2 พงศ์‍กษัตริย์-6

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 หัวขวานลอยน้ำ ฝ่ายพรรคผู้เผยพระวจนะกล่าวกับเอลีชาว่า “ดูซิ สถานที่ซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายอยู่ใต้ความดูแลของ ท่านนั้นก็เล็กเกินไป ไม่พอแก่พวกเรา
  • 2 ขอให้เราไปที่แม่น้ำจอร์แดน ต่างคนต่างเอาไม้ท่อนหนึ่งมาสร้างที่อาศัยของเราที่นั่น” และท่านตอบว่า “ไปเถอะ”
  • 3 แล้วคนหนึ่งกล่าวว่า “ขอท่านโปรดไปกับผู้รับใช้ของท่านด้วย” และท่านก็ตอบว่า “ข้าจะไป”
  • 4 ท่านก็ไปกับเขาทั้งหลาย และเมื่อเขามาถึงแม่น้ำจอร์แดนเขาก็โค่นต้นไม้
  • 5 ขณะที่คนหนึ่งฟันไม้อยู่ หัวขวานของเขาตกลงไปในน้ำ และเขาร้องขึ้นว่า “อนิจจานายครับ ขวานนั้นผมขอยืมเขามา”
  • 6 แล้วคนแห่งพระเจ้าถามว่า “ขวานนั้นตกที่ไหน” เมื่อเขาชี้ที่ให้ท่านแล้ว ท่านก็ตัดไม้อันหนึ่งทิ้งลงไปที่นั่น ทำให้ขวานเหล็กนั้นลอยขึ้นมา
  • 7 และท่านบอกว่า “หยิบขึ้นมาซิ” เขาก็เอื้อมมือไปหยิบขึ้นมา
  • 8 เอลีชาและคนซีเรีย ฝ่ายพระราชาแห่งซีเรียรบพุ่งกับอิสราเอล พระองค์ตรัสปรึกษากับข้าราชการของพระองค์ว่า “เราจะตั้งค่ายของเราที่นั่นๆ
  • 9 แต่คนแห่งพระเจ้าส่งข่าวไปยังพระราชา แห่งอิสราเอลว่า ‘ขอพระองค์ทรงระวังอย่าผ่านมาทางนั้น เพราะคนซีเรียกำลังยกลงไปที่นั่น’ ”
  • 10 และพระราชาแห่งอิสราเอล ทรงใช้ให้ไปยังสถานที่ซึ่งคนแห่งพระเจ้าบอกให้ ท่านเคยเตือนพระองค์ดังนี้แหละ พระองค์จึงทรงระวังตัวได้ที่นั่นมิใช่เพียงครั้งสองครั้ง
  • 11 พระราชาแห่งซีเรียก็ไม่สบายพระทัยมากเพราะเรื่องนี้ พระองค์จึงทรงเรียกข้าราชการมาตรัสว่า “พวกท่านจะไม่บอกเราหรือว่าคนใดใน พวกเราที่อยู่ฝ่ายพระราชาแห่งอิสราเอล”
  • 12 ข้าราชการคนหนึ่งของพระองค์ทูลว่า “ข้าแต่พระราชา เจ้านายของข้าพระบาท ไม่มีผู้ใดพระเจ้าข้า แต่เอลีชาผู้เผยพระวจนะซึ่งอยู่ในอิสราเอล ทูลบรรดาถ้อยคำ ซึ่งพระองค์ตรัสในห้องบรรทมของพระองค์แก่ พระราชาแห่งอิสราเอล”
  • 13 พระองค์จึงตรัสว่า “จงไปหาดูว่า เขาอยู่ที่ไหน เพื่อเราจะใช้คนไปจับเขามา” มีคนทูลพระองค์ว่า “ดูเถิด เขาอยู่ในโดธาน”
  • 14 พระองค์จึงทรงส่งม้า รถรบ และกองทัพใหญ่ เขาไปกันในกลางคืนและล้อมเมืองนั้นไว้
  • 15 เมื่อคนใช้ของคนแห่งพระเจ้าตื่นขึ้นเวลาเช้าตรู่ และออกไป ดูเถิด กองทัพพร้อมกับม้าและรถรบก็ล้อมเมืองไว้ และคนใช้นั้นบอกท่านว่า “อนิจจา นายของข้าพเจ้า เราจะทำอย่างไรดี”
  • 16 ท่านตอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา”
  • 17 แล้วเอลีชาก็อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเบิกตาของเขาเพื่อเขาจะได้เห็น” และพระเจ้าทรงเบิกตาของชายหนุ่มคนนั้น และเขาก็ได้เห็นและดูเถิด ที่ภูเขาก็เต็มไปด้วยม้า และรถรบเพลิงอยู่รอบเอลีชา
  • 18 และเมื่อคนซีเรียลงมารบกับท่าน เอลีชาก็อธิษฐานพระเจ้าว่า “ขอทรงโปรดให้คนเหล่านี้ตาบอดไปเสีย” พระองค์จึงทรงให้เขาทั้งหลายตาบอดไป ตามคำอธิษฐานของเอลีชา
  • 19 และเอลีชาบอกคนเหล่านั้นว่า “ไม่ใช่ทางนี้ และไม่ใช่เมืองนี้ จงตามข้ามา และข้าจะพาไปยังคนนั้น ซึ่งเจ้าแสวงหา” และท่านก็พาเขาไปกรุงสะมาเรีย
