เย‌เร‌มีย์-7

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 จงซ่อมพฤติการณ์และการกระทำของเจ้า พระวจนะซึ่งมาจากพระเจ้าถึงเยเรมีย์ว่า
  • 2 “เจ้าจงยืนอยู่ในประตูกำแพงพระนิเวศของพระเจ้า และโฆษณาถ้อยคำเหล่านี้ที่นั่นว่า บรรดาคนยูดาห์ทั้งปวงผู้เข้ามา ในประตูกำแพงนี้เพื่อจะนมัสการพระเจ้า จงฟังพระวจนะพระเจ้า
  • 3 พระเจ้าจอมโยธาพระเจ้าของอิสราเอล ตรัสดังนี้ว่า จงซ่อมพฤติการณ์และการกระทำของเจ้าเสีย และเราจะให้เจ้าอาศัยอยู่ในสถานที่นี้
  • 4 อย่าไว้วางใจในคำหลอกลวงเหล่านี้ที่ว่า ‘นี่เป็นพระวิหารของพระเจ้า พระวิหารของพระเจ้า พระวิหารของพระเจ้า’
  • 5 เพราะว่า ถ้าเจ้าซ่อมวิถีและการกระทำของเจ้าจริงๆ ถ้าเจ้าให้ความยุติธรรมต่อกันและกันจริงๆ
  • 6 ถ้าเจ้าไม่ข่มเหงคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อหรือแม่ม่าย และไม่หลั่งโลหิตที่ไร้ความผิดให้ถึงตายในที่นี้ และเจ้าทั้งหลายไม่ติดตามพระอื่นไปให้เจ็บตัวเอง
  • 7 แล้วเราจะให้เจ้าอาศัยอยู่ในสถานที่นี้ ในแผ่นดินซึ่งแต่ดึกดำบรรพ์เราได้ยกให้แก่ บรรพบุรุษของเจ้าเป็นนิตย์
  • 8 “ดูเถิด เจ้าวางใจในคำหลอกลวงอย่างไม่ได้ ประโยชน์อะไรเลย
  • 9 เจ้าจะลักทรัพย์ ฆ่าคน ล่วงประเวณี สาบานเท็จ เผาเครื่องบูชาถวายพระบาอัลและติดตามพระอื่น ซึ่งเจ้าทั้งหลายมิได้รู้จักไปหรือ
  • 10 แล้วจึงมายืนหน้าเราในนิเวศนี้ ซึ่งเรียกตามชื่อของเรา และกล่าวว่า ‘เราทั้งหลายได้รับการช่วยกู้แล้ว’ เพื่อจะไปกระทำสิ่งน่าเกลียดน่าชังเหล่านั้นทั้งสิ้นอีก
  • 11 นิเวศซึ่งเรียกตามชื่อของเรา ในสายตาของเจ้าได้กลายเป็นถ้ำของ พวกโจร มธ. 21:13; มก. 11:17; ลก. 19:46ไปแล้วหรือ พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด ตัวเราได้เห็นเอง
  • 12 แต่จงไปยังสถานที่ของเราซึ่งเคยอยู่ในเมืองชิโลห์ ซึ่งทีแรกได้กระทำให้ชื่อของเราอยู่ที่นั่น จงดูว่าเพราะความชั่วร้ายของอิสราเอลประชากรของเรา เราได้กระทำอะไรต่อสถานที่นั้น
  • 13 พระเจ้าตรัสว่า และบัดนี้ เพราะเจ้าทั้งหลายได้กระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น และเมื่อเราพูดกับเจ้าอย่างไม่หยุดยั้ง แต่เจ้าทั้งหลายหาได้ฟังไม่ และเมื่อเราได้เรียกพวกเจ้า แต่เจ้ามิได้ตอบ
  • 14 เหตุฉะนี้เราจะกระทำต่อนิเวศนี้ซึ่งเราเรียกตามชื่อของเรา และซึ่งพวกเจ้าได้วางใจนั้น และกระทำแก่สถานที่ซึ่งเราได้ยกให้แก่เจ้าและ แก่บรรพบุรุษของเจ้าเหมือนเราได้กระทำแก่ชิโลห์ ยชว. 18:1; สดด. 78:60; ยรม. 26:6
  • 15 และเราจะเหวี่ยงเจ้าทิ้งจากสายตาของเรา เหมือนอย่างที่เราได้ทิ้งบรรดาพวกพี่น้องของเจ้า คือบรรดาเชื้อสายของเอฟราอิมทั้งหมดนั้น
  • 16 พระพิโรธของพระเจ้าที่มีต่อการไหว้รูปเคารพ “ฝ่ายเจ้า เจ้าอย่าอธิษฐานเพื่อชนชาตินี้ อย่าร้องขึ้นหรืออธิษฐานเพื่อเขา และอย่าวิงวอนขอต่อเรา เพราะเราจะไม่ฟังเจ้า
  • 17 เจ้ามิได้เห็นดอกหรือว่า เขากระทำอะไรกันในหัวเมืองทั้งหลายแห่งยูดาห์ และตามถนนหนทางในเยรูซาเล็ม
  • 18 พวกเด็กๆก็เก็บฟืน พวกพ่อๆก็ก่อไฟ พวกผู้หญิงก็นวดแป้ง เพื่อทำขนมถวายแด่เจ้าแม่แห่งฟ้าสวรรค์ และเขาเทเครื่องดื่มบูชาถวายแด่พระอื่นๆ เพื่อยั่วยุให้เราโกรธ
  • 19 พระเจ้าตรัสว่า คือเราที่เขายั่วยุหรือ มิใช่ยั่วยุตัวเขาเองให้ไปสู่ความขายหน้าของเขาทั้งหลายดอกหรือ
