1
โยบยุติการโต้คารม แล้วโยบยกกลอนภาษิตของตนมากล่าวอีกว่า
2
“โอ ข้าอยากจะอยู่อย่างแต่เก่าก่อนอย่างในสมัยเมื่อพระเจ้าทรงพิทักษ์ข้า
3
เมื่อประทีปของพระองค์ส่องเหนือศีรษะข้าและข้าเดินฝ่าความมืดไปด้วยความสว่างของพระองค์
4
อย่างเมื่อครั้งข้ายังหนุ่มแน่นอยู่เมื่อพระเจ้าทรงปกป้องเต็นท์ของข้าไว้แปลตามฉบับกรีกและฉบับซีเรีย ส่วนฉบับฮีบรูว่า เมื่อมิตรภาพของพระเจ้าอยู่เหนือเต็นท์ของข้า
5
เมื่อองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ยังอยู่กับข้าและลูกหลานห้อมล้อมข้า
6
เมื่อเขาล้างย่างเท้าของข้าด้วยนมข้นและก้อนหินเทธารน้ำมันออกให้ข้าในข้อนี้เป็นภาพเปรียบเทียบถึงความมั่งคั่งของโยบ
7
เมื่อข้าออกมายังประตูเมืองเมื่อข้านั่งลงที่ลานเมือง
8
คนหนุ่มๆ เห็นข้าแล้วก็หลีกไปคนสูงอายุลุกขึ้นยืน
9
เจ้านายหยุดพูดเอามือปิดปากของตนไว้
10
เสียงของขุนนางก็สงบลงและลิ้นของเขาก็เกาะติดเพดานปาก
11
เมื่อหูได้ยินแล้ว ต่างก็เยินยอข้าและเมื่อตาเห็นแล้ว ก็ยกย่องข้า
12
เพราะข้าช่วยคนยากจนที่ร้องให้ช่วยและเด็กกำพร้าที่ไม่มีผู้ใดอุปถัมภ์
13
พรของคนที่กำลังจะตายก็มาถึงข้าและข้าทำให้จิตใจของหญิงม่ายร้องเพลงด้วยความชื่นบาน
14
ข้าสวมความชอบธรรม และมันก็ห่อหุ้มข้าไว้ความยุติธรรมของข้าเหมือนเสื้อคลุมและผ้าโพกศีรษะ
15
ข้าเป็นดวงตาให้คนตาบอดและเป็นเท้าให้คนง่อย
16
ข้าเป็นบิดาให้คนขัดสนและข้าเป็นธุระคดีความให้ผู้ที่ข้าไม่รู้จัก
17
ข้าหักเขี้ยวเล็บของคนที่ไม่ชอบธรรมและได้ดึงเอาเหยื่อจากฟันของเขา
18
แล้วข้าคิดว่า ‘ข้าจะตายในรังของข้าและข้าจะทวีวันเวลาของข้าอย่างทราย
19
รากของข้าจะแผ่ไปถึงน้ำมีน้ำค้างบนกิ่งของข้าตลอดคืน
20
ศักดิ์ศรีของข้าสดชื่นอยู่กับข้าและคันธนูของข้าใหม่เสมออยู่ในมือข้า’
21
“คนทั้งหลายฟังข้าและคอยอยู่และนิ่งเงียบอยู่ฟังคำปรึกษาของข้า
22
หลังจากที่ข้าพูดแล้ว เขาก็ไม่พูดอีกเลยและคำของข้าก็กลั่นลงมาเหนือเขา
23
เขาคอยข้าเหมือนคอยฝนเขาอ้าปากเหมือนรอรับน้ำฝนชุกปลายฤดู
24
ข้ายิ้มให้ เขาก็ไม่เชื่อและใบหน้ายิ้มแย้มของข้า เขามิได้คาดหวังว่าจะเห็น
25
ข้าเลือกทางให้เขา และนั่งเป็นหัวหน้าข้าอยู่อย่างกษัตริย์ท่ามกลางกองทหารอย่างผู้ปลอบโยนคนที่คร่ำครวญ