1 พงศ์‍กษัตริย์-1

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 อาบีชากปรนนิบัติดาวิด กษัตริย์ดาวิดมีพระชนมายุและทรงพระชรามากแล้ว แม้เขาจะห่มผ้าให้พระองค์มากก็ยังไม่อบอุ่น
  • 2 เพราะฉะนั้นบรรดาข้าราชการของพระองค์จึงกราบทูลว่า “ขอเสาะหาหญิงพรหมจารีมาถวายพระราชาเจ้านายของ ข้าพระบาท และขอให้เธออยู่งานเฉพาะฝ่าพระบาท และดูแลฝ่าพระบาท ให้เธอนอนในพระทรวงของฝ่าพระบาท เพื่อพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทจะได้ทรงอบอุ่น”
  • 3 เขาจึงได้แสวงหานางสาวที่สวยงามตลอดดินแดนอิสราเอล ได้พบนางสาวอาบีชากหญิงชาวชูเนม จึงได้นำเธอมาเฝ้าพระราชา
  • 4 หญิงสาวคนนั้นงามยิ่งนัก เธอได้ดูแลพระราชาและอยู่ปรนนิบัติพระองค์ แต่พระราชาหาทรงร่วมกับเธอไม่
  • 5 อาโดนียาห์ชิงเสวยราชย์ ฝ่ายอาโดนียาห์ 2 ซมอ. 3:4 โอรสของพระนางฮักกีทได้ยกตัวเองขึ้นกล่าวว่า “เราเองจะเป็นพระราชา” และท่านได้เตรียมรถรบและพลม้า กับพลวิ่งนำหน้าห้าสิบคนไว้เพื่อตนเอง
  • 6 พระราชบิดาของท่านก็ไม่เคยขัดใจท่านด้วยถามว่า “ทำไมเจ้ากระทำเช่นนี้เช่นนั้น” ท่านเป็นชายงามด้วย ท่านเกิดมาถัดอับซาโลม
  • 7 ท่านได้ปรึกษากับโยอาบบุตรนางเศรุยาห์ และกับอาบียาธาร์ปุโรหิต เขาทั้งสองก็ติดตามและช่วยเหลืออาโดนียาห์
  • 8 แต่ศาโดกปุโรหิต และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา และนาธันผู้เผยพระวจนะกับชิเมอี และเรอี และพวกทแกล้วทหารของดาวิดมิได้อยู่ฝ่ายอาโดนียาห์
  • 9 อาโดนียาห์ได้ถวายแกะ วัว และสัตว์อ้วนพีเป็นเครื่องบูชา ณ โศเฮเลท ซึ่งอยู่ข้างๆเอนโรเกล และท่านได้เชิญพี่น้องทั้งสิ้นของท่าน คือราชโอรสของพระราชา และประชาชนทั้งสิ้นแห่งยูดาห์ ที่เป็นข้าราชการของพระราชา
  • 10 แต่ท่านมิได้เชิญนาธันผู้เผยพระวจนะ หรือเบไนยาห์หรือพวกทแกล้วทหาร หรือซาโลมอนอนุชาของท่าน
  • 11 แล้วนาธันก็ทูลพระนางบัทเชบาพระชนนีของซาโลมอน 2 ซมอ. 12:24ว่า “ฝ่าพระบาทไม่ทรงทราบหรือว่า อาโดนียาห์โอรสของพระนางฮักกีทได้ทรงราชย์แล้ว และดาวิดเจ้านายของข้าพระบาทก็มิได้ทรงทราบเรื่อง
  • 12 เพราะฉะนั้นขอข้าพระบาทถวายคำปรึกษา เพื่อฝ่าพระบาทจะได้ทรงช่วยชีวิตของฝ่าพระบาท และชีวิตของซาโลมอนโอรสของฝ่าพระบาทไว้
  • 13 ขอเสด็จเข้าเฝ้าพระราชาดาวิดทันที และกราบทูลพระองค์ว่า ‘พระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน ฝ่าพระบาทได้ทรงปฏิญาณกับสาวใช้ของฝ่า พระบาทไว้มิใช่หรือว่า “ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองสมบัติต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา มิใช่หรือ” ไฉน อาโดนียาห์จึงทรงครองเล่าเพคะ’
  • 14 ดูเถิด ขณะที่ฝ่าพระบาทกราบทูลพระราชาอยู่ ข้าพระบาทจะตามเข้าไปเฝ้า และสนับสนุนพระเสาวนีย์ของฝ่าพระบาท”
