2 พงศ์‍กษัตริย์-17

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 โฮเชยาทรงครองอิสราเอล ในปีที่ 12 แห่งรัชกาลอาหัสพระราชาแห่งยูดาห์ โฮเชยาบุตรเอลาห์ได้ขึ้นครองราชย์ในกรุงสะมาเรีย และทรงครองอิสราเอลอยู่ 9 ปี
  • 2 และพระองค์ทรงทำสิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ แต่ก็ไม่เหมือนกับบรรดาพระราชาแห่งอิสราเอลที่อยู่ก่อนพระองค์
  • 3 แชลมาเนเสอร์พระราชาแห่งอัสซีเรียได้ทรงยกทัพมารบกับพระองค์ และโฮเชยาทรงยอมเป็นเมืองขึ้นและถวายเครื่องบรรณาการ
  • 4 แต่พระราชาแห่งอัสซีเรียทรงพบว่าโฮเชยาเป็นกบฏ เพราะโฮเชยาทรงใช้ผู้สื่อสารไปยังโสพระราชาแห่งอียิปต์ และไม่ยอมถวายเครื่องบรรณาการแก่พระราชาแห่งอัสซีเรีย อย่างที่ทรงเคยทำมาทุกปี เพราะฉะนั้นพระราชาแห่งอัสซีเรียจึงขังพระองค์ไว้ และจำพระองค์ไว้ในคุก
  • 5 อิสราเอลถูกกวาดต้อนเป็นเชลยในอัสซีเรีย แล้วพระราชาแห่งอัสซีเรียก็ทรงบุกเข้าทั่วแผ่นดิน และขึ้นมายังกรุงสะมาเรียและทรงล้อมเมืองไว้ 3 ปี
  • 6 ในปีที่ 9 แห่งรัชกาลโฮเชยา พระราชาแห่งอัสซีเรียยึดกรุงสะมาเรียได้ พระองค์ทรงกวาดต้อนคนอิสราเอลไปยังอัสซีเรีย และให้พวกเขาอยู่ที่ฮาลาห์ และข้างแม่น้ำฮาโบร์แห่งเมืองโกซาน และในเมืองต่างๆ ของคนมีเดีย
  • 7 ที่เป็นอย่างนั้น ก็เพราะคนอิสราเอลได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของตน ผู้ทรงนำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ จากพระหัตถ์ของฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ และเพราะพวกเขาได้นมัสการพระอื่นๆ
  • 8 และได้ดำเนินตามธรรมเนียมปฏิบัติของประชาชาติ ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงขับไล่ไปเสียให้พ้นหน้าคนอิสราเอล และตามกฎเกณฑ์ที่บรรดาพระราชาแห่งอิสราเอลทรงนำเข้ามา
  • 9 และคนอิสราเอลได้ทำสิ่งที่ไม่ชอบต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของตนอย่างลับๆ เขาทั้งหลายได้สร้างปูชนียสถานสูงสำหรับตนทั่วบ้านทั่วเมือง ตั้งแต่ที่ที่มีหอสังเกตการณ์ จนถึงเมืองที่มีป้อมแปลได้อีกว่า ตั้งแต่หมู่บ้านเล็กที่สุดจนถึงเมืองใหญ่ที่สุด
  • 10 พวกเขาได้ตั้งเสาศักดิ์สิทธิ์และเสาอาเช-ราห์บนเนินเขาสูงทุกแห่ง และใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น1 พกษ.14:23
  • 11 ณ ที่นั่น พวกเขาได้เผาเครื่องหอมบนปูชนียสถานสูงทุกที่ ตามอย่างประชาชาติซึ่งพระยาห์เวห์ทรงกวาดไปเสียต่อหน้าพวกเขา และเขาทั้งหลายได้ทำสิ่งชั่ว ทำให้พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธ
  • 12 เขาทั้งหลายปรนนิบัติรูปเคารพ ซึ่งพระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่เขาแล้วว่า “เจ้าอย่าทำอย่างนี้”
  • 13 พระยาห์เวห์ยังทรงตักเตือนอิสราเอลและยูดาห์ ทางผู้เผยพระวจนะทุกคนและผู้ทำนายทุกคนว่า “จงหันจากทางชั่วทั้งหลายของเจ้า และรักษาพระบัญญัติของเราและกฎเกณฑ์ของเรา ตามธรรมบัญญัติทั้งสิ้นซึ่งเราได้บัญชาแก่บรรพบุรุษของเจ้า และซึ่งเราได้ส่งมายังเจ้าทางผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเรา”
