ยอห์น-7

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 พวกน้องๆ ของพระเยซูไม่วางใจพระองค์ หลังจากนั้นพระเยซูเสด็จไปตามที่ต่างๆ ในแคว้นกาลิลี พระองค์ไม่ต้องการเสด็จไปแคว้นยูเดียเพราะพวกยิวหาโอกาสฆ่าพระองค์
  • 2 ขณะนั้นใกล้จะถึงเทศกาลอยู่เพิงลนต.23:34; ฉธบ.16:13ของพวกยิวแล้ว
  • 3 พวกน้องๆ ของพระองค์จึงทูลพระองค์ว่า “จงออกจากที่นี่ไปแคว้นยูเดียเพื่อให้พวกสาวกเห็นกิจการที่กำลังทำอยู่
  • 4 เพราะว่าไม่มีใครแอบทำอะไรเงียบๆ ในเมื่ออยากให้ตัวเองปรากฏ ถ้าจะทำสิ่งเหล่านี้ก็จงแสดงตัวให้ปรากฏต่อโลกเถิด”
  • 5 แม้แต่พวกน้องๆ ของพระองค์ก็ไม่ได้วางใจในพระองค์
  • 6 พระเยซูจึงตรัสกับพวกเขาว่า “ยังไม่ถึงเวลาของเรา แต่เวลาของพวกน้องนั้นได้ทุกเมื่อ
  • 7 โลกเกลียดชังพวกน้องไม่ได้ แต่โลกเกลียดชังเรา เพราะเราเป็นพยานว่าการงานของโลกนี้ชั่วร้าย
  • 8 พวกน้องจงขึ้นไปที่งานเทศกาล เราจะไม่ขึ้นไปที่งานเทศกาลนี้ เพราะยังไม่ถึงกำหนดเวลาของเรา”
  • 9 เมื่อตรัสอย่างนั้นแล้วพระองค์ก็ประทับในแคว้นกาลิลีต่อไป
  • 10 พระเยซูที่เทศกาลอยู่เพิง แต่หลังจากพวกน้องๆ ของพระองค์ขึ้นไปที่งานเทศกาลนั้นแล้ว พระองค์ก็เสด็จตามขึ้นไปด้วย แต่ไปอย่างเงียบๆ ไม่เปิดเผย
  • 11 พวกยิวมองหาพระองค์ในงานเทศกาลนั้นและถามว่า “คนนั้นอยู่ที่ไหน?”
  • 12 และฝูงชนก็ซุบซิบกันอย่างมากเรื่องพระองค์ บางคนพูดว่า “เขาเป็นคนดี” บางคนว่า “ไม่ใช่ เขาทำให้ฝูงชนหลงผิดไป”
  • 13 แต่ไม่มีใครกล้าพูดถึงพระองค์อย่างเปิดเผยเพราะกลัวพวกยิว
  • 14 เมื่อเวลาผ่านไปถึงกลางเทศกาล พระเยซูเสด็จขึ้นไปที่บริเวณพระวิหารและทรงสั่งสอน
  • 15 พวกยิวพากันประหลาดใจพูดว่า “คนนี้รู้พระธรรมได้อย่างไรในเมื่อไม่เคยเรียนเลย?”
  • 16 พระเยซูจึงตรัสตอบพวกเขาว่า “คำสอนของเราไม่ใช่ของเราเอง แต่เป็นของผู้ทรงใช้เรามา
  • 17 ถ้าใครตั้งใจประพฤติตามพระประสงค์ของพระองค์ คนนั้นก็จะรู้ว่าคำสอนนี้มาจากพระเจ้าหรือว่าเราพูดตามใจชอบเอง
  • 18 ใครที่พูดตามใจชอบเองย่อมแสวงหาเกียรติสำหรับตนเอง แต่คนที่แสวงหาเกียรติให้ผู้ที่ใช้ตนมา คนนั้นเป็นคนจริง ไม่มีอธรรมในตัวเขาเลย
  • 19 โมเสสให้ธรรมบัญญัติแก่พวกท่านไม่ใช่หรือ? แต่ไม่มีใครในพวกท่านประพฤติตามธรรมบัญญัตินั้น พวกท่านหาโอกาสฆ่าเราทำไม?”
