1 พงศ์‍กษัตริย์-12

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 อิสราเอลกบฏ ( 2 พศด. 10:1-14 )เรโหโบอัมได้ไปยังเมืองเชเคม เพราะอิสราเอลทั้งปวงได้มายังเชเคม เพื่อจะตั้งท่านให้เป็นกษัตริย์
  • 2 และอยู่มาเมื่อเยโรโบอัมบุตรเนบัททราบเรื่อง (เพราะท่านยังอยู่ในอียิปต์ที่ซึ่งท่านหนีไปจากพระราชา ซาโลมอน เยโรโบอัมอาศัยอยู่ในอียิปต์
  • 3 เขาทั้งหลายก็ใช้คนไปเรียกท่าน) เยโรโบอัมกับชุมนุมชนอิสราเอล ทั้งหมดได้มาทูลเรโหโบอัมว่า
  • 4 “พระราชบิดาของฝ่าพระบาทได้กระทำให้แอกของ ข้าพระบาทหนักนัก เพราะฉะนั้น บัดนี้ขอทรงผ่อนการปรนนิบัติอย่างทุกข์หนักของ พระราชบิดาของฝ่าพระบาท และแอกอันหนักของพระองค์เหนือข้าพระบาททั้งหลาย ให้เบาลงเสีย และข้าพระบาททั้งหลายจะปรนนิบัติฝ่าพระบาท”
  • 5 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงกลับไปเสียสักสามวัน แล้วจึงมาหาเราอีก” ประชาชนจึงกลับไป
  • 6 แล้วพระราชาเรโหโบอัมก็ทรงปรึกษากับบรรดาผู้เฒ่า ผู้อยู่งานประจำซาโลมอนราชบิดาของพระองค์ ขณะเมื่อพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ว่า “ท่านทั้งหลายจะแนะนำเราให้ตอบประชาชนนี้อย่างไร”
  • 7 เขาทั้งหลายทูลพระองค์ว่า “ถ้าพระองค์จะทรงเป็นผู้รับใช้ ประชาชนนี้ในวันนี้และฟังเขา และตรัสตอบคำดีแก่เขา เขาทั้งหลายก็จะเป็นผู้รับใช้ของพระองค์เป็นนิตย์”
  • 8 แต่พระองค์ทรงทอดทิ้งคำปรึกษาซึ่งผู้เฒ่าถวายนั้นเสีย และไปปรึกษากับคนหนุ่มซึ่งเติบโตขึ้นมาพร้อมกับพระองค์ และอยู่งานประจำพระองค์
  • 9 และพระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “ท่านจะแนะนำเราอย่างไรเพื่อพวกเราจะตอบประชาชนนี้ ผู้ที่ทูลเราว่า ‘ขอทรงผ่อนแอกซึ่งพระราชบิดาของ พระองค์วางอยู่เหนือข้าพระบาททั้งหลายให้เบาลง’ ”
  • 10 และคนหนุ่มเหล่านั้นผู้ได้เติบโต มาพร้อมกับพระองค์ทูลพระองค์ว่า “พระองค์จงตรัสดังนี้แก่ประชาชนนี้ ผู้ทูลพระองค์ว่า ‘พระราชบิดาของพระองค์ได้กระทำให้แอกของ ข้าพระบาททั้งหลายหนัก แต่ขอพระองค์ทรงผ่อนแก่ข้าพระบาทให้เบาลง’ นั้น พระองค์จงตรัสแก่เขาทั้งหลายอย่างนี้ว่า ‘นิ้วก้อยของเราก็หนากว่าเอวแห่งราชบิดาของเรา
  • 11 ที่พระราชบิดาของเราวางแอกหนักบนท่าน ทั้งหลายก็ดีแล้ว เราจะเพิ่มให้แก่แอกของท่านทั้งหลายอีก พระราชบิดาของเราตีสอนท่านทั้งหลายด้วยไม้เรียว แต่เราจะตีสอนท่านทั้งหลายด้วยแส้แมงป่อง’ ”
