ปฐม‍กาล-30

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 เมื่อนางราเชลเห็นว่าตนไม่มีบุตรกับยาโคบ ก็อิจฉาพี่สาว นางพูดกับยาโคบว่า “ขอให้ฉันมีบุตรด้วยหาไม่ฉันจะตาย”
  • 2 ยาโคบโกรธนางราเชลจึงว่า “เราเป็นเหมือนพระเจ้าผู้ไม่ให้เจ้ามีบุตรหรือ”
  • 3 นางจึงบอกว่า “บิลฮาห์สาวใช้ของฉันอยู่นี่ จงเข้าไปหาเขาเถิด เขาจะได้มีบุตรเลี้ยงไว้ที่ตักของฉัน ฉันจะได้มีบุตรด้วยอาศัยหญิงคนนี้”
  • 4 นางจึงยกบิลฮาห์สาวใช้ของตนให้เป็นภรรยาของยาโคบ ยาโคบก็เข้าไปหานาง
  • 5 บิลฮาห์ก็ตั้งครรภ์กับยาโคบและมีบุตรชาย
  • 6 นางราเชลว่า “พระเจ้าผู้ทรงตัดสินเรื่องข้าพเจ้า ได้ทรงสดับฟังเสียงข้าพเจ้าทูลจึงประทานบุตรชายแก่ข้าพเจ้า” เหตุฉะนี้นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า ดาน แปลว่า เขาพิพากษาแล้ว
  • 7 บิลฮาห์สาวใช้ของนางราเชลตั้งครรภ์อีก และคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ
  • 8 นางราเชลจึงว่า “ข้าพเจ้าปล้ำสู้ ฮีบรูว่า นิฟทาล กับพี่สาวของข้าพเจ้าเสียใหญ่โต และข้าพเจ้าได้ชัยชนะแล้ว” นางจึงให้ชื่อบุตรนั้นว่า นัฟทาลี
  • 9 เมื่อนางเลอาห์เห็นว่าตนหยุดคลอดบุตร จึงยกศิลปาห์สาวใช้ของตน ให้เป็นภรรยาของยาโคบ
  • 10 ศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ก็มีบุตรชายให้แก่ยาโคบ
  • 11 นางเลอาห์ว่า “โชคดีจริงๆ” จึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า กาด แปลว่า โชคดี
  • 12 แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ ก็คลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ
  • 13 เลอาห์ก็ว่า “ข้าพเจ้ามีความสุข เพราะพวกสตรีจะเรียกข้าพเจ้าว่า เป็นสุข” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อาเชอร์ แปลว่า สุข
  • 14 ในฤดูเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนออกไปที่นาพบมะเขือดูดาอิม จึงเก็บผลมาให้นางเลอาห์มารดา ราเชลจึงพูดกับเลอาห์ว่า “ขอมะเขือดูดาอิมของบุตรชายของพี่ให้ฉันบ้าง”
  • 15 นางเลอาห์ตอบว่า “ที่น้องแย่งสามีของฉันไปแล้วนั้นยังน้อยไปหรือ จึงจะมาเอามะเขือดูดาอิมของบุตรชายฉันด้วย” ราเชลตอบว่า “ถ้าให้มะเขือดูดาอิมของบุตรชายแก่ฉัน คืนวันนี้ฉันจะให้สามีไปนอนกับพี่”
  • 16 ครั้นยาโคบกลับมาจากนาเวลาเย็น นางเลอาห์ก็ออกไปต้อนรับบอกว่า “เข้ามาหาฉันเถิด เพราะฉันให้มะเขือดูดาอิมของบุตรเป็นสินจ้างท่านแล้ว” คืนวันนั้นยาโคบก็นอนกับนาง
  • 17 พระเจ้าทรงสดับฟังนางเลอาห์ นางก็ตั้งครรภ์ และให้บุตรชายคนที่ห้าแก่ยาโคบ
  • 18 ฝ่ายนางเลอาห์ว่า “พระเจ้าทรงประทานสินจ้าง ฮีบรูว่า ซาคาร นั้นให้แก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ายกหญิงคนใช้ให้สามี” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า อิสสาคาร์
  • 19 ต่อไปเลอาห์ก็ตั้งครรภ์อีก และให้บุตรชายคนที่หกแก่ยาโคบ
  • 20 แล้วนางเลอาห์จึงว่า พระเจ้าทรงประทานของดีให้ข้าพเจ้า บัดนี้สามีคงจะให้เกียรติ ฮีบรูว่า ศาบัลข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้ให้บุตรชายแก่เขาหกคนแล้ว” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า เศบูลุน