  • 20 ฝูงชนตอบว่า “ท่านมีผีสิงอยู่ ใครกันที่หาโอกาสจะฆ่าท่าน?”
  • 21 พระเยซูตรัสตอบว่า “เราได้ทำสิ่งเดียว และท่านทุกคนประหลาดใจ
  • 22 โมเสสให้พวกท่านเข้าสุหนัตพิธีตัดหนังปลายองคชาต เป็นพิธีรับผู้ชายเข้าศาสนายิวลนต.12:3 (สุหนัตไม่ได้มาจากโมเสส แต่มาจากบรรพบุรุษปฐก.17:10) และท่านก็ยังให้คนเข้าสุหนัตในวันสะบาโต
  • 23 ถ้าในวันสะบาโตคนยังเข้าสุหนัตเพื่อไม่ให้ละเมิดธรรมบัญญัติของโมเสสแล้ว พวกท่านยังจะโกรธเราเพราะเราทำให้ชายคนหนึ่งหายเป็นปกติในวันสะบาโตหรือ?ยน.5:9
  • 24 อย่าพิพากษาตามที่เห็นภายนอก แต่จงพิพากษาอย่างยุติธรรมเถิด”
  • 25 ท่านผู้นี้เป็นพระคริสต์หรือ? แล้วชาวกรุงเยรูซาเล็มบางคนจึงพูดว่า “คนนี้ไม่ใช่หรือที่พวกเขาหาโอกาสจะฆ่า?
  • 26 เขาก็อยู่นี่แล้วไง กำลังพูดอยู่อย่างเปิดเผย และพวกเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร พวกผู้ใหญ่รู้แน่แล้วหรือว่าคนนี้เป็นพระคริสต์?
  • 27 แต่เรารู้แล้วว่าคนนี้มาจากไหน เพราะเมื่อพระคริสต์เสด็จมา จะไม่มีใครรู้เลยว่าพระองค์มาจากไหน”
  • 28 แล้วพระเยซูก็ทรงประกาศขณะทรงสั่งสอนอยู่ที่บริเวณพระวิหารว่า “พวกท่านรู้จักเราและรู้ว่าเรามาจากไหน เราไม่ได้มาตามลำพังเราเอง แต่พระองค์ผู้ทรงใช้เรามานั้นสัตย์จริงและพวกท่านไม่รู้จักพระองค์
  • 29 เรารู้จักพระองค์ เพราะเรามาจากพระองค์และพระองค์ทรงใช้เรามา”
  • 30 พวกเขาจึงหาโอกาสจับพระองค์ แต่ไม่มีใครยื่นมือแตะต้องพระองค์เพราะยังไม่ถึงกำหนดเวลาของพระองค์
  • 31 แต่มีหลายคนในหมู่ประชาชนนั้นวางใจในพระองค์และพูดว่า “เวลาที่พระคริสต์เสด็จมา พระองค์จะทรงทำหมายสำคัญมากยิ่งกว่าสิ่งที่ท่านผู้นี้ได้ทำหรือ?”
  • 32 เจ้าหน้าที่ถูกส่งมาจับพระเยซู เมื่อพวกฟาริสีได้ยินประชาชนซุบซิบกันเรื่องพระองค์อย่างนั้น พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกฟาริสีจึงใช้เจ้าหน้าที่ไปจับพระองค์
  • 33 พระเยซูตรัสว่า “เราจะอยู่กับพวกท่านต่อไปอีกไม่นาน แล้วจะกลับไปหาผู้ที่ทรงใช้เรามา
  • 34 พวกท่านจะแสวงหาเราแต่จะไม่พบเรา และที่ที่เราอยู่นั้นท่านจะเข้าไปไม่ได้”
  • 35 พวกยิวจึงพูดกันว่า “คนนี้จะไปไหนที่เราจะหาเขาไม่พบ? เขาตั้งใจจะไปหาคนที่กระจัดกระจายอยู่ในหมู่พวกกรีกและสั่งสอนพวกกรีกหรือ?