  • 20 และอยู่มาพอเข้าไปในกรุงสะมาเรีย เอลีชาก็ทูลว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเบิกตาของคนเหล่านี้ เพื่อเขาจะเห็นได้” พระเจ้าจึงทรงเบิกตาของเขาทั้งหลายและเขาทั้งหลายก็เห็น และนี่แน่ะ เขามาอยู่กลางกรุงสะมาเรีย
  • 21 และเมื่อพระราชาแห่งอิสราเอลเห็นเขาเข้า จึงตรัสแก่เอลีชาว่า “บิดาของข้าพเจ้าจะให้ข้าพเจ้าฆ่าเขาเสียหรือ จะให้ข้าพเจ้าฆ่าเขาเสียหรือ”
  • 22 ท่านก็ทูลตอบว่า “ขอพระองค์อย่าทรงประหารเขาเสีย พระองค์จะประหารคนที่จับมาเป็นเชลยเสียด้วยดาบ และด้วยธนูของพระองค์หรือ ขอทรงโปรดจัดอาหารและน้ำให้เขารับประทานและดื่ม แล้วปล่อยให้เขาไปหาเจ้านายของเขาเถิด”
  • 23 พระองค์จึงทรงจัดการเลี้ยงใหญ่ให้เขา และเมื่อเขาได้กินและดื่มแล้วก็ทรงปล่อยเขาไป และเขาทั้งหลายได้กลับไปหาเจ้านายของตน และพวกซีเรียมิได้มาปล้นในแผ่นดินอิสราเอลอีกเลย
  • 24 เอลีชา และการล้อมกรุงสะมาเรีย และอยู่มาภายหลัง เบนฮาดัดพระราชาแห่งซีเรียทรง จัดกองทัพทั้งสิ้นของพระองค์แล้วได้เสด็จขึ้นไป ล้อมกรุงสะมาเรีย
  • 25 มีการกันดารอาหารอย่างหนักในสะมาเรีย ขณะเมื่อเขาล้อมอยู่จนหัวลาตัวหนึ่งเขาขายกัน เป็นเงินแปดสิบเชเขล และแห้วไทยครึ่งลิตรเป็นเงินห้าเชเขล
  • 26 ขณะที่พระราชาแห่งอิสราเอลทรงผ่านไปบนกำแพง มีผู้หญิงคนหนึ่งร้องทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ขอทรงช่วย”
  • 27 พระองค์ตรัสว่า “ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงช่วยเจ้าเราจะช่วยเจ้าได้จากไหน จากลานนวดข้าวหรือจากบ่อย่ำองุ่นหรือ”
  • 28 และพระราชาทรงถามนางว่า “เจ้าเป็นอะไรไป” นางทูลตอบว่า “หญิงคนนี้บอกข้าพระบาทว่า ‘เอาลูกของเจ้ามาให้เรากินเสียวันนี้เถิด และเราจะกินลูกของฉันวันพรุ่งนี้’
  • 29 เราจึงต้มลูกของข้าพระบาทและกิน ฉธบ. 28:57 และรุ่งขึ้นข้าพระบาทก็พูดกับนางว่า ‘เอาลูกของเจ้ามา เพื่อเราจะกินเสีย และนางก็ซ่อนลูกของนางเสีย’ ”
  • 30 และเมื่อพระราชาทรงได้ยินถ้อยคำของหญิงนั้น พระองค์ก็ฉีกฉลองพระองค์ (พระองค์กำลังดำเนินอยู่บนกำแพง) ประชาชนก็มองดู ดูเถิด พระองค์ทรงฉลองพระองค์ผ้ากระสอบอยู่แนบเนื้อ
  • 31 และพระองค์ตรัสว่า “ถ้าศีรษะของเอลีชาบุตรชาฟัทยังอยู่บนบ่า ของเขาในวันนี้ ก็ขอพระเจ้าทรงลงโทษแก่เราและยิ่งหนักกว่า”
  • 32 แต่เอลีชานั่งอยู่ในบ้านของท่าน และพวกผู้ใหญ่ก็นั่งอยู่ด้วย พระราชาทรงใช้คนมาจากต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์ แต่ก่อนที่ผู้สื่อสารจะมาถึง เอลีชาก็พูดกับพวกผู้ใหญ่ว่า “ท่านทั้งหลายเห็นหรือไม่เล่า ที่ผู้กระทำฆาตกรรมคนนี้ใช้คนมาเอาศีรษะของข้าพเจ้า ดูซิเมื่อผู้สื่อสารมา จงปิดประตู และยึดประตูให้แน่น กันเขาไว้ เสียงเท้าของนายของเขาตามเขามามิใช่หรือ”
  • 33 ขณะที่ท่านยังพูดกับเขาทั้งหลายอยู่ ดูเถิด ผู้สื่อสารลงมาหาท่าน และพระราชาตรัสว่า “เหตุร้ายนี้มาจากพระเจ้า ข้าพเจ้าจะรอคอยพระเจ้าอีกทำไม”
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页