เฉลย‍ธรรม‍บัญ‌ญัติ-9

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 พระเจ้าจะทรงทำลายชาติต่างๆของคานาอัน “โอ คนอิสราเอล จงฟังเถิด ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปในวันนี้ เพื่อจะเข้าไปขับไล่ประชาชาติที่ใหญ่กว่า และมีกำลังมากกว่าท่าน ทั้งเมืองก็ใหญ่มีกำแพงสูงเทียมฟ้า
  • 2 ประชาชนก็สูงใหญ่ เป็นลูกหลานของอานาค ผู้ที่ท่านทั้งหลายรู้จักแล้ว และผู้ที่ท่านได้ยินเขาพูดว่า ‘ใครจะยืนหยัดต่อสู้กับลูกหลานของอานาคได้’
  • 3 วันนี้ท่านทั้งหลายจงทราบเถอะว่า ผู้ที่ไปดังเพลิงเผาผลาญข้างหน้าท่าน นั้นคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน พระองค์จะทรงทำลายเขาและทรง กระทำให้เขาพ่ายแพ้ต่อหน้าท่าน ดังนั้นท่านจะได้ขับไล่เขาออกไป กระทำให้เขาพินาศโดยเร็ว ดังที่พระเยโฮวาห์ทรงสัญญาไว้กับท่านทั้งหลายแล้วนั้น
  • 4 “เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของท่านได้ขับไล่เขาออกไปต่อหน้าท่านทั้งหลายแล้ว ท่านทั้งหลายอย่านึกในใจว่า ‘เพราะความชอบธรรมของข้า พระเจ้าจึงทรงนำข้ามาให้ยึดครองแผ่นดินนี้’ แต่เพราะความชั่วของประชาชาติเหล่านี้ พระเจ้าจึงทรงขับไล่เขาออกไปต่อหน้าท่าน
  • 5 ซึ่งท่านทั้งหลายกำลังเข้าไปยึดครองแผ่นดินนี้นั้น มิใช่เพราะความชอบธรรมของท่าน หรือความสัตย์ธรรม ในใจของท่าน แต่เป็นเพราะความชั่วช้าของประชาชาตินี้ ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านต้องขับไล่ เขาออกเสียต่อหน้าท่านทั้งหลาย และเพื่อว่าพระองค์จะทรงให้เป็นจริงตาม พระวจนะซึ่งพระเจ้าทรงปฏิญาณต่อบรรพบุรุษของท่าน คือต่ออับราฮัม ต่ออิสอัค และต่อยาโคบเตือนอิสราเอลเรื่องกบฏที่โฮเรบ
  • 6 ( อพย. 31:18-32:35 ) “เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายพึงทราบเถิดว่า ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ทรงประทานแผ่นดินดีนี้ให้ท่านยึดครองนั้น มิใช่เพราะความชอบธรรมของท่าน เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็นชนชาติที่ดื้อดึง
  • 7 จงจำไว้และอย่าลืมเสียว่า พวกท่านได้กระทำให้พระเยโฮวาห์ พระเจ้าของท่านพิโรธที่ในถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ กระทั่งท่านมาถึงที่นี่ท่านมักกบฏต่อพระเจ้าอยู่
  • 8 แม้ว่าที่โฮเรบท่านก็กระทำให้พระเจ้าทรงพิโรธ และพระเจ้าก็ทรงกริ้วมากถึงกับจะทำลายท่านทั้งหลายเสีย
  • 9 เมื่อข้าพเจ้าขึ้นไปบนภูเขาเพื่อจะรับศิลาจารึก เป็นศิลาพันธสัญญาซึ่งพระเจ้ากระทำไว้กับท่าน ข้าพเจ้าอยู่บนภูเขาสี่สิบวันสี่สิบคืน อพย. 24:18 ข้าพเจ้าไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ
  • 10 และพระเจ้าได้ประทานศิลาจารึกสองแผ่นที่ พระองค์ทรงจารึกเองด้วยนิ้วพระหัตถ์ให้แก่ข้าพเจ้า บนศิลานั้นมีพระวจนะทั้งสิ้นซึ่งพระเจ้าได้ตรัสกับ ท่านทั้งหลายบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิงในวันที่ประชุมกันอยู่
  • 11 เมื่อสิ้นสี่สิบวันสี่สิบคืนแล้ว พระเจ้า ประทานศิลาสองแผ่นเป็นศิลาพันธสัญญา
  • 12 แล้วพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงลุกขึ้นลงไปจากที่นี่เถิด เพราะชนชาติของเจ้าซึ่งเจ้านำออกจากอียิปต์ได้หลงกระทำผิด เขาได้หันเสียจากทางซึ่งเราบัญชาเขาไว้นั้นอย่างรวดเร็ว เขาได้หล่อรูปเคารพไว้สำหรับตัวเขาทั้งหลาย’
  • 13 “ยิ่งกว่านั้นอีกพระเจ้ายังตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เราได้เห็นชนชาตินี้แล้วและดูเถิด เขาทั้งหลายเป็นชนชาติที่ดื้อ
