ปฐม‍กาล-26

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 อิสอัคที่เมืองเก-ราร์และเบเออร์เชบา อยู่มาเกิดกันดารอาหารในดินแดนนั้น นอกเหนือการกันดารอาหารครั้งก่อนในสมัยอับราฮัม อิสอัคไปยังเก-ราร์ยังอาบีเมเลคพระราชาแห่งชาวฟีลิสเตีย
  • 2 พระเจ้าทรงปรากฏแก่ท่านและตรัสว่า “อย่าไปอียิปต์เลย อาศัยในแผ่นดินซึ่งเราจะบอกให้เจ้าเถิด
  • 3 อาศัยอยู่ในดินแดนนี้ แล้วเราจะอยู่กับเจ้าและอวยพรเจ้า เพราะว่าเราจะให้ดินแดนเหล่านี้ทั้งหมดแก่เจ้า และแก่เชื้อสายของเจ้า เราจะทำให้คำสาบาน ซึ่งเราได้ปฏิญาณไว้กับอับราฮัมบิดาของเจ้านั้นสำเร็จ
  • 4 เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้นดังดาวบนฟ้า และจะให้ดินแดนเหล่านี้ทั้งหมดแก่เชื้อสายของเจ้า ประชาชาติทั้งหลายในโลกจะได้รับพรก็เพราะเชื้อสายของเจ้า ปฐก. 22:16-18
  • 5 เพราะว่าอับราฮัมได้ฟังเสียงเรา และได้รักษาคำกำชับของเรา บัญญัติของเรา กฎเกณฑ์ของเรา และพระธรรมของเรา”
  • 6 อิสอัคจึงอาศัยอยู่ในแคว้นเก-ราร์
  • 7 เมื่อคนเมืองนั้นถามท่านเรื่องภรรยาของท่าน ท่านจึงว่า “เธอเป็นน้องสาวของข้าพเจ้า” ปฐก. 12:13; 20:2 เพราะท่านกลัวที่จะพูดว่า “ภรรยาของข้าพเจ้า” คิดไปว่า “มิฉะนั้นแล้ว คนเมืองนี้จะฆ่าฉันเพื่อแย่งเอาเรเบคาห์” เพราะว่านางมีรูปงาม
  • 8 เมื่อท่านอยู่ที่นั่นนานแล้ว อาบีเมเลคกษัตริย์ชาวฟีลิสเตียทรงมองตามช่องพระแกล เห็นอิสอัคกำลังหยอกเรเบคาห์ภรรยาของตน
  • 9 อาบีเมเลคจึงทรงเรียกอิสอัคมาเฝ้า และตรัสว่า “แน่ะ นางเป็นภรรยาของเจ้า ทำไมเจ้าจะพูดว่า ‘เธอเป็นน้องสาวของข้าพระบาท’ ” อิสอัคทูลพระองค์ว่า “เพราะข้าพระบาทคิดว่า ‘มิฉะนั้นข้าจะตายเพราะนาง’ ”
  • 10 อาบีเมเลคตรัสว่า “ท่านทำอะไรแก่พวกเราดังนี้ ประชาชนคนหนึ่งอาจจะเข้าไปนอนกับภรรยาของเจ้าง่ายๆ แล้วเจ้าจะนำกรรมชั่วมาสู่พวกเรา”
  • 11 อาบีเมเลคจึงทรงตักเตือนประชาชนทั้งปวงว่า “ผู้ใดแตะต้องชายคนนี้หรือภรรยาของเขา จะต้องถูกประหารชีวิต”
  • 12 อิสอัคได้หว่านพืชในดินแดนนั้น ในปีเดียวกันนั้นก็เก็บผลได้หนึ่งร้อยเท่า พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่ท่าน
  • 13 อิสอัคก็จำเริญมีกำไรทวียิ่งขึ้นจนท่านเป็นคนมั่งมีมาก
  • 14 ท่านมีฝูงแพะ แกะ และฝูงโคเป็นกรรมสิทธิ์ และมีบริวารมากมาย ชาวฟีลิสเตียจึงอิจฉาท่าน
  • 15 (ฝ่ายชาวฟีลิสเตียได้อุดและเอาดินถมบ่อทุกบ่อซึ่งคนใช้ของบิดาท่านขุดไว้ในสมัยอับราฮัมบิดาของท่าน)
  • 16 อาบีเมเลคตรัสกับอิสอัคว่า “ไปเสียจากเราเถิด เพราะท่านมีกำลังมากกว่าพวกเรา”
  • 17 อิสอัคจึงออกจากที่นั่น ไปตั้งค่ายอยู่ที่ลำห้วยเก-ราร์และอาศัยอยู่ที่นั่น
  • 18 อิสอัคขุดบ่อน้ำซึ่งขุดไว้ในสมัยของอับราฮัมบิดาของท่านอีก เพราะหลังจากที่อับราฮัมได้สิ้นชีพแล้ว ชาวฟีลิสเตียได้อุดเสีย แล้วท่านก็ตั้งชื่อตามชื่อที่บิดาของท่านตั้งไว้
