เอ‌เส‌เคียล-33

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 หน้าที่ของยาม ( อสค. 3:16-21 )พระวจนะของพระเจ้ามายังข้าพเจ้าว่า
  • 2 “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงพูดกับชนชาติของเจ้าและกล่าวแก่เขาว่า ถ้าเรานำดาบมาเหนือแผ่นดินและถ้าประชาชน ในแผ่นดินนั้นตั้งชายคนหนึ่งจากพวกเขาให้เป็นยาม
  • 3 และถ้าเขาเห็นดาบมาเหนือแผ่นดินจึงเป่า เขาสัตว์และตักเตือนประชาชน
  • 4 เมื่อคนหนึ่งคนใดได้ยินเสียงเขาสัตว์ แต่ไม่นำพาต่อเสียงตักเตือน และดาบนั้นก็มาพาเอาคนนั้นไปเสีย ที่เขาต้องตายนั้นเขาเองต้องรับผิดชอบ
  • 5 คือเขาได้ยินเสียงเขาสัตว์ แต่ไม่นำพาต่อเสียงตักเตือน ตัวเขาเองต้องรับผิดชอบ ถ้าเขาได้นำพาต่อเสียงตักเตือนแล้ว เขาคงจะได้ช่วยชีวิตของตนเองให้รอด
  • 6 แต่ถ้าคนยามเห็นดาบมาแล้วและไม่เป่าเขาสัตว์ ประชาชนจึงไม่ได้รับเสียงตักเตือน และดาบก็มาพาคนหนึ่งคนใดไปเสีย คนนั้นถูกนำไปด้วยเรื่องความบาปชั่วของเขา แต่เราจะลงโทษคนยาม เพราะความตายของคนนั้น
  • 7 “ฉะนี้แหละ เจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เราได้กระทำเจ้าให้เป็นคนยามสำหรับพงศ์พันธุ์อิสราเอล เจ้าได้ยินถ้อยคำจากปากของเราเมื่อไร เจ้าจงให้คำตักเตือนของเราแก่ประชาชน
  • 8 ถ้าเรากล่าวแก่คนอธรรมว่า โอ คนอธรรมเอ๋ย เจ้าจะต้องตายแน่ แต่เจ้าก็มิได้กล่าวคำตักเตือนให้คนอธรรมกลับ จากทางของเขา คนอธรรมนั้นจะต้องตายเพราะความบาปชั่วของเขา แต่เราจะลงโทษเจ้าเพราะความตายของเขา
  • 9 แต่ถ้าเจ้าได้ตักเตือนคนอธรรมให้หันกลับ จากทางของเขาแล้ว แต่เขาไม่หันกลับจากทางของเขา เขาจะตายเพราะความบาปชั่วของเขา แต่เจ้าจะช่วยชีวิตของเจ้าเองให้รอดวิธีการของพระเจ้ายุติธรรม
  • 10 ( อสค. 18:21-32 ) “เจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงกล่าวแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอล พวกเจ้าเคยกล่าวดังนี้ว่า ‘การละเมิดและความบาปทั้งหลายของเราอยู่เหนือเรา เราก็ค่อยๆวอดวายไปเพราะสิ่งเหล่านี้ เราจะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไร’
  • 11 จงกล่าวตอบเขาว่า พระเจ้าตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราไม่พอใจในความตายของคนอธรรม แต่พอใจในการที่คนอธรรมหันจากทางของเขาและมีชีวิตอยู่ จงหันกลับ จงหันกลับจากทางชั่วของเจ้า โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย ยอมตายทำไม
  • 12 เจ้าบุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงกล่าวแก่ชนชาติของเจ้าว่าความชอบธรรมของ ผู้ชอบธรรมจะไม่ช่วยกู้เขาให้พ้นเมื่อเขากบฏ ส่วนความอธรรมของคนอธรรมนั้นจะไม่กระทำให้เขา ล้มลงเมื่อเขาหันกลับจากความอธรรมของเขา และคนชอบธรรมจะไม่ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความชอบธรรม เมื่อเขากระทำบาป
  • 13 แม้เราจะได้กล่าวแก่คนชอบธรรมว่าเขาจะมีชีวิตอยู่แน่ ถ้าเขายังวางใจในความชอบธรรมของเขาและกระทำ ความบาปชั่ว การกระทำทั้งหลายที่ชอบธรรมของเขาย่อมไม่อยู่ใน ความทรงจำอีกเลย แต่เขาจะต้องตายเพราะความบาปชั่วซึ่งเขาได้กระทำไว้
  • 14 อีกประการหนึ่ง แม้เราจะได้กล่าวแก่คนอธรรมว่า ‘เจ้าจะต้องตายแน่’ ถ้าเขาหันกลับจากบาปของเขา มากระทำความยุติธรรมและความชอบธรรม
  • 15 ถ้าคนอธรรมได้คืนของประกัน ขโมยอะไรของเขามาก็คืนเสีย และดำเนินตามกฎเกณฑ์แห่งชีวิต ไม่กระทำความบาปชั่วเลยเขา จะดำรงชีวิตอยู่แน่ เขาไม่ต้องตาย
