ยอห์น-8

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 แต่พระเยซูเสด็จไปที่ภูเขามะกอกเทศ
  • 2 และในตอนเช้าตรู่พระองค์ทรงปรากฏที่บริเวณพระวิหารอีก คนทั้งหลายก็พากันมาหาพระองค์ พระองค์ประทับและทรงเริ่มสั่งสอนเขา
  • 3 พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีพาผู้หญิงคนหนึ่งมาหา หญิงคนนี้ถูกจับฐานล่วงประเวณี และพวกเขาให้นางยืนอยู่ต่อหน้าประชาชน
  • 4 เขาทูลพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะกำลังล่วงประเวณีอยู่
  • 5 ในธรรมบัญญัตินั้นโมเสสสั่งให้เราเอาหินขว้างคนอย่างนี้ให้ตายลนต.20:10; ฉธบ.22:22-24 แล้วท่านจะว่าอย่างไร?”
  • 6 เขาพูดอย่างนี้เพื่อทดลองพระองค์โดยหวังจะหาเหตุฟ้องพระองค์ แต่พระเยซูน้อมพระกายลงเอานิ้วเขียนที่ดิน
  • 7 และเมื่อพวกเขายังทูลถามอยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ยืดพระกายขึ้นตรัสตอบเขาว่า “ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก”
  • 8 แล้วพระองค์น้อมพระกายลงเอานิ้วเขียนที่ดินอีก
  • 9 แต่เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น เขาก็ออกไปทีละคน เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่ เหลือแต่พระเยซูตามลำพังกับหญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
  • 10 พระเยซูยืดพระกายขึ้นตรัสกับนางว่า “หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมด? ไม่มีใครเอาโทษเธอหรือ?”
  • 11 นางทูลว่า “ท่านเจ้าข้า ไม่มีใครเลย” แล้วพระเยซูตรัสว่า “เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก”]สำเนาโบราณหลายฉบับ ไม่มีข้อความใน 7:53-8:11
  • 12 พระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลก พระเยซูตรัสกับพวกเขาอีกครั้งหนึ่งว่า “เราเป็นความสว่างของโลกมธ.5:14; ยน.9:5 คนที่ตามเรามาจะไม่ต้องเดินในความมืด แต่จะมีความสว่างแห่งชีวิต”
  • 13 พวกฟาริสีจึงกล่าวกับพระองค์ว่า “ท่านเป็นพยานให้ตัวเอง คำพยานของท่านก็ไม่จริง”ยน.5:31
  • 14 พระเยซูตรัสตอบว่า “ถึงแม้เราเป็นพยานให้ตัวเราเอง คำพยานของเราก็ยังเป็นจริงอยู่ เพราะเรารู้ว่าเรามาจากไหนและจะไปที่ไหน แต่พวกท่านไม่รู้ว่าเรามาจากไหนและจะไปที่ไหน
  • 15 พวกท่านพิพากษาตามมาตรฐานโลกภาษากรีกแปลตรงตัวว่า ตามเนื้อหนัง เราไม่ได้มาพิพากษาใคร
  • 16 แต่ถึงแม้เราจะพิพากษา การพิพากษาของเราก็ถูกต้อง เพราะเราไม่ได้พิพากษาโดยลำพัง แต่เราพิพากษาร่วมกับพระบิดาผู้ทรงใช้เรามา
  • 17 ในธรรมบัญญัติของท่านเขียนไว้ว่า คำพยานของคนสองคนย่อมเชื่อถือได้
  • 18 เราเป็นพยานให้ตัวเราเองและพระบิดาผู้ทรงใช้เรามาก็เป็นพยานให้เราด้วย”
  • 19 พวกเขาจึงทูลพระองค์ว่า “พระบิดาของท่านอยู่ที่ไหน?” พระเยซูตรัสตอบว่า “พวกท่านไม่รู้จักตัวเราหรือพระบิดาของเรา ถ้าพวกท่านรู้จักเรา พวกท่านก็จะรู้จักพระบิดาของเราด้วย”
  • 20 พระเยซูตรัสคำเหล่านี้ที่คลังเงินขณะกำลังสั่งสอนอยู่ที่บริเวณพระวิหาร แต่ไม่มีใครจับกุมพระองค์เพราะว่ายังไม่ถึงกำหนดเวลาของพระองค์
  • 21 ที่ซึ่งเราจะไปนั้นท่านไปไม่ได้ พระองค์ตรัสกับพวกเขาอีกว่า “เราจะจากไป และพวกท่านจะแสวงหาเราและจะตายในการบาปของตัวเอง ที่ที่เราจะไปนั้นท่านไปไม่ได้”
  • 22 พวกยิวจึงพูดกันว่า “เขาจะฆ่าตัวตายหรือ? เพราะเขาพูดว่า ‘ที่ที่เราจะไปนั้นพวกท่านไปไม่ได้’”