  • 12 เยโรโบอัมกับประชาชนทั้งปวงจึงเข้ามา เฝ้าเรโหโบอัมในวันที่สาม ดังที่พระราชารับสั่งว่า “จงมาหาเราอีกในวันที่สาม”
  • 13 และพระราชาตรัสตอบประชาชนอย่างดุดัน ทรงทอดทิ้งคำปรึกษาซึ่งผู้เฒ่าได้ถวายนั้นเสีย
  • 14 และตรัสกับเขาทั้งหลายตามคำปรึกษาของพวกคนหนุ่มว่า “พระราชบิดาของเราทำแอกของท่านทั้งหลายให้หนัก แต่เราจะเพิ่มให้แก่แอกของท่านทั้งหลายอีก พระราชบิดาของเราตีสอนท่านทั้งหลายด้วยไม้เรียว แต่เราจะตีสอนท่านทั้งหลายด้วยแส้แมงป่อง”
  • 15 พระราชาจึงมิได้ฟังเสียงประชาชนเพราะ เหตุการณ์นั้นเป็นมาแต่พระเจ้า เพื่อพระองค์จะทรงกระทำให้พระวจนะของพระองค์ได้สำเร็จ ซึ่งพระเจ้าตรัสโดยอาหิยาห์ชาวชีโลห์แก่ เยโรโบอัมบุตรเนบัท
  • 16 และเมื่ออิสราเอลทั้งปวงเห็นว่า พระราชามิได้ทรงฟังเขาทั้งหลาย ประชาชนก็ทูลตอบพระราชาว่า“ข้าพระบาททั้งหลายมีส่วนอะไรในดาวิดข้าพระบาททั้งหลายไม่มีส่วนมรดกในบุตรชายของเจสซีโอ อิสราเอลเอ๋ย กลับไปเต็นท์ของตนเถิด 2 ซมอ. 20:1ข้าแต่ดาวิด จงดูแลราชวงศ์ของพระองค์เองเถิด”อิสราเอลจึงจากไปยังบ้านเรือนของเขาทั้งหลาย
  • 17 แต่เรโหโบอัมทรงปกครองเหนือประชาชนอิสราเอล ผู้อาศัยอยู่ในหัวเมืองของยูดาห์
  • 18 แล้วพระราชาเรโหโบอัมทรงใช้อาโดรัม นายงานเหนือแรงงานเกณฑ์ไป และอิสราเอลทั้งปวงก็เอาหินขว้างท่านถึงตาย แล้วพระราชาเรโหโบอัมก็ทรงรีบขึ้นรถรบของพระองค์ ทรงหนีไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
  • 19 อิสราเอลจึงกบฏต่อราชวงศ์ของดาวิดจนทุกวันนี้
  • 20 และอยู่มาเมื่ออิสราเอลทั้งปวงได้ ยินว่าเยโรโบอัมได้กลับมาแล้ว เขาก็ใช้ให้ไปเชิญท่านมายังที่ประชุม แล้วก็ตั้งท่านให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งปวง ไม่มีผู้ใดติดตามเชื้อวงศ์ของดาวิด เว้นแต่เผ่ายูดาห์เท่านั้น
  • 21 เมื่อเรโหโบอัมมายังกรุงเยรูซาเล็มแล้ว พระองค์ได้เรียกประชุมพงศ์พันธุ์ยูดาห์ทั้งหมด และเผ่าเบนยามินเป็นนักรบที่คัดเลือกแล้ว หนึ่งแสนแปดหมื่นคน เพื่อจะสู้รบกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล เพื่อจะเอาราชอาณาจักรคืนมา ให้แก่เรโหโบอัมโอรสของซาโลมอน
  • 22 แต่พระวจนะของพระเจ้ามายังเชไมอาห์คนของพระเจ้า
  • 23 ว่า “จงไปทูลเรโหโบอัมโอรสของซาโลมอน พระราชาแห่งยูดาห์ และบอกแก่พงศ์พันธุ์ทั้งสิ้นของยูดาห์ และของเบนยามิน และแก่ประชาชนที่เหลืออยู่ว่า
