1
ระยะปีที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร “ครั้งนั้นเราทั้งหลายได้กลับ เดินเข้าถิ่นทุรกันดารตามทางที่ไปสู่ทะเลแดง ตามที่พระเจ้าตรัสสั่งข้าพเจ้า และเราทั้งหลายได้เดินเวียนภูเขาเสอีร์ กดว. 21:4หลายวัน2
แล้วพระเจ้าตรัสสั่งข้าพเจ้าว่า3
‘เจ้าทั้งหลายได้เดินเวียนที่แดนเทือกเขานี้นานพอแล้ว จงหันไปเดินทางทิศเหนือเถิด4
และจงบัญชาคนทั้งปวงว่า เจ้าทั้งหลายจวนจะเดินผ่านเขตแดนเมืองพี่น้องของเจ้า คือลูกหลานของเอซาวที่อยู่ตำบลเสอีร์แล้ว ปฐก. 36:8 และเขาทั้งหลายจะกลัวพวกเจ้า ฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงระวังตัว5
อย่าต่อสู้เขา เพราะเราจะไม่ให้ที่ของเขาแก่เจ้าเลย จะไม่ให้ที่ดินแม้เพียงฝ่าเท้าเหยียบได้ ด้วยว่าภูเขาเสอีร์นั้นเราได้ให้เอซาวยึดครองแล้ว6
เจ้าทั้งหลายจงเอาเงินซื้อเสบียงอาหารจาก เขาเพื่อจะได้กิน และจงเอาเงินซื้อน้ำจากเขาด้วยเพื่อจะได้ดื่ม7
เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเจ้า ได้อำนวยพระพรแก่บรรดาการที่มือของพวกเจ้าได้กระทำ พระองค์ทรงทราบทางที่เจ้าได้เดินในถิ่นทุรกันดารใหญ่นี้ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเจ้าได้อยู่กับเจ้าสี่สิบปี นี้มาแล้ว พวกเจ้ามิได้ขัดสนสิ่งใดเลย’8
แล้วเราทั้งหลายได้เดินเลยไป เลยไปจากพี่น้องของเราพวกลูกหลานเอซาวผู้อยู่ที่เสอีร์ ไปจากทางอาราบาห์จากเอลัทและจากเอซีโอนเกเบอร์“และเราได้เลี้ยวไปเดินตามทางถิ่นทุรกันดารโมอับ9
และพระเจ้าได้ตรัสกับเราว่า ‘เจ้าทั้งหลายอย่าราวีพวกโมอับ ปฐก. 19:37หรือ สู้รบกับเขาเลย เพราะเราจะไม่ให้ที่ของเขาแก่เจ้าเพื่อยึดครอง ด้วยเราได้ให้ที่ตำบลอาร์นั้นแก่พงศ์พันธุ์โลทให้ปกครองแล้ว’10
(แต่ก่อนคนเอมิมอยู่ที่นั่น เป็นชนชาติใหญ่และมาก และสูงอย่างคนอานาค11
คนเหล่านี้ได้ชื่ออีกว่าเรฟาอิม เหมือนคนอานาค แต่คนโมอับเรียกชื่อพวกนี้ว่าเอมิม12
เมื่อก่อนพวกโฮรีได้อยู่ที่เสอีร์ด้วย แต่ลูกหลานเอซาวได้มาอยู่แทนเขา และได้ทำลายเขาเสียให้พ้นหน้า และได้อาศัยอยู่ในที่ของเขา เหมือนพวกอิสราเอลได้กระทำแก่เมืองที่พระเจ้า ประทานให้เขายึดครองนั้น)13
‘บัดนี้เจ้าทั้งหลายจงยกเดินข้ามห้วย เศเรด’ เราทั้งหลายจึงข้ามห้วย เศเรด14
และนับตั้งแต่เรามาจากคาเดชบารเนีย จนถึงได้ข้ามลำธารเศเรดนั้นได้สามสิบแปดปี จนสิ้นชาติพันธุ์นั้น คือคนทั้งหลายที่จะออกทัพได้นั้นตายหมด ตามที่พระเจ้าทรงสัญญากับเขาไว้ กดว. 14:28-3515
แท้จริงพระหัตถ์พระเจ้าได้ทรงต่อสู้เขา ทรงทำลายเขาจากท่ามกลางค่าย จนเขาทั้งหลายศูนย์เสียหมด16
“เหตุฉะนั้นเมื่อคนที่ออกทัพได้ มาตายเสียหมดจากท่ามกลางคนเหล่านั้นแล้ว17
พระเจ้าได้ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า18
‘วันนี้เจ้าทั้งหลายจะเดินข้าม ตำบลอาร์เขตแดนของคนโมอับ19
และเมื่อเข้าใกล้แนวหน้าของคนอัมโมน ปฐก. 19:38 อย่าราวีหรือรบกับเขาเลย เพราะเราจะไม่ให้ที่อยู่ของลูกหลานคนอัมโมนแก่ เจ้าให้ยึดครองเลย ด้วยเราได้ให้ที่นั่นแก่พงศ์พันธุ์โลทเป็นผู้ยึดครองแล้ว’20
(ทั้งที่นั่นก็นับว่าเป็นแผ่นดินของพวกเรฟาอิม แต่ก่อนคนเรฟาอิมได้อยู่ในนั้น แต่คนอัมโมนได้เรียกชื่อของเขาว่าศัมซุมมิม21