  • 36 เขาหมายความว่าอย่างไรที่พูดว่า ‘พวกท่านจะแสวงหาเราแต่จะไม่พบเรา’ และ ‘ที่ที่เราอยู่นั้นพวกท่านจะเข้าไปไม่ได้’?”
  • 37 แม่น้ำที่มีน้ำดำรงชีวิต ในวันสุดท้ายของงานเทศกาลลนต.23:36ซึ่งเป็นวันยิ่งใหญ่นั้น พระเยซูทรงยืนขึ้นและทรงประกาศว่า “ถ้าใครกระหาย ให้คนนั้นมาหาเรา
  • 38 และให้คนที่วางใจในเราดื่ม ตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า ‘แม่น้ำที่มีน้ำดำรงชีวิตจะไหลออกมาจากภายในคนนั้น’อสค.47:1; ศคย.14:8”
  • 39 สิ่งที่พระเยซูตรัสนั้นหมายถึงพระวิญญาณซึ่งคนที่วางใจพระองค์จะได้รับ เพราะว่าพระวิญญาณยังไม่สถิตด้วยสำเนาโบราณบางฉบับว่า เพราะว่ายังไม่ได้ประทานพระวิญญาณ เพราะพระเยซูยังไม่ได้รับพระเกียรติ
  • 40 ความขัดแย้งในหมู่ประชาชน เมื่อประชาชนได้ยินดังนั้น บางคนก็พูดว่า “ท่านผู้นี้เป็นผู้เผยพระวจนะแน่นอน”
  • 41 คนอื่นๆ ก็พูดว่า “ท่านผู้นี้เป็นพระคริสต์” แต่บางคนว่า “พระคริสต์จะมาจากกาลิลีได้หรือ?
  • 42 พระคัมภีร์กล่าวไว้ไม่ใช่หรือว่าพระคริสต์จะมาจากเชื้อพระวงศ์ของดาวิด และมาจากหมู่บ้านเบธเลเฮมมคา.5:2 ที่ดาวิดเคยอยู่นั้น”
  • 43 ดังนั้นฝูงชนจึงขัดแย้งกันในเรื่องพระองค์
  • 44 บางคนอยากจะจับพระองค์ แต่ไม่มีใครยื่นมือแตะต้องพระองค์เลย
  • 45 ความไม่เชื่อของบรรดาผู้มีอำนาจ พวกเจ้าหน้าที่กลับไปหาพวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกฟาริสี พวกเขาจึงถามเจ้าหน้าที่ว่า “ทำไมพวกเจ้าถึงไม่จับเขามา?”
  • 46 เจ้าหน้าที่ตอบว่า “ไม่เคยมีใครพูดเหมือนอย่างคนนั้นเลย”
  • 47 พวกฟาริสีตอบเขาว่า “พวกเจ้าโดนหลอกด้วยหรือ?
  • 48 มีใครบ้างในพวกผู้ใหญ่หรือพวกฟาริสีที่ศรัทธาในตัวเขา?
  • 49 ก็มีแต่ฝูงชนนี้ที่ไม่รู้ธรรมบัญญัติ พวกเขาต้องถูกสาปแช่ง”
  • 50 นิโคเดมัสคนที่มาหาพระองค์คราวก่อนยน.3:1-2 และเป็นคนหนึ่งในพวกเขานั้นกล่าวแก่เขาว่า
  • 51 “กฎหมายของเราเคยพิพากษาคนโดยที่ยังไม่ได้ฟังเขาหรือรู้ว่าเขาทำอะไรก่อนหรือ?”
  • 52 พวกเขาตอบนิโคเดมัสว่า “ท่านก็มาจากกาลิลีด้วยหรือ? ลองค้นดูเถิดแล้วท่านจะเห็นว่าไม่มีผู้เผยพระวจนะเกิดขึ้นจากกาลิลี”
  • 53 ผู้หญิงที่ถูกจับฐานล่วงประเวณี [แล้วต่างคนต่างก็กลับไปที่บ้านของตน
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页