  • 14 แต่พวกเขาไม่ฟังและดื้อดึงเหมือนอย่างบรรพบุรุษของพวกเขา ผู้ไม่เชื่อถือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา
  • 15 เขาได้ปฏิเสธกฎเกณฑ์และพันธสัญญาของพระองค์ ซึ่งทรงทำกับบรรพบุรุษของเขา รวมทั้งพระดำรัสเตือนซึ่งประทานแก่เขา เขาทั้งหลายติดตามสิ่งไร้ค่าแปลได้อีกว่า ติดตามรูปเคารพที่ไร้ค่าและกลายเป็นสิ่งไร้ค่าไป และเขาทำตามประชาชาติที่อยู่รอบๆ ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงห้ามเขาทำตาม
  • 16 และเขาทั้งหลายได้ละทิ้งพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของตน และได้หล่อรูปเคารพสำหรับตนเป็นลูกวัวสองตัว1 พกษ.12:28 และเขาได้สร้างเสาอาเช-ราห์ และโน้มตัวลงกราบบรรดาบริวารของฟ้าสวรรค์ และปรนนิบัติพระบาอัล
  • 17 เขาทั้งหลายได้ให้บุตรชายหญิงของเขาลุยไฟ และเขาได้ทำนายโชคชะตาและทำเวทมนตร์ ทั้งขายตัวเองฉธบ.18:10ไปทำสิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ ทำให้พระองค์ทรงพระพิโรธ
  • 18 เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธต่ออิสราเอลยิ่งนัก และทรงให้พวกเขาออกไปพ้นพระพักตร์ของพระองค์ ไม่มีใครเหลืออยู่นอกจากเผ่ายูดาห์เท่านั้น
  • 19 ยูดาห์ไม่ได้รักษาพระบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาด้วย แต่ดำเนินตามกฎเกณฑ์ของอิสราเอลที่ได้ทำกัน
  • 20 และพระยาห์เวห์ทรงปฏิเสธเชื้อสายทั้งสิ้นของอิสราเอล และทรงให้เขาทั้งหลายทนทุกข์ และมอบเขาไว้ในมือของผู้ปล้น จนกว่าพระองค์ได้ทรงเหวี่ยงเขาไปพ้นพระพักตร์ของพระองค์
  • 21 เพราะพระองค์ทรงฉีกอิสราเอลจากราชวงศ์ของดาวิด และพวกเขาได้ตั้งเยโรโบอัมบุตรเนบัทให้เป็นพระราชา และเยโรโบอัมทรงชักนำอิสราเอลไปจากการติดตามพระยาห์เวห์ และนำให้พวกเขาทำบาปอย่างใหญ่หลวง
  • 22 คนอิสราเอลได้ดำเนินในบาปทั้งสิ้น ซึ่งเยโรโบอัมได้ทรงกระทำ เขาทั้งหลายไม่ได้หันจากบาปเหล่านั้นเลย
  • 23 จนพระยาห์เวห์ทรงให้อิสราเอลออกไปพ้นพระพักตร์ของพระองค์ ตามที่ตรัสทางบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ อิสราเอลจึงถูกกวาดจากแผ่นดินของตนไปเป็นเชลยในอัสซีเรียจนทุกวันนี้
  • 24 อัสซีเรียส่งคนเข้าตั้งรกรากในสะมาเรีย พระราชาแห่งอัสซีเรียทรงนำประชาชนมาจากบาบิโลน คูธาห์ อัฟวา ฮามัท เสฟารวาอิม และให้พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ของสะมาเรียแทนประชาชนอิสราเอล พวกเขาก็เข้าถือกรรมสิทธิ์สะมาเรีย และอาศัยอยู่ในเมืองเหล่านั้น
  • 25 และตั้งแต่แรกที่พวกเขามาอาศัยอยู่ที่นั่น เขาก็ไม่ได้ยำเกรงพระยาห์เวห์ ฉะนั้นพระยาห์เวห์จึงทรงให้สิงโตมาท่ามกลางเขา พวกมันฆ่าบางคนในพวกเขา