  • 16 บาปซึ่งเขาได้กระทำมาแล้ว จะไม่จดจำ นำมากล่าวโทษเขา เขาได้กระทำความยุติธรรมและ ความชอบธรรมเขาจะดำรงชีวิตแน่
  • 17 “แต่ชนชาติของเจ้ายังกล่าวว่า ‘วิธีการของพระเจ้าไม่ยุติธรรม’ ในเมื่อวิธีการของเขาเองไม่ยุติธรรม
  • 18 เมื่อคนชอบธรรมหันกลับจากความ ชอบธรรมของเขาและกระทำความชั่ว เขาจะต้องตายเพราะความชั่วนั้น
  • 19 และเมื่อคนอธรรมหันกลับจากความอธรรมของเขา และกระทำความยุติธรรมและความชอบธรรม เขาจะดำรงชีวิตอยู่ได้โดยเหตุนั้น
  • 20 เจ้ายังกล่าวว่า ‘วิธีการของพระเจ้าไม่ยุติธรรม’ โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เราจะพิพากษาเจ้าตามการประพฤติของเจ้า แต่ละคน”
  • 21 ข่าวกรุงเยรูซาเล็มแตก และอยู่มา เมื่อวันที่ห้า เดือนที่สิบ ในปีที่สิบสอง ซึ่งเราได้ถูกกวาดไปเป็นเชลย ชายคนหนึ่งหนีมาจากกรุงเยรูซาเล็มมาหาข้าพเจ้ากล่าวว่า “เมืองนั้นแตกเสียแล้ว” 2 พกษ. 25:3-10; ยรม. 39:2-8; 52:4-14
  • 22 ในเวลาเย็นก่อนที่ผู้ลี้ภัยมา พระหัตถ์ของพระเจ้าได้มาอยู่เหนือข้าพเจ้า และพระองค์ทรงอ้าปากของข้าพเจ้าทันเวลา ที่ชายคนนั้นมาถึงในตอนเช้า ดังนั้นปากของข้าพเจ้าจึงอ้าออก ข้าพเจ้าก็ไม่ได้เป็นใบ้ต่อไป
  • 23 พระวจนะของพระเจ้ามายังข้าพเจ้าว่า
  • 24 “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย ชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในที่ร้างเปล่าในแผ่นดิน อิสราเอลกล่าวเรื่อยๆ ว่า ‘อับราฮัมเป็นแต่ชายคนเดียวและยังถือกรรมสิทธิ์ที่ดินนี้ แต่พวกเราหลายคนด้วยกัน คงต้องประทานแผ่นดินนั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่เรา’
  • 25 เพราะฉะนั้น จงกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้ารับประทานเนื้อพร้อมเลือด เจ้าเงยหน้าขึ้นนมัสการรูปเคารพของเจ้าและทำให้โลหิตตก แล้วเจ้ายังจะเอากรรมสิทธิ์ที่ดินนี้อีกหรือ
  • 26 เจ้าหมายพึ่งดาบ เจ้ากระทำความลามกและเจ้าทุกคนได้ กระทำให้ภรรยาของเพื่อนบ้านเป็นมลทิน แล้วเจ้ายังจะเอากรรมสิทธิ์ที่ดินนี้อีกหรือ
  • 27 จงกล่าวเช่นนี้แก่เขาว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด บรรดาคนที่อยู่ในที่ร้างเปล่าจะต้องล้มลงด้วยดาบ และคนที่อยู่ที่พื้นทุ่ง เราจะมอบให้เป็นอาหารแก่สัตว์ป่า และบรรดาคนเหล่านั้นที่อยู่ในที่กำบังเข้มแข็งและอยู่ ในถ้ำจะตายด้วยโรคระบาด
  • 28 และเราจะกระทำให้แผ่นดินนั้นร้างเปล่าและทิ้งร้าง และอานุภาพอันผยองของแผ่นดินนั้นจะมาถึงที่สุด ภูเขาอิสราเอลจะร้างเปล่าจนไม่มีคนเดินผ่าน
  • 29 แล้วเขาจะทราบว่าเราคือพระเจ้า ในเมื่อเราได้กระทำให้แผ่นดินนั้นร้างเปล่าและทิ้งร้าง เพราะเหตุความลามกทั้งสิ้นของเขาซึ่งเขาได้กระทำนั้น
  • 30 “เจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย ชนชาติของเจ้าที่พูดเรื่องเจ้าข้าง กำแพงเมืองและตามประตูบ้าน พูดต่อกันและกันกับพี่น้องของตนว่า ‘มาเถิด มาฟังเสียงพระวจนะซึ่งออกมาจากพระเจ้า’
  • 31 และเข้ามาหาเจ้าอย่างที่ชาวตลาดมา และเขามานั่งข้างหน้าเจ้าอย่างประชากรของเรา เขาฟังสิ่งที่เจ้าพูด แต่เขาไม่ยอมกระทำตาม เพราะว่าเขาแสดงความรักมากด้วยปากของเขา แต่จิตใจของเขามุ่งอยู่ที่ผลกำไรของเขา
  • 32 และ นี่แน่ะ เจ้าเป็นเหมือนคนร้องเพลงรักแก่เขา มีเสียงไพเราะและเล่นดนตรีเก่ง เพราะเขาฟังสิ่งที่เจ้าพูดแต่เขาไม่ยอมกระทำตาม
  • 33 และเมื่อการเช่นนี้เป็นมา (ดูเถิด ก็มาแล้ว) เขาทั้งหลายจะทราบว่ามีผู้เผยพระวจนะอยู่ในหมู่พวกเขา”
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页