1
พันธสัญญาของพระเจ้าที่มีต่อดาวิด มัสคิลบทหนึ่งของเอธาน ตระกูลเอศราค ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงของพระเจ้าเป็นนิตย์ด้วยปากของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะประกาศความสัตย์สุจริตของพระองค์ตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์2
ด้วยข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วว่าความรักมั่นคงของ พระองค์จะตั้งอยู่เป็นนิตย์พระองค์จะสถาปนาความสัตย์สุจริตของพระองค์ใน ฟ้าสวรรค์ทีเดียว3
“เราได้กระทำพันธสัญญากับผู้ที่ถูกเลือกของเราเราได้ปฏิญาณกับดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า4
‘เราจะสถาปนาเชื้อสายของเจ้าไว้เป็นนิตย์และจะสร้างบัลลังก์ของเจ้าไว้ทุกชั่ว ชาติพันธุ์’ ” 2 ซมอ. 7:12-16;1 พศด. 17:11-14; สดด. 132:11; กจ. 2:305
ข้าแต่พระเจ้า ขอฟ้าสวรรค์จงสรรเสริญการอัศจรรย์ของพระองค์และสรรเสริญความสัตย์สุจริตของพระองค์ในที่ประชุมของบรรดาท่านผู้บริสุทธิ์6
เพราะผู้ใดเล่าที่ในฟ้าจะเปรียบกับพระเจ้าได้ในบรรดาเทวชนผู้ใดจะเหมือนพระเจ้า7
คือองค์พระเจ้าผู้เป็นที่เกรงกลัวในสภาของบรรดา ผู้บริสุทธิ์ใหญ่ยิ่งและน่าเกรงขามเหนือกว่าทั้งสิ้นที่อยู่รอบพระองค์8
ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธาข้าแต่พระเจ้า ผู้ใดจะทรงฤทธานุภาพเท่าเทียมพระองค์ด้วยความสัตย์สุจริตของพระองค์รอบพระองค์9
พระองค์ทรงปกครองการเดือดดาลของทะเลเมื่อคลื่นสูงขึ้นพระองค์ทรงให้สงบ10
พระองค์ทรงขยี้ราหับเหมือนผู้ถูกฆ่าพระองค์ทรงกระจายศัตรูของพระองค์ ด้วยพระกรทรงฤทธิ์ของพระองค์11
ฟ้าสวรรค์เป็นของพระองค์ แผ่นดินโลกเป็นของพระองค์ด้วยพระองค์ได้ทรงตั้งพิภพ และบรรดาสิ่งที่อยู่ในนั้น12
ทิศเหนือและทิศใต้ พระองค์ก็ได้ทรงสร้างภูเขาทาโบร์กับภูเขาเฮอร์โมนสรรเสริญพระนาม ของพระองค์อย่างชื่นบาน13
พระองค์มีพระกรอันทรงฤทธิ์พระหัตถ์ของพระองค์ก็แข็งแรง พระหัตถ์ขวาของพระองค์ก็สูง14
ความชอบธรรมและความยุติธรรมเป็นรากฐานแห่งบัลลังก์ของพระองค์ความรักมั่นคง และความสัตย์สุจริตเดินนำหน้าพระองค์15
ชนชาติที่รู้จักโห่ร้องอย่างชื่นบานก็เป็นสุขข้าแต่พระเจ้า คือผู้ที่เดินในสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์16
ผู้เต้นโลดอยู่ในพระนามของพระองค์วันยังค่ำและได้รับการเชิดชูโดยความชอบธรรมของพระองค์17
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระสิริแห่งกำลังของเขาทั้งหลายแต่โดยความโปรดปรานของพระองค์ กำลังของข้าพระองค์ทั้งหลายจึงเพิ่มขึ้น18
เพราะโล่ของเราทั้งหลายเป็นของพระเจ้าพระราชาของเราเป็นขององค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล19
ในกาลก่อน พระองค์ตรัสด้วยนิมิตแก่ธรรมิกชนของพระองค์และตรัสว่า“เราได้ยกชายหนุ่มคนหนึ่งเหนือชายฉกรรจ์เราได้เชิดชูคนที่ถูกเลือกคนหนึ่งเหนือประชาชน20
เราได้พบดาวิดผู้รับใช้ของเรา 1 ซมอ. 13:14; กจ. 13:22ด้วยน้ำมันบริสุทธิ์ของเรา เราได้เจิมเขาไว้ แล้ว 1 ซมอ. 16:1221
เพื่อว่ามือของเราจะอยู่กับเขาเป็นนิตย์และแขนของเราจะเสริมกำลังของเขา22
ศัตรูจะหลอกเขาไม่ได้คนที่ประพฤติผิดจะข่มเขาไม่ได้23
เราจะขยี้คู่อริของเขาต่อหน้าเขาและตีผู้ที่เกลียดเขาให้ล้มลง24