  • 23 พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “พวกท่านเป็นของเบื้องล่าง เราเป็นของเบื้องบน ท่านเป็นของโลกนี้ เราไม่ได้เป็นของโลกนี้
  • 24 เราบอกพวกท่านว่า ท่านจะตายในการบาปของตัวเอง เพราะว่าถ้าพวกท่านไม่เชื่อว่าเราเป็นผู้นั้น ท่านก็จะต้องตายในการบาปของตัว”
  • 25 เขาถามพระองค์ว่า “ท่านเป็นใคร?” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นอย่างที่เราบอกพวกท่านตั้งแต่แรกแล้ว
  • 26 เรายังมีอีกหลายเรื่องที่อาจพูดและพิพากษาเกี่ยวกับท่าน แต่ผู้ที่ทรงใช้เรามานั้นสัตย์จริง และเราก็กล่าวต่อโลกในสิ่งที่เราได้ยินจากพระองค์”
  • 27 พวกเขาไม่ทราบว่าพระองค์ตรัสเรื่องพระบิดา
  • 28 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “เมื่อพวกท่านยกบุตรมนุษย์ขึ้น ท่านก็จะรู้ว่าเราเป็นผู้นั้น และรู้ว่าเราไม่ได้ทำอะไรตามใจชอบ พระบิดาทรงสอนเราอย่างไร เราก็กล่าวอย่างนั้น
  • 29 และพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาก็สถิตอยู่กับเรา พระองค์ไม่ได้ทรงทิ้งเราไว้ตามลำพัง เพราะว่าเราทำตามชอบพระทัยพระองค์เสมอ”
  • 30 เมื่อพระเยซูตรัสอย่างนี้ก็มีคนจำนวนมากวางใจในพระองค์
  • 31 สัจจะจะทำให้ท่านเป็นไท พระเยซูจึงตรัสกับพวกยิวที่วางใจในพระองค์ว่า “ถ้าพวกท่านยึดมั่นในคำสอนของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง
  • 32 และพวกท่านจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านเป็นไท”
  • 33 พวกเขาทูลตอบพระองค์ว่า “เราสืบเชื้อสายมาจากอับราฮัมมธ.3:9; ลก.3:8 และไม่เคยเป็นทาสใครเลย ทำไมท่านถึงกล่าวว่าเราจะเป็นไท?”
  • 34 พระเยซูตรัสตอบพวกเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ทุกคนที่ทำบาปก็เป็นทาสของบาป
  • 35 ทาสอยู่ในบ้านเพียงชั่วคราว บุตรต่างหากที่อยู่ตลอดไป
  • 36 เพราะฉะนั้นถ้าพระบุตรทรงทำให้พวกท่านเป็นไท ท่านก็เป็นไทจริงๆ
  • 37 เรารู้ว่าพวกท่านเป็นเชื้อสายของอับราฮัม แต่ท่านก็หาโอกาสฆ่าเรา เพราะไม่เชื่อคำสอนของเรา
  • 38 เราพูดถึงสิ่งที่เราเห็นเมื่ออยู่กับพระบิดา และพวกท่านทำในสิ่งที่ท่านได้ยินมาจากพ่อของท่าน”แปลได้อีกว่า พวกท่านจงทำสิ่งที่ท่านได้ยินจากพระบิดา
  • 39 พ่อของท่านคือมาร พวกเขาทูลตอบพระองค์ว่า “อับราฮัมเป็นบิดาของเรา” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ถ้าพวกท่านเป็นลูกของอับราฮัมแล้ว ท่านก็จะทำในสิ่งที่อับราฮัมทำ
  • 40 แต่เดี๋ยวนี้พวกท่านหาโอกาสฆ่าเราซึ่งเป็นผู้บอกท่านถึงสัจจะที่เราได้ยินมาจากพระเจ้า อับราฮัมไม่ได้ทำอย่างนี้
  • 41 พวกท่านทำสิ่งที่พ่อของท่านทำ” เขาทูลพระองค์ว่า “เราไม่ได้เกิดจากการล่วงประเวณี เรามีพระบิดาองค์เดียวคือพระเจ้า”
  • 42 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ถ้าพระเจ้าเป็นพระบิดาของพวกท่านแล้ว ท่านก็จะรักเรา เพราะเรามาจากพระเจ้าและอยู่นี่แล้ว เราไม่ได้มาตามใจชอบของเราเอง แต่พระองค์ทรงใช้เรามา
  • 43 ทำไมพวกท่านถึงไม่เข้าใจถ้อยคำที่เราพูด? นี่เป็นเพราะท่านทนฟังคำสอนของเราไม่ได้
  • 44 พวกท่านมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านอยากจะทำตามความปรารถนาของพ่อ มันเป็นฆาตกรตั้งแต่เริ่มแรกและไม่ได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา
  • 45 แต่พวกท่านไม่เชื่อเราเพราะเราพูดความจริง
  • 46 มีใครในพวกท่านที่อาจชี้ให้เห็นว่าเรามีบาป? ถ้าเราพูดความจริง ทำไมท่านถึงไม่เชื่อเรา?
