1
การคร่ำครวญเนื่องจากบาปของอิสราเอล โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย จงฟังถ้อยคำนี้ ซึ่งข้าคร่ำครวญถึงเจ้าว่า
2
“อิสราเอลคือสาวพรหมจารีเธอล้มลงแล้ว ลุกขึ้นไม่ได้อีกเธอถูกทอดทิ้งที่แผ่นดินของเธอไม่มีใครพยุงเธอขึ้นอีก
3
“เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า‘เมืองที่ส่งทหารออกไปหนึ่งพันจะเหลือกลับมาหนึ่งร้อยและเมืองที่ส่งออกไปหนึ่งร้อยจะเหลือกลับมาสิบคน แก่พงศ์พันธุ์อิสราเอล’
4
“เพราะพระยาห์เวห์ตรัสกับพงศ์พันธุ์อิสราเอลดังนี้ว่า‘จงแสวงหาเราและดำรงชีวิตอยู่
5
อย่าแสวงหาเบธเอลอย่าเข้าไปในกิลกาลหรือข้ามไปยังเบเออร์เชบาเพราะว่ากิลกาลจะตกไปเป็นเชลยอย่างแน่นอนและเบธเอลก็จะสูญไป’ ”
6
จงแสวงหาพระยาห์เวห์และดำรงชีวิตอยู่เกรงว่าพระองค์จะทรงพุ่งปะทะพงศ์พันธุ์โยเซฟอย่างไฟไฟจะเผาผลาญเบธเอล และไม่มีใครดับได้
7
โอ เจ้าทั้งหลายผู้บิดเบือนความยุติธรรมและเหยียบย่ำความชอบธรรมบิดเบือน...ย่ำความชอบธรรม ภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า เปลี่ยนความยุติธรรมให้ขมอย่างบอระเพ็ด และเหวี่ยงความชอบธรรมลงสู่พื้นดิน
8
พระองค์ผู้ทรงสร้างดาวลูกไก่และดาวไถโยบ9:9; 38:31ผู้ทรงเปลี่ยนความมืดทึบให้เป็นรุ่งเช้าและทรงทำให้กลางวันมืดอย่างกลางคืนผู้ทรงเรียกน้ำทะเลมาและเทน้ำนั้นลงบนพื้นพิภพพระยาห์เวห์คือพระนามของพระองค์
9
ผู้ทรงทำให้ความพินาศแวบเข้าสู่ผู้แข็งแรงความพินาศจึงเข้าสู่ป้อมปราการ
10
เขาทั้งหลายเกลียดผู้ที่กล่าวเตือนที่ศาลศาล ในที่นี้ ข้อ 12 และ 15 ภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ประตูเมืองและเขาชังผู้ที่พูดความจริง
11
เพราะว่าพวกเจ้าเหยียบย่ำคนยากจนและรีดเอาส่วนแบ่งข้าวสาลีไปจากเขาเจ้าจึงสร้างบ้านด้วยศิลาสกัดแต่เจ้าจะไม่ได้อยู่ในตึกนั้นเจ้าทำสวนองุ่นที่ร่มรื่นแต่เจ้าจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้น
12
เพราะเรารู้ว่าการละเมิดของเจ้ามีเพียงไรและบาปของเจ้ามากมายสักเท่าใดเจ้าเป็นผู้ข่มเหงคนชอบธรรม เป็นผู้รับสินบนและขับไล่คนขัดสนออกไปจากศาล
13
เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญญาจะไม่พูดอะไรในเวลาเช่นนั้นเพราะเป็นเวลาชั่วร้าย
14
เจ้าทั้งหลายจงแสวงหาความดี อย่าแสวงหาความชั่วเพื่อเจ้าจะดำรงชีวิตอยู่ได้พระยาห์เวห์พระเจ้าจอมทัพจะสถิตกับเจ้าดังที่เจ้ากล่าวอ้าง
15
จงเกลียดความชั่ว และจงรักความดีและจงตั้งความยุติธรรมไว้ในศาลบางทีพระยาห์เวห์พระเจ้าจอมทัพอาจทรงพระกรุณาต่อพงศ์พันธุ์โยเซฟที่เหลืออยู่นั้น
16
เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์พระเจ้าจอมทัพ ผู้เป็นองค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า“ตามลานเมืองทุกแห่งจะมีการร่ำไห้และตามถนนทุกสายจะมีคนพูดว่า ‘อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย’เขาจะร้องเรียกชาวนาให้ไว้ทุกข์และให้ผู้ชำนาญเพลงโศกร้องโอดครวญ
17
ในสวนองุ่นทุกแห่งจะมีการร่ำไห้เพราะเราจะผ่านไปท่ามกลางเจ้า”พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ
18
วันแห่งพระยาห์เวห์เป็นวันมืด วิบัติแก่เจ้าผู้ปรารถนาวันแห่งพระยาห์เวห์เจ้าจะปรารถนาวันแห่งพระยาห์เวห์ไปทำไม?วันนั้นเป็นความมืด มิใช่ความสว่าง
19
อย่างกับคนหนีสิงห์ไปปะหมีหรือเหมือนคนเข้าไปในเรือนเอามือเท้าฝาผนังและงูก็กัดเอา
20
วันแห่งพระยาห์เวห์เป็นความมืด มิใช่ความสว่างเป็นความมืดครึ้ม มิใช่ความเจิดจ้าเลย
21
“เราเกลียด เราชังบรรดาวันเทศกาลเลี้ยงของเจ้าและเราไม่ชอบการประชุมตามพิธีของเจ้าเลย
22
แม้ว่าเจ้าถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและธัญบูชาแก่เราเราก็จะไม่ยอมรับสิ่งเหล่านั้นและเราจะไม่มองดูอสย.1:11-14ศานติบูชาที่เป็นสัตว์อ้วนพีของเจ้านั้น
23
จงนำเสียงเพลงของเจ้าไปจากเราเราจะไม่ฟังเสียงพิณใหญ่ของเจ้า
24
แต่จงให้ความยุติธรรมหลั่งไหลลงอย่างน้ำและให้ความชอบธรรมเป็นอย่างลำธารที่ไหลอยู่เป็นนิตย์
25
“โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้นำเครื่องบูชาถวายแก่เราในถิ่นทุรกันดาร 40 ปีหรือ?
26
เจ้าได้หามพระสัคคูทกษัตริย์ของเจ้า และพระไควันดาวที่เป็นพระของเจ้า รูปเคารพทั้งสองซึ่งเจ้าได้ทำไว้สำหรับตัวเจ้าเองไม่ใช่หรือ?
27
เพราะฉะนั้น เราจะนำเจ้าไปเป็นเชลย ณ ที่เลยเมืองดามัสกัสไป”กจ.7:42-43 พระยาห์เวห์ ผู้ทรงพระนามว่าพระเจ้าจอมทัพ ตรัสดังนี้แหละ