ดา‌เนียล-2

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 ดาเนียลแก้พระสุบินของเนบูคัดเนสซาร์ ในปีที่สองแห่งรัชกาลเนบูคัดเนสซาร์ เนบูคัดเนสซาร์ทรงพระสุบิน พระทัยของพระองค์ก็ทรงเป็นทุกข์บรรทมไม่หลับ
  • 2 แล้วพระราชาจึงทรงบัญชาให้มีหมายเรียกพวกโหร พวกหมอดู พวกนักวิทยาคม และคนเคลเดียเข้าทูลพระราชาให้รู้เรื่องพระสุบิน เขาทั้งหลายก็เข้ามาเฝ้าพระราชา
  • 3 และพระราชาตรัสกับเขาว่า “เราได้ฝัน และจิตใจของเราก็เป็นทุกข์ อยากรู้ว่าฝันว่ากระไร”
  • 4 แล้วคนเคลเดียจึงกราบทูลพระราชาว่า “ข้าแต่พระราชาขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ ขอทรงเล่าพระสุบินให้แก่พวกข้าพระบาท แล้วเหล่าข้าพระบาทจะได้ถวายคำแก้พระสุบิน”
  • 5 พระราชาทรงตอบคนเคลเดียว่า “คำของเรานั้นเด็ดขาด ถ้าเจ้าไม่ให้เรารู้ความฝันพร้อมทั้งคำแก้ฝัน แขนขาของเจ้าต้องถูกทึ้งออกและบ้านเรือนของ เจ้าจะต้องถูกทำลาย
  • 6 แต่ถ้าเจ้าสำแดงความฝันและคำแก้ฝันให้เรา เจ้าจะได้รับของขวัญ รางวัล และเกียรติยศใหญ่ยิ่ง ฉะนั้นจงสำแดงความฝันและคำแก้ฝันให้เรา”
  • 7 เขาทั้งหลายกราบทูลคำรบสองว่า “ขอพระราชาเล่าพระสุบินแก่พวกข้าพระบาท และเหล่าข้าพระบาทจะถวายคำแก้พระสุบินพระเจ้าข้า”
  • 8 พระราชาทรงตอบว่า “เรารู้เป็นแน่แล้วว่าเจ้าพยายามจะถ่วงเวลาไว้ เพราะเจ้าเห็นว่าคำของเรานั้นเด็ดขาด
  • 9 ว่าถ้าเจ้าไม่ให้เรารู้ความฝัน ก็มีคำตัดสินเจ้าอยู่ข้อเดียว เจ้าทั้งหลายตกลงที่จะพูดเท็จและพูดทุจริตต่อเรา จนจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นเจ้าจงบอกความฝันให้แก่เราแล้วเราจึงจะรู้ว่า เจ้าจะถวายคำแก้ความฝันให้เราได้”
  • 10 คนเคลเดียจึงกราบทูลพระราชาว่า “ไม่มีบุรุษคนใดในพิภพที่จะสำแดงเรื่องพระราชาได้ เพราะว่าไม่มีพระราชาที่ยิ่งใหญ่และทรงฤทธิ์ไต่ถาม สิ่งเหล่านี้จากโหร หรือหมอดู หรือคนเคลเดีย
  • 11 สิ่งซึ่งพระราชาตรัสถามนั้นยากและไม่มีผู้ใดจะ สำแดงแด่พระราชาได้นอกจากพระ ผู้ซึ่งมิได้อยู่กับมนุษย์”
  • 12 เพราะเรื่องนี้พระราชาจึงทรงกริ้วและเกรี้ยวกราดนัก และรับสั่งให้ฆ่าพวกนักปราชญ์ทั้งหมดของบาบิโลนเสีย
  • 13 เพราะฉะนั้นจึงมีพระราชกฤษฎีกาประกาศไปว่า ให้ฆ่านักปราชญ์เสียทั้งหมด เขาจึงเที่ยวหาดาเนียลและพรรคพวกเพื่อจะฆ่าเสีย
  • 14 แล้วดาเนียลก็ตอบอารีโอคหัวหน้าราชองครักษ์ ผู้ที่ออกไปเที่ยวฆ่านักปราชญ์ของบาบิโลน ด้วยถ้อยคำแยบคายและปรีชาสามารถ