  • 26 เพราะฉะนั้นมีผู้ไปทูลพระราชาแห่งอัสซีเรียว่า “ประชาชาติซึ่งฝ่าพระบาททรงพาไปอยู่ในเมืองต่างๆ ของสะมาเรียนั้น ไม่รู้ธรรมเนียมของพระของแผ่นดินนั้น ฉะนั้นพระจึงให้สิงโตมาท่ามกลางเขา และดูสิ พวกมันได้ฆ่าพวกเขาเสีย เพราะเขาไม่รู้ธรรมเนียมของพระของแผ่นดินนั้น”
  • 27 แล้วพระราชาแห่งอัสซีเรียจึงบัญชาว่า “จงนำคนหนึ่งในพวกปุโรหิตที่พวกเจ้ากวาดต้อนมาจากที่นั่นไปที่นั่น จงให้เขาไปอยู่ที่นั่น และให้สั่งสอนธรรมเนียมของพระของแผ่นดินนั้น”
  • 28 ฉะนั้นคนหนึ่งในพวกปุโรหิตที่พวกเขากวาดมาจากสะมาเรีย จึงไปอาศัยอยู่ที่เมืองเบธเอลและสั่งสอนเขาทั้งหลายว่า เขาจะต้องยำเกรงพระยาห์เวห์อย่างไร
  • 29 แต่ว่าประชาชาติทั้งสิ้นยังสร้างรูปพระของตนเอง และตั้งไว้ในนิเวศแห่งปูชนียสถานสูงซึ่งชาวสะมาเรียได้สร้างไว้ในเมืองต่างๆ ที่ประชาชาติทั้งสิ้นอาศัยอยู่
  • 30 ชาวบาบิโลนสร้างพระสุคคทเบโนท ชาวคูทสร้างพระเนอร์กัล ชาวฮามัทสร้างพระอาชิมา
  • 31 ชาวอัฟวาสร้างพระนิบหัสและพระทารทัก ชาวเสฟารวาอิมเผาเด็กของตนในไฟถวายพระอัดรัมเมเลคและพระอานัมเมเลค ซึ่งเป็นพระของเมืองเสฟารวาอิม
  • 32 ประชาชาติเหล่านี้นมัสการพระยาห์เวห์ด้วย แต่ได้ตั้งปุโรหิตแห่งปูชนียสถานสูงจากท่ามกลางพวกเขา ให้ทำหน้าที่เพื่อพวกเขาในนิเวศแห่งปูชนียสถานสูง
  • 33 เขาจึงยำเกรงพระยาห์เวห์ แต่ก็ปรนนิบัติบรรดาพระของเขาเองด้วย ตามธรรมเนียมของบรรดาประชาชาติที่พวกอัสซีเรียกวาดเขามาจากที่นั้น
  • 34 ทุกวันนี้เขาก็ทำตามธรรมเนียมเดิมเขาทั้งหลายไม่ยำเกรงพระยาห์เวห์ ไม่ทำตามกฎเกณฑ์ หรือกฎหมาย หรือธรรมบัญญัติ หรือพระบัญญัติ ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงบัญชาแก่ลูกหลานของยาโคบ ผู้ที่พระองค์ประทานนามให้ว่าอิสราเอลปฐก.32:28; 35:10
  • 35 พระยาห์เวห์ทรงทำพันธสัญญากับเขาทั้งหลายและบัญชาเขาว่า “อย่ายำเกรงพระอื่นๆ หรือกราบนมัสการพระนั้น หรือปรนนิบัติ หรือถวายสัตวบูชาแก่พระนั้นอพย.20:5; ฉธบ.5:9
  • 36 แต่เจ้าจงยำเกรงพระยาห์เวห์ฉธบ.6:13 ผู้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ และด้วยพระกรคำราชาศัพท์หมายถึง แขนที่เหยียดออก เจ้าจงนมัสการพระองค์ และจงถวายสัตวบูชาแด่พระองค์
  • 37 และกฎเกณฑ์ กฎหมาย และธรรมบัญญัติ และพระบัญญัติซึ่งพระองค์ทรงจารึกสำหรับพวกเจ้า เจ้าจงระวังที่จะทำตามเสมอ เจ้าอย่ายำเกรงพระอื่นเลย
  • 38 เจ้าอย่าลืมพันธสัญญาที่เราได้ทำไว้กับเจ้า และอย่ายำเกรงพระอื่นเลย
  • 39 แต่เจ้าทั้งหลายจงยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า และพระองค์จะทรงช่วยกู้เจ้าให้พ้นมือศัตรูทั้งสิ้นของเจ้า”
  • 40 พวกเขาไม่ได้ฟัง แต่ยังทำตามธรรมเนียมเดิมของตน
  • 41 ดังนั้นประชาชาติเหล่านี้จึงยำเกรงพระยาห์เวห์ และปรนนิบัติรูปเคารพสลักของพวกเขาด้วย ลูกของพวกเขาก็เช่นเดียวกัน หลานของพวกเขาก็เช่นเดียวกัน บรรพบุรุษของพวกเขาทำอย่างไร พวกเขาก็ทำอย่างนั้นจนทุกวันนี้
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页