  • 20 ฉะนั้น พระเจ้าจึงตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด ความกริ้วและความโกรธของเราจะเทลงมาบนสถานที่นี้ บนมนุษย์และสัตว์ บนต้นไม้ในท้องทุ่ง และบนพืชผลของแผ่นดิน จะเผาผลาญเสียและจะดับไม่ได้”
  • 21 ลงโทษที่ยูดาห์กบฏ พระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตรัสดังนี้ว่า “จงเพิ่มเครื่องเผาบูชาเข้ากับเครื่องสักการบูชาของเจ้า และจงรับประทานเนื้อ
  • 22 เพราะในวันที่เราได้พาเขาทั้งหลาย ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เรามิได้พูดกับบรรพบุรุษของเจ้าหรือสั่ง เขาเรื่องเครื่องเผาบูชาและเครื่องสักการบูชา
  • 23 แต่เราบัญชาเขาทั้งหลายอย่างนี้ว่า ‘จงเชื่อฟังเสียงของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า และเจ้าจะเป็นประชากรของเรา และดำเนินในหนทางที่เราได้บัญชาเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะได้อยู่เย็นเป็นสุข’
  • 24 แต่เขาทั้งหลายมิได้เชื่อฟังหรือเงี่ยหูฟัง แต่เขาทั้งหลายดำเนินตามแผนการของเขาเอง และในความดื้อกระด้างตามจิตใจชั่วของเขา ทั้งหลายและเดินถอยหลัง มิได้เดินขึ้นหน้า
  • 25 ตั้งแต่วันที่บรรพบุรุษของเจ้าทั้งหลายออกจาก แผ่นดินอียิปต์จนทุกวันนี้ เราได้ส่งผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของเราไปยัง เขาอย่างไม่หยุดยั้ง วันแล้ววันเล่า
  • 26 ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ฟังเรา หรือเงี่ยหูฟัง แต่ได้กระทำให้คอของตนแข็ง เขาได้กระทำชั่วร้ายยิ่งกว่าบรรพบุรุษทั้งหลายของเขาเสียอีก
  • 27 “เจ้าจงกล่าวถ้อยคำเหล่านี้แก่เขา แต่เขาจะไม่ฟังเจ้า เจ้าจงร้องเรียกเขา แต่เขาจะไม่ยอมตอบเจ้า
  • 28 เจ้าจงพูดแก่เขาว่า ‘นี่เป็นประชาชาติที่ไม่เชื่อฟัง พระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา และไม่ยอมรับการตีสอน สัจจะพินาศเสียแล้ว ถูกตัดขาดเสียจากริมฝีปากของเขาแล้ว
  • 29 จงตัดผมของเจ้าออกเหวี่ยงทิ้งไปจงคร่ำครวญบนที่สูงอันโล้นเพราะว่าพระเจ้าทรงปฏิเสธและละทิ้งชาติพันธุ์แห่งพระพิโรธของพระองค์แล้ว’
  • 30 “พระเจ้าตรัสว่า พงศ์พันธุ์ของยูดาห์ได้กระทำความชั่วในสายตาของเรา เขาได้วางสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนไว้ในนิเวศ ซึ่งเรียกตามชื่อของเรา กระทำให้มีมลทิน
  • 31 และได้สร้างที่สูงของโทเฟท ซึ่งอยู่ในหุบเขาแห่งบุตรชายของ ฮินโนม 2 พกษ. 23:10; ยรม. 32:35 เพื่อ จะเผาบุตรชายและบุตรหญิงของเขา ทั้งหลายเสียด้วยไฟ ลนต. 18:21 ซึ่งเรามิได้บัญชา และไม่เคยมีขึ้นในใจของเรา
  • 32 พระเจ้าตรัสว่า เพราะฉะนั้น ดูเถิด วันเวลาจะมาถึงเมื่อ เขาจะไม่เรียกที่นั้นอีกว่าโทเฟท หรือภูเขาแห่งบุตรชายฮินโนม แต่จะเรียกว่า หุบเขาแห่งการฆ่าฟันกัน เพราะเขาจะฝังกันไว้ในโทเฟท เพราะแห่งอื่นไม่มีที่ว่างแล้ว
  • 33 และศพของชนชาตินี้จะเป็นอาหารของนกในอากาศ และแก่สัตว์แห่งแผ่นดินโลก และไม่มีใครจะขับไล่ให้มันไปเสียได้
  • 34 เราจะกระทำให้เสียงบรรเทิงและ เสียงรื่นเริง เสียงของเจ้าบ่าว และเสียงของเจ้าสาว ยรม. 16:9; 25:10; วว. 18:23 ขาดไปเสียจากหัวเมืองของยูดาห์ และจากถนนหนทางแห่งเยรูซาเล็ม เพราะว่าดินนั้นจะต้องเป็นที่ร้างเปล่า
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页