  • 47 คนที่มาจากพระเจ้าก็ย่อมฟังพระดำรัสของพระเจ้า พวกท่านไม่ได้มาจากพระเจ้า เพราะเหตุนี้พวกท่านจึงไม่ฟัง”
  • 48 ก่อนอับราฮัมเกิด เราเป็นอยู่แล้ว พวกยิวทูลตอบพระองค์ว่า “ที่เราพูดว่าท่านเป็นชาวสะมาเรียและมีผีสิงนั้นไม่จริงหรือ?”
  • 49 พระเยซูตรัสตอบว่า “เราไม่มีผีสิง แต่เราถวายพระเกียรติแด่พระบิดาของเรา และพวกท่านลบหลู่เกียรติของเรา
  • 50 เราไม่ได้แสวงหาเกียรติของเราเอง แต่มีผู้แสวงหาให้และพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงพิพากษา
  • 51 เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ถ้าใครประพฤติตามคำสอนของเรา คนนั้นจะไม่ประสบความตายเลย”
  • 52 พวกยิวทูลพระองค์ว่า “เดี๋ยวนี้เรารู้แล้วว่าท่านมีผีสิง อับราฮัมตายไปแล้วและพวกผู้เผยพระวจนะก็ตายไปแล้วเหมือนกัน แต่ท่านพูดว่า ‘ถ้าใครประพฤติตามคำสอนของเรา คนนั้นจะไม่ตายเลยภาษากรีกแปลตรงตัวว่า จะไม่ลิ้มรสความตายเลย’
  • 53 ท่านยิ่งใหญ่กว่าอับราฮัมบิดาของเราที่ตายไปแล้วหรือ? พวกผู้เผยพระวจนะก็ตายไปแล้วเหมือนกัน ท่านจะอวดอ้างว่าท่านเป็นใคร?”
  • 54 พระเยซูตรัสตอบว่า “ถ้าเราให้เกียรติแก่ตัวเราเอง เกียรติของเราก็ไม่มีความหมาย ผู้ที่ทรงให้เกียรติเรานั้นคือพระบิดาของเรา ผู้ที่พวกท่านกล่าวว่าเป็นพระเจ้าของท่าน
  • 55 พวกท่านไม่รู้จักพระองค์ แต่เรารู้จักพระองค์ ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่รู้จักพระองค์ เราก็จะเป็นคนมุสาเหมือนกับท่าน แต่เรารู้จักพระองค์ และประพฤติตามพระดำรัสของพระองค์
  • 56 อับราฮัมบิดาของพวกท่านชื่นชมยินดีที่จะได้เห็นวันของเรา และท่านก็เห็นแล้วและมีความยินดี”
  • 57 พวกยิวจึงทูลพระองค์ว่า “ท่านอายุยังไม่ถึงห้าสิบปี ท่านเคยเห็นอับราฮัมแล้วหรือ?”
  • 58 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ก่อนอับราฮัมเกิด เราเป็นอยู่แล้ว”
  • 59 คนเหล่านั้นจึงหยิบก้อนหินขึ้นมาจะขว้างพระองค์ แต่พระเยซูทรงหลบเลี่ยงและเสด็จออกไปจากบริเวณพระวิหาร
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页