  • 21 ต่อมาภายหลังนางก็มีบุตรีคนหนึ่ง ตั้งชื่อว่าดีนาห์
  • 22 พระเจ้าทรงระลึกถึงและสดับฟังราเชล ทรงให้นางหายเป็นหมัน
  • 23 นางก็ตั้งครรภ์มีบุตรชาย นางจึงกล่าวว่า “พระเจ้าทรงโปรดยกความอดสูของข้าพเจ้าไปแล้ว”
  • 24 นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า โยเซฟ แปลว่า พระองค์ทรงเพิ่ม กล่าวว่า “ขอพระเจ้าทรงโปรดเพิ่มบุตรชายอีกคนหนึ่งให้ข้าพเจ้า”
  • 25 ยาโคบต่อรองกับลาบัน เมื่อนางราเชลคลอดโยเซฟแล้ว ยาโคบก็พูดกับลาบันว่า “ขอให้ข้าพเจ้ากลับไปบ้านเกิดเมืองบิดรเถิด
  • 26 ข้าพเจ้าทำงานเพื่อได้ภรรยาและบุตรแล้ว ขอมอบภรรยากับบุตรให้ข้าพเจ้าพาไป เพราะท่านรู้ว่าข้าพเจ้าได้รับใช้ท่านเสร็จแล้ว”
  • 27 แต่ลาบันตอบว่า “ถ้าเป็นที่พอใจเจ้า ลุงสังเกตเหตุการณ์ก็รู้ว่า พระเจ้าได้ทรงอวยพรเราเพราะเจ้า
  • 28 เจ้าจะเรียกค่าจ้างเท่าไรก็บอกมาเถิดลุงจะให้”
  • 29 ยาโคบตอบว่า “ฉันรับใช้ลุงอย่างไร และสัตว์ของลุงอยู่กับฉันดีอย่างไร ลุงก็ทราบอยู่แล้ว
  • 30 เพราะว่าก่อนฉันมานั้นลุงมีแต่น้อย แต่บัดนี้ก็มีทวีขึ้นเป็นอันมาก ฉันจะก้าวไปทางไหน พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่ลุง ทีนี้ฉันจะบำรุงครอบครัวของตนเองเมื่อไรได้เล่า”
  • 31 ลาบันจึงถามว่า “ลุงควรจะให้อะไรเจ้า” ยาโคบตอบว่า “ลุงไม่ต้องให้อะไรฉันดอก แต่หากว่าลุงตกลง ฉันจะเลี้ยงระวังสัตว์ของลุงต่อไป
  • 32 คือวันนี้ฉันจะไปตรวจดูฝูงสัตว์ของลุงทั้งฝูง ฉันจะคัดแกะที่มีจุดและแกะด่างทุกตัวออกจากฝูง และคัดแกะดำออกทุกตัวจากฝูงแกะ และแพะด่างกับแพะที่มีจุดออกจากฝูงแพะ ให้สัตว์เหล่านี้เป็นค่าจ้างของฉัน
  • 33 ความซื่อตรงของฉันในการคัดแพะแกะจะปรากฏในภายหน้า คือเมื่อลุงมาตรวจดูค่าจ้างของฉัน ถ้าพบตัวไม่มีจุดและที่ไม่ด่างอยู่ในฝูงแกะ หรือตัวที่ไม่ดำในฝูงลูกแกะก็ให้ถือเสียว่า ฉันยักยอกสัตว์เหล่านี้มา”
  • 34 ลาบันจึงตอบว่า “ดีแล้ว ตกลงตามที่เจ้าพูดนั้นเถิด”
  • 35 วันนั้นลาบันก็คัดแพะตัวผู้ที่ลายและที่ด่าง และแพะตัวเมียที่มีจุดและที่ด่าง แพะขาวทั้งหมด และลูกแกะดำทั้งหมด มามอบให้บุตรชายของเขาเลี้ยง
  • 36 เขาแยกสัตว์ออกไปทั้งหมดห่างจากยาโคบเป็นระยะทางสามวัน สัตว์ของลาบันที่เหลืออยู่นั้นยาโคบก็เลี้ยงไว้
  • 37 ยาโคบเอากิ่งไม้สดจากต้นไค้ ต้นเสลา และต้นเปลน มาปอกเปลือกออกเป็นรอยขาวๆ ให้เห็นไม้สีขาว
  • 38 เขาวางไม้ที่ปอกเปลือกไว้ในร่องตรงหน้าฝูงสัตว์ คือในรางน้ำที่ฝูงสัตว์มากินน้ำ เมื่อมันมากินน้ำ มันก็อยากติดสัด
  • 39 ฝูงสัตว์ก็สมจรกันที่ไม้นั้น ดังนั้นฝูงสัตว์จึงมีลูกที่ลายมีจุดและด่าง
  • 40 ยาโคบก็แยกลูกแกะออกจากฝูง ให้ฝูงนั้นอยู่ตรงหน้าแกะลาย และแกะดำทุกตัวในฝูงของลาบัน แต่ฝูงสัตว์ของตนนั้นอยู่ต่างหาก ไม่ให้ปะปนกับฝูงสัตว์ของลาบัน
  • 41 อยู่มาเมื่อสัตว์ที่แข็งแรงในฝูงจะสมจร ยาโคบก็จัดไม้วางไว้ที่รางน้ำให้ฝูงสัตว์เห็น เพื่อให้มันสมจรกันกลางไม้นั้น
  • 42 ฝ่ายสัตว์ที่อ่อนแอ ยาโคบก็ไม่ใส่ไม้นั้นไว้ เหตุฉะนั้นสัตว์ที่อ่อนแอจึงตกเป็นของลาบัน แต่สัตว์ที่แข็งแรงเป็นของยาโคบ
  • 43 ยาโคบก็มั่งมีมากขึ้น มีฝูงแพะแกะฝูงใหญ่ คนใช้ชายหญิง และฝูงอูฐฝูงลา
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页