  • 15 แล้วพระนางบัทเชบา ก็เข้าไปเฝ้าพระราชาที่ห้องบรรทม (พระราชาทรงพระชรามาก และอาบีชากชาวชูเนมก็กำลังอยู่ปรนนิบัติพระราชา)
  • 16 เมื่อพระนางบัทเชบากราบถวายบังคมแล้ว พระราชาก็ตรัสถามว่า “เจ้าประสงค์สิ่งใด”
  • 17 พระนางทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่เจ้านายของข้าพระบาท ฝ่าพระบาทได้ทรงปฏิญาณในพระนามของพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของฝ่าพระบาทต่อสาวใช้ของฝ่าพระบาทว่า ‘ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองสมบัติต่อจากเราแน่นอน และเขาจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา’
  • 18 ดูเถิด บัดนี้อาโดนียาห์ทรงราชย์แล้ว แม้ว่าพระองค์คือพระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน ก็หาทรงทราบไม่
  • 19 เธอได้ถวายวัวสัตว์อ้วนพีและแกะเป็นอันมาก และได้เชิญบรรดาโอรสของพระราชากับอาบียาธาร์ปุโรหิต กับโยอาบผู้บัญชาการกองทัพ แต่ซาโลมอนผู้รับใช้ของพระองค์ เธอหาได้เชิญไม่
  • 20 ข้าแต่พระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน บัดนี้อิสราเอลทั้งสิ้นก็เพ่งดูฝ่าพระบาท เพื่อฝ่าพระบาทจะตรัสแก่เขาว่า จะทรงให้ผู้ใดนั่งบนบัลลังก์ของ พระราชาเจ้านายของหม่อมฉันแทนฝ่าพระบาท
  • 21 มิฉะนั้นจะเป็นดังนี้ คือเมื่อพระราชาเจ้านายของหม่อมฉันล่วงลับไปอยู่กับ บรรพบุรุษของพระองค์แล้ว หม่อมฉันและซาโลมอนบุตรของหม่อมฉันก็จะตกเป็นฝ่ายผิด”
  • 22 ขณะเมื่อพระนางกำลังกราบทูลพระราชาอยู่ นาธันผู้เผยพระวจนะก็เข้ามา
  • 23 เขาทั้งหลายจึงกราบทูลพระราชาว่า “ดูเถิด นาธันผู้เผยพระวจนะ” เมื่อนาธันเข้ามาต่อพระพักตร์พระราชา เขาก็ซบหน้าลงถึงพื้นถวายคำนับพระราชา
  • 24 และนาธันกราบทูลว่า “ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ฝ่าพระบาทรับสั่งไว้หรือว่า ‘อาโดนียาห์จะครองต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา’
  • 25 เพราะวันนี้เธอได้ลงไปถวายวัว สัตว์อ้วนพีและแกะเป็นอันมาก และได้เชื้อเชิญบรรดาโอรสของพระราชา ทั้งผู้บัญชาการกองทัพและอาบียาธาร์ปุโรหิต และดูเถิด เขาทั้งหลายกำลังกินดื่มต่อหน้าเธอและกล่าวว่า ‘ขอพระราชาอาโดนียาห์ทรงพระเจริญ’
  • 26 แต่ส่วนข้าพระบาทผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท และศาโดกปุโรหิตกับเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา และซาโลมอนผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเธอหาได้เชิญไม่
  • 27 เหตุการณ์ทั้งนี้บังเกิดขึ้นโดยพระราชาเจ้านาย ของข้าพระบาทหรือ และฝ่าพระบาทมิได้ตรัสบอกแก่ผู้รับใช้ของฝ่า พระบาทว่า จะทรงให้ผู้ใดนั่งบนบัลลังก์ของพระราชาเจ้านาย ของฝ่าพระบาท ต่อจากฝ่าพระบาท”