  • 15 ท่านถามอารีโอคหัวหน้าว่า “ไฉนพระราชกฤษฎีกาของพระราชาจึงเอาโทษหนักนักเล่า” แล้วอารีโอคก็เล่าเรื่องให้ดาเนียลทราบ
  • 16 แล้วดาเนียลก็เข้าไปเฝ้าและกราบทูลพระราชา ขอให้กำหนดเวลาเพื่อท่านจะถวายคำแก้พระสุบินแด่ พระราชา
  • 17 แล้วดาเนียลก็กลับไปเรือนของท่านและ แจ้งเรื่องให้ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์สหายของท่านฟัง
  • 18 และบอกเขาให้ขอพระกรุณาแห่งพระเจ้าแห่ง ฟ้าสวรรค์เรื่องความลึกลับนี้ เพื่อดาเนียลและสหายของท่านจะไม่พินาศพร้อมกับ บรรดานักปราชญ์อื่นๆของบาบิโลน
  • 19 ในนิมิตกลางคืนทรงเผยความลึกลับนั้นแก่ดาเนียล แล้วดาเนียลก็ถวายสาธุการแด่พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์
  • 20 ดาเนียลกล่าวว่า“สาธุการแด่พระนามของพระเจ้าเป็นนิตย์สืบไปปัญญาและฤทธานุภาพเป็นของพระองค์
  • 21 พระองค์ทรงเปลี่ยนวาระและฤดูกาลพระองค์ทรงถอดพระราชาและทรงตั้งพระราชาขึ้นใหม่พระองค์ทรงประทานปัญญาแก่นักปราชญ์และทรงประทานความรู้แก่ผู้ที่มีความรอบรู้
  • 22 พระองค์ทรงเผยสิ่งที่ลึกซึ้งและลี้ลับพระองค์ทรงทราบสิ่งที่อยู่ในความมืดและความสว่างก็อยู่กับพระองค์
  • 23 โอ พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของข้าพระองค์ข้าพระองค์ขอโมทนาขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์เพราะพระองค์ประทานปัญญาและกำลังแก่ข้าพระองค์สิ่งนั้นที่พวกข้าพระองค์ทูลขอ พระองค์ก็ทรงให้ข้าพระองค์รู้แล้วเพราะพระองค์ได้ทรงสำแดงเรื่องของพระราชาให้แจ้งแก่พวกข้าพระองค์”
  • 24 แล้วดาเนียลก็เข้าไปหาอารีโอคผู้ซึ่ง พระราชาแต่งตั้งให้ฆ่านักปราชญ์แห่งบาบิโลน ท่านได้เข้าไปและกล่าวแก่อารีโอคว่าดังนี้ “ขออย่าฆ่านักปราชญ์แห่งบาบิโลน ขอโปรดนำตัวข้าพเจ้าเข้าไปเฝ้าพระราชา และข้าพเจ้าจะถวายคำแก้ฝันแก่พระราชา”
  • 25 แล้วอารีโอคก็รีบนำตัวดาเนียลเข้า เฝ้าพระราชาและกราบทูลพระองค์ว่า “ข้าพระบาทได้พบชายคนหนึ่ง ในหมู่พวกที่ถูกกวาดเป็นเชลยมาจากยูดาห์ ชายผู้นี้จะให้พระราชาทรงรู้คำแก้พระสุบินได้”
  • 26 พระราชาจึงตรัสแก่ดาเนียลผู้มีชื่อว่า เบลเทชัสซาร์ว่า “เจ้าสามารถที่จะให้เรารู้ถึง ความฝันที่เราได้ฝันนั้นและคำแก้ได้หรือ”
  • 27 ดาเนียลกราบทูลพระราชาว่า “ไม่มีนักปราชญ์หรือหมอดู หรือโหร หรือหมอดูฤกษ์ยามสำแดงความลับลึกซึ่งพระราชา ไต่ถามแด่พระองค์ได้
