศพ
  • 36 ดังนั้นเซนนาเคอริบพระราชาแห่งอัสซีเรียจึงยกกลับไป และอยู่ในกรุงนีนะเวห์
  • 37 และอยู่มาเมื่อท่านนมัสการในนิเวศของพระนิสโรครูปเคารพในกรุงนีนะเวห์ มีตัวเป็นคนแต่หัวเป็นนกอินทรีพระของท่าน อัดรัมเมเลคและชาเรเซอร์ พระราชโอรสของท่านก็ประหารท่านด้วยดาบ และหนีไปยังแผ่นดินอารารัต และเอสารฮัดโดนพระราชโอรสของท่านก็ขึ้นครองราชย์แทน
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页