  • 14 ขออย่าทักท้วงเรา ให้เราทำลายเขา และลบชื่อของเขาเสียจากใต้ฟ้า และเราจะตั้งเจ้าให้เป็นประชาชาติ ที่มีกำลังกว่าและใหญ่กว่าเขา’
  • 15 ข้าพเจ้าจึงกลับลงมาจากภูเขา และภูเขานั้นก็มีเพลิงลุกอยู่ และศิลาพันธสัญญาสองแผ่นนั้นก็อยู่ในมือทั้งสองของข้าพเจ้า
  • 16 ดูเถิด เมื่อข้าพเจ้ามองดูก็แลเห็นท่านทั้งหลายกระทำบาปต่อ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายแล้ว ท่านทั้งหลายได้หล่อรูปลูกวัวไว้สำหรับท่าน ท่านได้หันจากพระมรรคาซึ่งพระเจ้าได้บัญชา แก่ท่านอย่างรวดเร็ว
  • 17 ข้าพเจ้าจึงยกศิลาทั้งสองแผ่นเหวี่ยงเสียจากมือทั้งสองของ ข้าพเจ้าและทำศิลาให้แตกต่อหน้าต่อตาของท่านทั้งหลาย
  • 18 แล้วข้าพเจ้าก็กราบราบลงต่อพระเจ้าอย่างครั้งก่อน สี่สิบวันสี่สิบคืนมิได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ เพราะบาปที่ท่านทั้งหลายได้กระทำเป็นเหตุ คือได้กระทำความชั่วในสายพระเนตรของพระเจ้า กระทำให้พระองค์ทรงพิโรธ
  • 19 เพราะข้าพเจ้ากลัว ฮบ. 12:21พระพิโรธ และความไม่พอพระทัยอย่างรุนแรง ซึ่งพระเจ้าทรงมีต่อท่าน พระองค์ก็จะทรงทำลายท่านอยู่แล้ว แต่พระเจ้าทรงฟังข้าพเจ้าในครั้งนั้นด้วย
  • 20 พระเจ้าทรงพิโรธต่ออาโรนมากจะทำลายเขาอยู่แล้ว ในครั้งนั้นข้าพเจ้าก็อธิษฐานเผื่ออาโรนด้วย
  • 21 แล้วข้าพเจ้าจึงเอาสิ่งที่บาปหนานั้น คือรูปลูกวัวซึ่งท่านสร้างขึ้นนั้นเผาเสียด้วยไฟแล้วทุบ แล้วบดให้เป็นผงละเอียดอย่างกับฝุ่น แล้วข้าพเจ้าก็โยนผงนั้นลงไปใน ลำธารซึ่งไหลลงมาจากภูเขา
  • 22 “ท่านทั้งหลายได้กระทำให้พระเจ้าทรงพิโรธที่ ทาเบ-ราห์ กดว. 11:3 และที่มัสสาห์ อพย. 17:7 และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ กดว. 11:34
  • 23 และเมื่อพระเจ้าทรงใช้ท่านไปจากคาเดชบารเนีย กดว. 13:25-14:38 ตรัสว่า ‘จงขึ้นไปยึดครองแผ่นดินนั้นซึ่งเราได้ให้ แก่เจ้า’ ฉธบ. 1:21 และท่านก็กบฏต่อพระบัญญัติของพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของท่าน กดว. 13:31; ฉธบ. 1:26; ฮบ. 3:16 ไม่ยอมเชื่อฟังหรือประพฤติตามพระสุรเสียงของพระองค์
  • 24 ท่านทั้งหลายเป็นคนกบฏต่อพระเจ้าเสมอ ตั้งแต่วันที่ข้าพเจ้ารู้จักท่านทั้งหลาย
  • 25 “ข้าพเจ้าจึงกราบลงต่อพระเจ้าสี่สิบวันสี่สิบคืนนี้ เพราะพระเจ้าได้ตรัสว่าจะทรงทำลายท่านทั้งหลายเสีย
  • 26 ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระเจ้าว่า ‘ข้าแต่พระเยโฮวาห์เจ้า ขออย่าทรงทำลายประชากรของพระองค์และ มรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงไถ่เขาทั้งหลายมาด้วยความยิ่งใหญ่ เป็นคนที่พระองค์ทรงนำออกมาจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์ อันทรงฤทธิ์
  • 27 ขอทรงระลึกถึงบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ คืออับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ขออย่าทรงใส่พระทัยในความดื้อดึง ความชั่วร้าย หรือบาป ของชนชาตินี้
  • 28 กลัวว่าชาวแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรง พาข้าพระองค์ทั้งหลายจากมานั้นจะว่า “เพราะพระเจ้าไม่สามารถจะพาเขา ทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงสัญญากับเขาไว้ และเพราะว่าพระองค์ทรงเกลียดชังเขา พระองค์จึงทรงพาเขาออกมาฆ่าเสียในถิ่นทุรกันดาร”
  • 29 เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นประชากรของพระองค์และเป็น มรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำเขาออกมาด้วยเดชานุภาพยิ่งใหญ่ และด้วยพระกรที่เหยียดออกของพระองค์’
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页