  • 24 ‘พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าอย่าขึ้นไปสู้รบกับประชาชน อิสราเอลญาติพี่น้องของเจ้าเลย จงกลับไปยังบ้านของตนทุกคนเถิด เพราะสิ่งนี้เป็นมาจากเรา’ ” เหตุฉะนี้เขาจึงจะเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า และกลับไปบ้านเสียตามพระวจนะของพระเจ้า
  • 25 เยโรโบอัมนำอิสราเอลให้กระทำบาป แล้วเยโรโบอัมก็สร้างเมืองเชเคมในถิ่นเทือกเขาเอฟราอิม และอาศัยอยู่ที่นั่น และท่านก็ออกไปจากที่นั่น ไปสร้างเมืองพนูเอล
  • 26 และเยโรโบอัมรำพึงในใจว่า “คราวนี้ราชอาณาจักรจะหันกลับไปยังราชวงศ์ของดาวิด
  • 27 ถ้าชนชาติเหล่านี้ขึ้นไปถวายเครื่องสัตวบูชาใน พระนิเวศของพระเจ้าที่กรุงเยรูซาเล็ม แล้วจิตใจของชนชาติเหล่านี้จะหันกลับ ไปยังเจ้านายของเขาทั้งหลาย คือหันไปยังเรโหโบอัมพระราชาแห่งยูดาห์ และเขาทั้งหลายจะฆ่าเราเสีย และกลับไปยังเรโหโบอัมพระราชาแห่งยูดาห์”
  • 28 ดังนั้นพระราชาจึงทรงปรึกษา และได้ทรงสร้างลูกวัวสองตัวด้วยทองคำ แล้วพระองค์ตรัสแก่ประชาชนว่า “ที่ท่านทั้งหลายขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มนานพออยู่แล้ว โอ อิสราเอลเอ๋ย จงดูพระเจ้าของท่านนี่แน่ะ พระองค์ผู้ทรงนำท่านทั้งหลายออกจากประเทศ อียิปต์” อพย. 32:4
  • 29 และพระองค์ก็ประดิษฐานไว้ที่เบธเอลรูปหนึ่ง และอีกรูปหนึ่งทรงประดิษฐานไว้ในเมืองดาน
  • 30 และสิ่งนี้ได้เป็นบาปเพราะว่าประชาชน ได้ไปยังรูปหนึ่งที่เบธเอล และไปยังอีกรูปหนึ่งไกลไปจนถึงเมืองดาน
  • 31 แล้วพระองค์ได้ทรงสร้างนิเวศที่ปูชนียสถานสูง ทรงกำหนดตั้งปุโรหิตจากหมู่ประชาชนทั้งปวง ผู้มิได้ เป็นคนเลวี
  • 32 และเยโรโบอัมทรงกำหนดเทศกาลเลี้ยง ในวันที่สิบห้าของเดือนที่แปดเหมือนกับการ เลี้ยงที่อยู่ในยูดาห์ และพระองค์ทรงถวายเครื่องสัตวบูชาบนแท่นบูชา พระองค์ทรงกระทำในเบธเอลดังนี้แหละ คือถวายเครื่องสัตวบูชาแก่รูปลูกวัวที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้นั้น และพระองค์ทรงสถาปนาปุโรหิตใน เบธเอลประจำที่ปูชนียสถานสูง ซึ่งพระองค์ทรงสร้างไว้
  • 33 พระองค์ทรงขึ้นไปยังแท่นบูชา ซึ่งพระองค์ ทรงสร้างไว้ที่เบธเอลในวันที่สิบห้าเดือนที่แปด ในเดือนซึ่งพระองค์ทรงดำริเอง ลนต. 23:33-34 และพระองค์ทรงกำหนดเทศกาลเลี้ยงสำหรับคนอิสราเอล และทรงขึ้นไปยังแท่นบูชาเพื่อถวายเครื่องหอม
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页