1
โยชูวาผู้รับช่วงจากโมเสส โมเสสยังกล่าวถ้อยคำเหล่านี้แก่คนอิสราเอล2
และท่านกล่าวแก่เขาว่า “วันนี้ข้าพเจ้ามีอายุหนึ่งร้อยยี่สิบปีแล้ว ข้าพเจ้าจะออกไปและเข้ามาอีกไม่ไหวแล้ว พระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้’ กดว. 20:123
พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะข้ามไปข้างหน้าท่านเอง พระองค์จะทรงทำลายประชาชาติเหล่านี้ให้พ้นหน้าท่าน เพื่อว่าท่านจะได้ขับไล่เขาไป โยชูวาจะนำหน้าท่านทั้งหลายดังที่พระเจ้าตรัสไว้แล้ว4
พระเจ้าได้ทรงกระทำแก่เขาอย่างที่พระองค์ จะทรงกระทำแก่สิโหนและโอกกษัตริย์ของคน อาโมไรต์ และแก่แผ่นดินของเขา ผู้ที่พระองค์ทรงทำลายเขา กดว. 21:21-355
แล้วพระเจ้าจะทรงมอบเขาไว้แก่ท่าน และท่านทั้งหลายจะกระทำแก่เขาตาม บัญญัติทั้งสิ้นซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านไว้แล้ว6
จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรืออย่าครั่นคร้ามเขาเลย เพราะว่าผู้ที่ไปกับท่านคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน พระองค์จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลวหรือทอดทิ้งท่านเสีย”7
แล้วโมเสสเรียกโยชูวาเข้ามา และกล่าวแก่ท่านต่อหน้าคนอิสราเอลว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะท่านจะต้องไปกับชนชาตินี้ เข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระเจ้าทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่า จะประทานแก่เขา ท่านจงให้เขาได้เข้ายึดครองแผ่นดินนั้น8
ผู้ที่ไปข้างหน้าคือพระเจ้า พระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วย พระองค์จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลว หรือทอดทิ้งท่านเสีย ยชว. 1:5; ฮบ. 13:5 อย่ากลัวและอย่าขยาดเลย”9
ให้อ่านกฎหมายทุกเจ็ดปี โมเสสได้เขียนกฎหมายนี้ และมอบให้แก่ปุโรหิตบุตรหลานของเลวีผู้ซึ่งหามหีบ พันธสัญญา ของพระเจ้าและแก่พวกผู้ใหญ่ทั้งปวงของคนอิสราเอล10
และโมเสสบัญชาเขาว่า “เมื่อครบทุกๆเจ็ดปี ฉธบ. 15:1 ตามเวลากำหนดปีปลดปล่อย ณ เทศกาลอยู่เพิง ฉธบ. 16:13-1511
เมื่อคนอิสราเอลประชุมพร้อมกันต่อ พระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ณ สถานที่ซึ่งพระองค์ทรงเลือกไว้นั้น ท่านทั้งหลายจงอ่านกฎหมายนี้ให้คนอิสราเอลทั้งปวงฟัง12
จงเรียกประชาชนให้มาประชุมกันทั้งชาย หญิง และเด็ก ทั้งคนต่างด้าวในเมืองของท่านเพื่อให้เขาได้ยินและเรียนรู้ ที่จะยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และให้ระวังที่จะกระทำตามถ้อยคำทั้งสิ้นของธรรมบัญญัตินี้13
และเพื่อบุตรหลานทั้งหลายของเขาผู้ยังไม่ทราบจะได้ยิน และเรียนรู้ที่จะยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ตราบเท่าเวลาซึ่งท่านอยู่ในแผ่นดิน ซึ่งท่านกำลังจะยกข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครองนั้น”14
พระดำรัสสุดท้ายที่ประทานแก่โมเสส และพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “ดูเถิด วันซึ่งเจ้าต้องตายก็ใกล้เข้ามาแล้ว จงเรียกโยชูวามา และเจ้าทั้งสองจงมาเฝ้าเราในเต็นท์นัดพบ เพื่อเราจะได้กำชับเขา” โมเสสและโยชูวาก็เข้าไปในเต็นท์นัดพบ15
และพระเยโฮวาห์ทรงปรากฏในเสาเมฆที่ในเต็นท์นัดพบ และเสาเมฆนั้นอยู่ที่ประตูเต็นท์นัดพบ16
และพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “ดูเถิด ตัวเจ้าจวนจะต้องหลับอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้าแล้ว และชนชาตินี้จะลุกขึ้นและเล่นชู้กับพระแปลกๆของแผ่นดินนี้ ในที่ที่เขาไปอยู่ท่ามกลางนั้น เขาทั้งหลายจะทอดทิ้งเราเสียและหักพันธสัญญาซึ่งเราได้ กระทำไว้กับเขา17
แล้วในวันนั้นเราจะกริ้วต่อเขา และเราจะทอดทิ้งเขาเสียและซ่อนหน้าของเราเสียจากเขา เขาทั้งหลายจะถูกกลืน และสิ่งร้ายกับความลำบากเป็นอันมากจะมาถึงเขา ในวันนั้นเขาจึงจะกล่าวว่า ‘สิ่งร้ายเหล่านี้ตกแก่เรา เพราะพระเจ้าไม่ทรงสถิตท่ามกลางเราไม่ใช่หรือ’18
ในวันนั้นเราจะซ่อนหน้าของเราเสียจากเขาเป็นแน่ ด้วยเหตุความชั่วซึ่งเขาได้กระทำเพราะเขาได้หัน ไปหาพระอื่น19
เหตุฉะนี้เจ้าทั้งสองจงเขียนบทเพลงนี้ และสอนคนอิสราเอลให้ร้องจนติดปาก เพื่อบทเพลงนี้จะเป็นพยานของเราปรักปรำคนอิสราเอล20
เพราะว่าเมื่อเราจะได้นำเขาเข้ามาในแผ่นดิน ซึ่งมีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ ซึ่งเราได้ปฏิญาณจะประทานแก่บรรพบุรุษของเขา และเขาได้รับประทานอิ่มหนำและอ้วนพี เขาจะหันไปปรนนิบัติพระอื่น และหมิ่นประมาท เราและผิดพันธสัญญาของเรา21
และเมื่อสิ่งร้ายและความลำบากหลายอย่างมาถึงเขาแล้ว เพลงบทนี้จะเผชิญหน้าเป็นพยาน (เพราะว่าเพลงนี้จะอยู่ที่ปากลูกหลานของเขาไม่มีวันลืม) เพราะเรารู้ถึงความมุ่งหมายที่เขากำลังจะก่อขึ้นมาแล้ว ก่อนที่เราจะนำเขาเข้าไปในแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณไว้นั้น”22
โมเสสจึงได้เขียนบทเพลงนี้ในวันเดียวกันนั้นและสอนให้ แก่ประชาชนอิสราเอล23
พระองค์ตรัสสั่งโยชูวา กดว. 27:23บุตรนูนว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด ยชว. 1:6 เพราะเจ้าจะนำคนอิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณว่าจะให้แก่เขา เราจะอยู่กับเจ้า”24
เมื่อโมเสสเขียนถ้อยคำของธรรมบัญญัตินี้ลงใน หนังสือจนจบแล้ว25
โมเสสก็บัญชาคนเลวีผู้หามหีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้าว่า26
“จงรับหนังสือธรรมบัญญัตินี้วางไว้ข้างหีบพันธสัญญา แห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านให้อยู่ที่นั่นเพื่อ เป็นพยานปรักปรำท่าน27
เพราะเรารู้ว่า ท่านทั้งหลายเป็นคนมักฝ่าฝืนและดื้อดึง ดูเถิด เมื่อข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่กับท่าน วันนี้ท่านก็ยังฝ่าฝืนพระเจ้า เมื่อข้าพเจ้าตายแล้วจะร้ายกว่านี้สักเท่าใด28
ท่านจงเรียกประชุมพวกผู้ใหญ่ของทุกเผ่า และเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เพื่อข้าพเจ้าจะได้กล่าวถ้อยคำเหล่านี้ให้เขาฟัง และอัญเชิญสวรรค์และโลกให้เป็นพยานปรักปรำเขา29
เพราะข้าพเจ้าทราบแน่ว่าเมื่อข้าพเจ้าตายแล้ว ท่านจะประพฤติหลงผิดไปเป็นแน่ และหันเหไปจากทางซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านไว้ ความทุกข์ลำบากจะตกแก่ท่านในวันข้างหน้า เพราะว่าท่านจะกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรพระเจ้า กระทำให้พระองค์ทรงกริ้วด้วยการที่มือท่านกระทำ”30
บทเพลงของโมเสส โมเสสก็ได้กล่าวถ้อยคำในบทเพลงต่อไปนี้ให้เข้าหู ประชุมชนอิสราเอลทั้งหมดจนจบ