  • 19 แต่เมื่อคนใช้ของอิสอัคขุดในหุบเขาและพบน้ำพุ
  • 20 คนเลี้ยงสัตว์ของเมืองเก-ราร์ ก็มาทะเลาะกับคนเลี้ยงสัตว์ของอิสอัค อ้างว่า “น้ำนั้นเป็นของเรา” ท่านจึงเรียกชื่อบ่อน้ำนั้นว่า เอเสก แปลว่า การชิงดี เพราะเขาทั้งหลายมาทะเลาะกับท่าน
  • 21 แล้วพวกเขาก็ขุดบ่อน้ำอีกบ่อหนึ่ง และทะเลาะกันเรื่องบ่อนั้นด้วย ท่านจึงเรียกชื่อบ่อนั้นว่าสิตนาห์ แปลว่า ความเป็นศัตรูกัน
  • 22 ท่านย้ายจากที่นั่นไปขุดอีกบ่อหนึ่ง แล้วเขาก็มิได้ทะเลาะกันเรื่องบ่อนั้น ท่านจึงเรียกชื่อบ่อนั้นว่า เรโหโบท แปลว่า ที่กว้างขวาง กล่าวว่า “เพราะบัดนี้พระเจ้าประทานที่อยู่แก่เรา และเราจะกินผลดกในดินแดนนั้น”
  • 23 อิสอัคก็ออกจากที่นั่นไปยังเบเออร์เชบา
  • 24 พระเจ้าทรงปรากฏแก่ท่านในคืนเดียวกันนั้น ตรัสว่า “เราเป็นพระเจ้าของอับราฮัมบิดาของเจ้า อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้าและจะอวยพรเจ้า และทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น เพราะเห็นแก่อับราฮัมผู้รับใช้ของเรา”
  • 25 ท่านจึงสร้างแท่นบูชาที่นั่น และนมัสการออกพระนามพระเจ้า และตั้งเต็นท์ของท่านที่นั่น คนใช้ของอิสอัคขุดบ่อน้ำอีกบ่อหนึ่งที่นั่นด้วย
  • 26 สัมพันธไมตรีระหว่างอิสอัคและอาบีเมเลค ฝ่ายอาบีเมเลค ปฐก. 21:22ออกจากเก-ราร์พร้อมกับ อาหุสซัทสหายของพระองค์ กับฟีโคล์ผู้บัญชาการทหารของพระองค์ไปหาท่าน
  • 27 อิสอัคทูลถามเขาทั้งหลายว่า “ไฉนท่านจึงมาหาข้าพเจ้า เมื่อท่านเกลียดชังข้าพเจ้า และขับไล่ข้าพเจ้าไปจากท่าน”
  • 28 พวกเขาตอบว่า “เราเห็นชัดเจนแล้วว่าพระเจ้าทรงสถิตกับท่าน เราจึงว่า ขอให้กระทำสัตย์สาบานระหว่างท่านและเราทั้งหลาย และขอให้เรากระทำพันธสัญญากับท่าน
  • 29 เพื่อว่าท่านจะไม่ทำอันตรายแก่เรา ดังที่เรามิได้แตะต้องท่าน และไม่ได้กระทำสิ่งใดแก่ท่านเว้นแต่ความดี และได้ส่งท่านไปอย่างสันติ บัดนี้ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงอำนวยพระพร”
  • 30 ท่านจึงจัดการเลี้ยงให้แก่พวกเขา และเขาก็ได้กินและดื่ม
  • 31 ครั้นรุ่งเช้า ทั้งสองฝ่ายก็ตื่นแต่มืด และกระทำสัตย์สาบานต่อกัน อิสอัคส่งพวกเขาไป พวกเขาก็จากท่านไปอย่างสันติ
  • 32 ในวันนั้นเองคนใช้ของอิสอัคมาบอกท่านถึงเรื่องบ่อน้ำ ซึ่งเขาได้ขุดและกล่าวแก่ท่านว่า “เราพบน้ำแล้ว”
  • 33 ท่านเรียกบ่อนั้นว่า ชิบาห์ เมืองนั้นจึงมีชื่อว่า เบเออร์เชบา จนทุกวันนี้
  • 34 เมื่อเอซาวมีอายุสี่สิบปี ท่านรับยูดิธบุตรหญิงของเบเออรีคนฮิตไทต์ และบาเสมัทบุตรหญิงของเอโลนคนฮิตไทต์เป็นภรรยา
  • 35 หญิงเหล่านั้นทำให้ชีวิตอิสอัคและเรเบคาห์ขมขื่น
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页