  • 28 แต่มีพระเจ้าองค์หนึ่งในฟ้าสวรรค์ผู้ทรงเผย ความลึกลับทั้งหลาย และพระองค์ทรงให้พระราชาเนบูคัดเนสซาร์รู้ถึง สิ่งซึ่งจะบังเกิดขึ้นในวาระภายหลังพระสุบินของพระองค์ และนิมิตที่ผุดขึ้นในพระเศียรของพระองค์บนพระแท่น นั้นเป็นดังนี้พระเจ้าข้า
  • 29 ข้าแต่พระราชา ขณะเมื่อฝ่าพระบาทบรรทมอยู่บนพระแท่น พระดำริในเรื่องซึ่งจะบังเกิดมาภายหลังได้ผุดขึ้น และพระองค์นั้นผู้ทรงเผยความลึกลับก็ทรงให้ ฝ่าพระบาทรู้ถึงสิ่งที่จะบังเกิดมา
  • 30 ฝ่ายข้าพระบาท ซึ่งทรงเผยความลับลึกนี้แก่ข้าพระบาทนั้น มิใช่เพราะข้าพระบาทมีปัญญามากกว่าผู้มีชีวิตทั้งหลาย แต่เพื่อพระราชาจะทรงรู้คำแก้พระสุบิน และเพื่อฝ่าพระบาทจะทรงรู้พระดำริใน พระทัยของฝ่าพระบาท
  • 31 “ข้าแต่พระราชา ฝ่าพระบาททอดพระเนตร และดูเถิด มีปฏิมากรขนาดใหญ่ ปฏิมากรนี้มีฤทธิ์และสุกใสยิ่งนัก ตั้งอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์ฝ่าพระบาทและรูปร่างก็น่ากลัว
  • 32 เศียรของพระปฏิมากรนี้เป็นทองนพคุณ อกและแขนเป็นเงิน ท้องและโคนขาเป็นทองสัมฤทธิ์
  • 33 ขาเป็นเหล็ก เท้าเป็นเหล็กปนดิน
  • 34 ขณะเมื่อพระองค์ทอดพระเนตร มีหินก้อนหนึ่งถูกตัดออกมามิใช่ด้วยมือมนุษย์ กระทบปฏิมากรที่เท้าอันเป็นเหล็กปนดิน กระทำให้แตกเป็นชิ้นๆ
  • 35 แล้วส่วนเหล็ก ส่วนกระเบื้อง ส่วนทองสัมฤทธิ์ ส่วนเงิน และส่วนทองคำ ก็แตกเป็นชิ้นๆพร้อมกัน กลายเป็นเหมือนแกลบจากลานนวดข้าวในฤดูร้อน ลมก็พัดพาเอาไป จึงหาร่องรอยไม่พบเสียเลย แต่ก้อนหินที่กระทบปฏิมากรนั้นกลายเป็นภูเขาใหญ่จนเต็มพิภพ
  • 36 “นี่เป็นพระสุบินพระเจ้าข้า บัดนี้เหล่าข้าพระบาทขอกราบทูล คำแก้พระสุบินให้พระราชาทรงทราบ
  • 37 ข้าแต่พระราชา พระราชาจอมพระราชาทั้งหลาย ซึ่งพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ได้ทรงประทานราชอาณาจักร อานุภาพ ฤทธิ์เดชและศักดิ์ศรี
  • 38 และได้ทรงมอบไว้ในหัตถ์พระองค์ท่านซึ่งบุตรชาย ทั้งหลายของมนุษย์ สัตว์ในทุ่งนาและนกในอากาศ ไม่ว่ามันจะอาศัยอยู่ ณ ที่ใดๆ ให้แก่ฝ่าพระบาท กระทำให้ฝ่าพระบาทปกครองมันได้ทั้งหมด เศียรทองคำนั้นคือฝ่าพระบาทเอง
  • 39 ต่อจากฝ่าพระบาทไปจะมีราชอาณาจักร ด้อยกว่าฝ่าพระบาท และยังมีราชอาณาจักรที่สามเป็นทองสัมฤทธิ์ ซึ่งจะปกครองอยู่ทั่วพิภพ