  • 28 ทรงสถาปนาให้ซาโลมอนเป็นกษัตริย์ แล้วพระราชาดาวิดตรัสตอบว่า “จงเรียกบัทเชบาให้มาหาเรา” พระนางก็เสด็จเข้ามาเฝ้าต่อพระพักตร์พระราชา และประทับยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระราชา
  • 29 แล้วพระราชาทรงปฏิญาณว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด คือพระองค์ผู้ทรงไถ่ชีวิตของเราจากบรรดาความทุกข์ยาก
  • 30 เราได้ปฏิญาณต่อเจ้าในพระนามพระเยโฮวาห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลว่า ‘ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองสมบัติต่อจากเราแน่นอน และเธอจะนั่งบนบัลลังก์ของเราแทนเรา’ เราก็จะกระทำอย่างนั้นวันนี้แหละ”
  • 31 แล้วพระนางบัทเชบาก็ซบพระพักตร์ลงถึงดิน ถวายบังคมพระราชา และกราบทูลว่า “ขอพระราชาดาวิดเจ้านายของหม่อมฉันจงทรง พระเจริญเป็นนิตย์”
  • 32 พระราชาดาวิดรับสั่งว่า “จงเรียกศาโดกปุโรหิต และนาธันผู้เผยพระวจนะ กับเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดามาหาเรา” เขาทั้งหลายจึงเข้ามาเฝ้าพระราชา
  • 33 และพระราชาตรัสสั่งเขาทั้งหลายว่า “จงพาข้าราชการของเจ้านายของเจ้า ไปจัดให้ซาโลมอนโอรสของเราขึ้นขี่ล่อของเรา และนำเขาลงไปที่น้ำพุกีโฮน
  • 34 และให้ศาโดกปุโรหิต และนาธันผู้เผยพระวจนะเจิม ตั้งเขาไว้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล แล้วท่านทั้งหลายจงเป่าเขาสัตว์ และประกาศว่า ‘ขอพระราชาซาโลมอนทรงพระเจริญ’
  • 35 แล้วท่านทั้งหลายจงติดตามเขาขึ้นมา และเขาจะมานั่งบนบัลลังก์ของเรา เพราะว่าเขาจะได้เป็นกษัตริย์แทนเรา เราได้กำหนดตั้งเขาไว้ให้เป็นผู้ ครอบครองเหนืออิสราเอลและเหนือยูดาห์”
  • 36 และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาได้ กราบทูลตอบพระราชาว่า “อาเมน ขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งพระราชา เจ้านายของข้าพระบาท ตรัสดังนั้นเทอญ
  • 37 พระเจ้าได้ทรงสถิตกับพระราชาเจ้านาย ของข้าพระบาทมาแล้วฉันใด ก็ขอทรงสถิตกับซาโลมอนฉันนั้น และขอทรงกระทำให้พระที่นั่งของพระองค์ใหญ่ยิ่งกว่า พระที่นั่งของพระราชาดาวิดเจ้านายของข้าพระบาท”
  • 38 ดังนั้นศาโดกปุโรหิต นาธันผู้เผยพระวจนะ และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาและคนเคเรธีกับ คนเปเลทได้ลงไปจัดให้ซาโลมอนประทับบนล่อพระที่นั่งของพระราชาดาวิด และได้นำท่านมาถึงน้ำพุกีโฮน
  • 39 แล้วศาโดกปุโรหิตได้นำเขาสัตว์ที่บรรจุน้ำมันมาจากเต็นท์ของพระเจ้า และเจิมตั้งซาโลมอนไว้ และเขาทั้งหลายก็เป่าเขาสัตว์ และประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า “ขอพระราชาซาโลมอน ทรงพระเจริญ”