คนเหล่านั้นใหญ่และมาก และสูงอย่างคนอานาค แต่พระเจ้าได้ทรงทำลายเขาเสียให้พ้นหน้า และพวกอัมโมนได้เข้ายึดที่ของเขาและตั้งอยู่แทน22
เหมือนพระองค์ได้ทรงกระทำให้แก่พวกลูกหลาน เอซาวผู้อยู่ที่เสอีร์ เมื่อพระองค์ทรงทำลายพวกโฮรีเสียให้พ้นหน้า และเขาได้ยึดที่ของพวกโฮรีแล้วตั้งอยู่แทนจนทุกวันนี้23
ส่วนพวกอัฟวิมที่อยู่ในชนบทจนถึงกาซา คนคัฟโทร์ซึ่งมาจากตำบลคัฟโทร์ ก็ได้ทำลายเขาและตั้งอยู่แทน)24
‘พวกเจ้าจงลุกเดินทางไปข้ามลุ่มแม่น้ำอารโนน ดูเถิด เราได้มอบสิโหนชาวอาโมไรต์ผู้เป็นกษัตริย์เมืองเฮชโบน และเมืองของเขาไว้ในมือของพวกเจ้า เจ้าทั้งหลายจงตั้งต้นยึดเมืองนั้นและสู้รบกับเขา25
ตั้งแต่วันนี้ไปเราจะให้ชนชาติทั้งหลายทั่วใต้ฟ้า ครั่นคร้ามต่อพวกเจ้าและกลัวเจ้า คนประเทศผู้จะได้ยินข่าวเรื่อง เจ้าจะกลัวตัวสั่นและมีความระทมเพราะเจ้า’อิสราเอลชนะสิโหน 26
( กดว. 21:21-30 ) “ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงใช้ผู้สื่อสารจากถิ่นทุรกันดาร เคเดโมทไปเฝ้าสิโหนกษัตริย์เมืองเฮชโบนนั้น ทูลถ้อยคำอันสันติว่า27
‘ขอให้ข้าพเจ้าเดินข้ามแผ่นดินของท่าน ข้าพเจ้าจะเดินไปตามทางหลวง จะไม่เลี้ยวไปทางขวามือหรือทางซ้ายมือเลย28
ขอท่านได้ขายเสบียงเอาเงินของข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะมีอาหารกิน และขอขายน้ำเอาเงินของข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะได้ดื่ม ขอให้ข้าพเจ้าเดินเท้าข้ามประเทศของท่านเท่านั้น29
ดุจพวกลูกหลานเอซาวที่อยู่ตำบลเสอีร์ และพวกโมอับที่อยู่ตำบลอาร์ ได้กระทำแก่ข้าพเจ้านั้น จนข้าพเจ้าจะข้ามแม่น้ำจอร์แดน เข้าไปในประเทศที่พระเยโฮวาห์พระเจ้า ของข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทรงประทานแก่ข้าพเจ้า’30
แต่สิโหนกษัตริย์เมืองเฮชโบน ไม่ยอมให้เราทั้งหลายข้ามประเทศของท่าน เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่าน ได้ทรงกระทำจิตใจของสิโหนให้กระด้าง กระทำใจของท่านให้แข็งไป เพื่อจะได้ทรงมอบเขาไว้ในมือของ พวกท่านดังเป็นอยู่ทุกวันนี้31
และพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘ดูเถิด เราได้เริ่มมอบสิโหนและเมืองของเขาไว้กับเจ้า จงเข้ายึดครองที่นั่นเพื่อเจ้าจะได้แผ่นดินของ เขาเป็นกรรมสิทธิ์’32
แล้วสิโหนยกออกมาต่อสู้กับเรา ทั้งท่านและพลโยธาทั้งหลายของท่านที่ตำบลยาฮาส33
และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายได้ทรง มอบท่านไว้ในมือของเรา และเราได้ตีทำลายท่านกับโอรสและพลโยธา ทั้งหลายของท่านเสีย34
ครั้งนั้นเราได้ยึดเมืองทั้งปวงของท่าน และเราได้ทำลายทุกๆเมืองเสียสิ้น เราทำลายผู้ชายผู้หญิงและเด็กทั้งหลาย ในทุกเมืองไม่ให้มีเหลือเลย35
แต่ฝูงสัตว์เราได้ยึดมาเป็นของเรา ทั้งของริบได้ในเมืองเหล่านั้นที่เราตีมา36
ตั้งแต่อาโรเออร์ที่อยู่ริมลุ่มน้ำอารโนนและตั้งแต่ เมืองที่อยู่ในลุ่มแม่น้ำนั้นจนถึงเมืองกิเลอาด ไม่มีเมืองใดที่ต่อต้านเราได้ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราได้ทรงมอบทั้งหมด ไว้ในมือของเรา37
แต่ท่านทั้งหลายมิได้เข้าใกล้แผ่นดินคนอัมโมน คือฝั่งแม่น้ำยับบอกและเมืองที่อยู่บนภูเขา และที่ใดๆซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราตรัสห้ามเรานั้น