  • 40 และจะมีราชอาณาจักรที่สี่แข็งแรงดั่งเหล็ก เพราะเหล็กตีสิ่งทั้งหลายให้หักและแตกเป็นชิ้นๆ ราชอาณาจักรนั้นจะหัก และทุบสิ่งเหล่านี้ดังเหล็กซึ่งทุบให้แหลก
  • 41 ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตร เท้าและนิ้วเท้าเป็นดิน ช่างหม้อบ้าง เหล็กบ้าง จะเป็นราชอาณาจักรประสม แต่ความเหนียวของเหล็กจะยังอยู่ในนั้นบ้าง ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตรเหล็กปนดินเหนียว
  • 42 และนิ้วเท้าเป็นเหล็กปนดินฉันใด ราชอาณาจักรนั้นจึงแข็งแรงบ้างเปราะบ้างฉันนั้น
  • 43 ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตรเหล็กปนดินเหนียว ราชอาณาจักรจะปนกันด้วยการสมรส แต่จะไม่ยึดกันแน่นไว้ได้อย่างเดียว กับที่เหล็กไม่ประสมเข้ากับดิน
  • 44 และในสมัยของพระราชาเหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะทรงสถาปนาราชอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งไม่มีวันทำลายเสียได้ หรือราชอำนาจนั้นจะไม่ตกไปแก่ชนชาติอื่น ราชอาณาจักรนั้นจะกระทำ ให้ราชอาณาจักรเหล่านี้แตกเป็นชิ้นๆถึงอวสาน และราชอาณาจักรนั้นจะตั้งมั่นอยู่เป็นนิตย์
  • 45 ดังที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตรก้อนหินถูกตัดออกจากภูเขา มิใช่ด้วยมือมนุษย์ และก้อนหินนั้นได้กระทำให้เหล็ก ทองสัมฤทธิ์ ดิน เงิน และทองคำแตกเป็นชิ้นๆ พระเจ้ายิ่งใหญ่ได้ทรงให้พระราชารู้ว่าอะไรจะบังเกิดมาภายหลังนี้ พระสุบินนั้นเที่ยงแท้ และคำแก้พระสุบินก็แน่นอน”
  • 46 แล้วพระราชาเนบูคัดเนสซาร์ ก็ทรงกราบลงและเคารพดาเนียล และมีพระบัญชาให้นำเครื่องบูชา และเครื่องหอมมาถวายดาเนียล
  • 47 พระราชาตรัสกับดาเนียลว่า “แน่นอนทีเดียว พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าของพระทั้งหลาย และทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของพระราชาทั้งปวง ทรงเป็นผู้เผยความลึกลับ เพราะท่านสามารถที่จะเผยความลึกลับนี้ได้”
  • 48 ฝ่ายพระราชาก็พระราชทานยศชั้นสูง และของพระราชทานยิ่งใหญ่เป็นอันมากแก่ดาเนียล และแต่งตั้งให้เป็นผู้ครอบครองหมดเมืองบาบิโลน และเป็นประธานใหญ่ของนักปราชญ์ทั้งสิ้นแห่งบาบิโลน
  • 49 ดาเนียลก็กราบทูลขอต่อพระราชาและพระองค์ ทรงตั้งให้ชัดรัค เมชาคและเอเบดเนโกเป็นผู้จัดธุรกิจในเมืองบาบิโลน แต่ดาเนียลยังคงอยู่ในราชสำนัก
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页