ความสัตย์สุจริต และความรักมั่นคงของเราจะอยู่กับเขาและกำลังของเขาจะเป็นที่เชิดชูโดยนามของเรา25
เราจะเอามือของเขาวางไว้บนทะเลและมือขวาของเขาบนแม่น้ำทั้งหลาย26
เขาจะร้องต่อเราว่า ‘พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของข้าพระองค์พระเจ้าของข้าพระองค์ และเป็นพระศิลา แห่งความรอดของข้าพระองค์’27
และเราจะให้เขาเป็นบุตรหัวปีสูงที่สุดในบรรดาพระราชาแห่งแผ่นดินโลก วว. 1:528
เราจะเก็บความรักมั่นคงของเราไว้ให้เขาเป็นนิตย์และพันธสัญญาของเราจะตั้งมั่นคงอยู่เพื่อเขา29
เราจะสถาปนาเชื้อสายของเขาไว้เป็นนิตย์ทั้งบัลลังก์ของเขาให้ดำรงตราบเท่ากาลของฟ้าสวรรค์30
ถ้าลูกหลานของเขาทิ้งกฎหมายของเราและไม่ดำเนินตามระเบียบของเรา31
ถ้าเขาทั้งหลายฝ่าฝืนกฤษฎีกาของเราและมิได้รักษาบัญญัติของเรา32
แล้วเราจะลงโทษการละเมิดของเขาด้วยไม้เรียวและความบาปผิดของเขาด้วยการเฆี่ยน33
แต่จะไม่ถอนความรักมั่นคงของเราไปจากเขาหรือ ไม่จริงต่อความสัตย์สุจริตของเรา34
เราจะไม่ฝ่าฝืนพันธสัญญาของเราหรือพลิกแพลงถ้อยคำที่ออกไปจากริมฝีปากของเรา35
เราปฏิญาณด้วยความบริสุทธิ์ของเราเด็ดขาดเราจะไม่มุสาต่อดาวิด36
เชื้อสายของเขาจะดำรงอยู่เป็นนิตย์บัลลังก์ของเขาจะยืนนานอย่างดวงอาทิตย์ต่อหน้าเรา37
จะสถาปนาไว้อย่างดวงจันทร์เป็นนิตย์และสักขีพยานในท้องฟ้าก็แน่นอน”38
แต่บัดนี้ พระองค์ทรงได้เหวี่ยงออกไปและปฏิเสธพระองค์ทรงพระพิโรธต่อผู้ที่เจิมไว้ของพระองค์39
พระองค์ได้ทรงบอกเลิกพันธสัญญากับผู้รับใช้ของพระองค์พระองค์ทรงกระทำมงกุฎของท่านมลทินในผงคลีดิน40
พระองค์ได้พังกำแพงของท่านทั้งสิ้นพระองค์ทรงให้ที่กำบังเข้มแข็งของท่านปรักหักพัง41
คนทั้งปวงที่ผ่านไปก็ปล้นท่านท่านก็เป็นขี้ปากของเพื่อนบ้าน42
พระองค์ทรงยกย่องมือขวาของคู่อริของท่านพระองค์ทรงกระทำให้ศัตรูทั้งสิ้นของท่านเปรมปรีดิ์43
จริงทีเดียว พระองค์ทรงหันคมดาบของท่านและพระองค์มิได้ทรงกระทำให้ท่านตั้งมั่นอยู่ในสงคราม44
พระองค์ได้ทรงกระทำให้สง่าของท่านเสื่อมสูญไปและทรงเหวี่ยงบัลลังก์ของท่านลงสู่พื้นดิน45
พระองค์ทรงตัดวันวัยหนุ่มของท่านให้สั้นและทรงคลุมท่านไว้ด้วยความอาย46
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์จะซ่อนองค์อยู่นาน เท่าใด เป็นนิตย์หรือพระพิโรธของพระองค์จะไหม้อยู่นานเท่าใด47
ขอทรงระลึกว่า ช่วงชีวิตของข้าพระองค์เป็นอย่างไรเพราะว่าพระองค์ทรงนฤมิตสร้างพงศ์พันธุ์ของมนุษย์ มาเปล่าประโยชน์แท้ๆ48
มนุษย์คนใดมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องเห็นความตายผู้ใดจะช่วยกู้วิญญาณจิตของตนจากมือของแดนผู้ตายได้49
ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเจ้า ความรักมั่นคงในกาลก่อนของพระองค์อยู่ที่ไหนซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณต่อดาวิด โดยความสัตย์สุจริตของพระองค์50
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงระลึกว่าผู้รับใช้ของพระองค์ถูกด่าอย่างไรและข้าพระองค์รับความสบประมาทของชนชาติทั้งหลายไว้ในอกของข้าพระองค์อย่างไร51
ข้าแต่พระเจ้า นั่นแหละศัตรูของพระองค์ได้เย้ยหยันนั่นแหละเขาเย้ยรอยเท้าของผู้ที่เจิมไว้ของพระองค์52
สาธุการแด่พระเจ้าเป็นนิตย์อาเมน และ อาเมน