  • 40 และประชาชนทั้งปวงก็ตามเสด็จ ไปเป่าขลุ่ยและเปรมปรีดิ์ด้วยความชื่นบานยิ่งนัก แผ่นดินก็แยกด้วยเสียงของเขาทั้งหลาย
  • 41 อาโดนียาห์และบรรดาแขกที่อยู่กับท่าน เมื่อรับประทานเสร็จแล้วก็ได้ยินเสียงนั้น และเมื่อโยอาบได้ยินเสียงเขาสัตว์ก็พูดว่า “เสียงอึกทึกครึกโครมนี้ที่ในกรุงหมายความว่ากระไร”
  • 42 ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ดูเถิด โยนาธานบุตรอาบียาธาร์ปุโรหิตก็มาถึง และอาโดนียาห์ก็กล่าวว่า “เข้ามาเถิดเพราะเจ้าเป็นคนดีแท้ๆ นำข่าวดีมา”
  • 43 โยนาธานกราบเรียนอาโดนียาห์ว่า “หามิได้ เพราะพระราชาดาวิดเจ้านายของเราทั้งปวงได้ทรง กระทำให้ซาโลมอนเป็นกษัตริย์
  • 44 และพระราชาได้รับสั่งให้ศาโดกปุโรหิต นาธันผู้ เผยพระวจนะ และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดากับคนเคเรธีและคน เปเลทตามซาโลมอนไป และเขาทั้งหลายก็ได้จัดให้ซาโลมอนประทับบนล่อพระที่นั่งของพระราชา
  • 45 และศาโดกปุโรหิต กับนาธันผู้เผยพระวจนะได้เจิมตั้งท่านไว้ให้เป็นกษัตริย์ ณ น้ำพุกีโฮน และเขาทั้งหลายก็ขึ้นมาจากที่นั่นด้วยความเปรมปรีดิ์ เพราะฉะนั้นในกรุงจึงอึกทึกครึกโครม นี่เป็นเสียงที่ท่านทั้งหลายได้ยิน
  • 46 ซาโลมอนได้ทรงประทับบนพระราชบัลลังก์ด้วย
  • 47 ยิ่งกว่านั้นอีก บรรดาข้าราชการของพระราชาก็เข้าไปถวายพระพร แด่พระราชาดาวิด เจ้านายของเราว่า ‘ขอพระเจ้าของฝ่าพระบาททรงกระทำให้พระนาม ของซาโลมอนบันลือไป ยิ่งกว่าพระนามของฝ่าพระบาท และขอทรงกระทำให้บัลลังก์ของพระองค์ใหญ่ยิ่งกว่า บัลลังก์ของฝ่าพระบาท’ แล้วพระราชาก็ทรงโน้มพระกายลงบนแท่นที่บรรทม
  • 48 และพระราชาก็ตรัสด้วยว่า ‘สาธุการแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล ผู้ได้ทรงประทานให้มีคนหนึ่งนั่งบนบัลลังก์ของเราในวันนี้ ด้วยตาของเราเองได้เห็นแล้ว’ ”
  • 49 แล้วบรรดาแขกทั้งปวงของอาโดนียาห์ก็กลัว และลุกขึ้นต่างคนต่างไปตามทางของตน
  • 50 ฝ่ายอาโดนียาห์ก็กลัวซาโลมอน จึงลุกขึ้นไปจับเชิงงอนของแท่นบูชา
  • 51 มีคนไปกราบทูลซาโลมอนว่า “ดูเถิด อาโดนียาห์กลัวพระราชาซาโลมอน เพราะนี่แน่ะเธอจับเชิงงอนที่แท่นบูชาอยู่กล่าวว่า ‘ขอพระราชาซาโลมอนได้ปฏิญาณแก่ข้าพเจ้าก่อนว่า ท่านจะไม่ประหารผู้รับใช้ของท่านเสียด้วยดาบ’ ”
  • 52 และซาโลมอนตรัสว่า “ถ้าแม้เขาสำแดงตัวได้ว่าเป็นคนดี ผมสักเส้นเดียวของเขาจะไม่ตกลงยังพื้นดิน แต่ถ้าพบความอธรรมอยู่ในตัวเขา เขาจะต้องถึงแก่ความตาย”
  • 53 พระราชาซาโลมอนตรัสสั่งให้คนไปนำท่านลง มาจากแท่นบูชา และท่านก็มากราบลงต่อพระราชาซาโลมอนและ ซาโลมอนตรัสแก่ท่านว่า “จงกลับไปวังของท่านเถิด”
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页