เอส‌เธอร์-9

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 ศัตรูของพวกยิวพินาศ ในวันที่สิบสามเดือนสิบสองคือเดือนอาดาร์ วันที่จะปฏิบัติตามพระบัญชาและกฤษฎีกาของกษัตริย์ ในวันนั้นเองที่ศัตรูของพวกยิวหวังจะมีอำนาจเหนือพวกยิว แต่กลับกลายเป็นวันที่พวกยิวได้มีอำนาจเหนือพวกที่เกลียดชังพวกเขา
  • 2 พวกยิวได้ชุมนุมกันตามเมืองต่างๆ ในทุกมณฑลของกษัตริย์อาหสุเอรัส เพื่อจะฆ่าบรรดาคนที่หาทางทำร้ายพวกเขา ไม่มีใครต่อต้านพวกเขาได้ เพราะความกลัวพวกยิวครอบงำชนทุกชาติ
  • 3 เจ้านายทั้งปวงของมณฑลและสมุหเทศาภิบาล และพวกข้าหลวงและเจ้าหน้าที่โครงการหลวง ก็ช่วยพวกยิวด้วย เพราะความกลัวโมรเดคัยครอบงำพวกเขา
  • 4 เพราะโมรเดคัยเป็นใหญ่อยู่ในพระราชวัง และชื่อเสียงของท่านเลื่องลือไปทั่วทุกมณฑล เพราะชายที่ชื่อโมรเดคัยนั้นมีอำนาจมากยิ่งขึ้นทุกที
  • 5 พวกยิวจึงโจมตีศัตรูทั้งหมดของตนด้วยดาบ ฆ่าและทำลาย และทำแก่ผู้ที่เกลียดชังพวกเขาตามใจชอบ
  • 6 ในสุสาเมืองป้อม พวกยิวได้ฆ่าและทำลายล้างเสีย 500 คน
  • 7 ได้ฆ่าปารชันดาธา ดาลโฟน อัสปาธา
  • 8 และโปราธา อาดัลยา อารีดาธา
  • 9 และปารมัชทา อารีสัย อารีดัยและไวซาธา
  • 10 คือพวกเขาได้ฆ่าบุตรชายทั้งสิบของฮามานบุตรฮัมเมดาธา ศัตรูของพวกยิว แต่ไม่ได้ปล้นข้าวของ
  • 11 ในวันนั้นจำนวนคนที่ถูกฆ่าในสุสาเมืองป้อมก็ถูกนำมาเสนอกษัตริย์
  • 12 กษัตริย์จึงตรัสกับพระราชินีเอสเธอร์ว่า “พวกยิวได้ฆ่าเสีย 500 คนในสุสาเมืองป้อม รวมทั้งบุตรชายทั้งสิบคนของฮามานด้วย ในมณฑลที่เหลืออยู่ของกษัตริย์ พวกเขาได้ทำอะไรกัน? บัดนี้เธอจะร้องขออะไร? เราจะให้เธอ คำทูลขอของเธอจะทูลขออะไรอีก? เราก็จะทำให้สำเร็จ”
  • 13 พระนางเอสเธอร์ทูลว่า “ถ้าเป็นที่พอพระทัยกษัตริย์ ในวันพรุ่งนี้ ขอให้พวกยิวที่อยู่ในสุสา ได้ทำตามกฤษฎีกาของวันนี้ และขอให้แขวนคอบุตรชายทั้งสิบของฮามานบนตะแลงแกง”
  • 14 กษัตริย์จึงทรงบัญชาให้ทำเช่นนั้น มีกฤษฎีกาออกในสุสา และพวกเขาแขวนคอบุตรทั้งสิบคนของฮามาน
  • 15 พวกยิวที่อยู่ในสุสาชุมนุมกันในวันที่สิบสี่ เดือนอาดาร์ด้วย และได้ฆ่า 300 คนในสุสา แต่พวกเขาไม่ได้ปล้นเอาข้าวของ
  • 16 ส่วนพวกยิวอื่นๆ ซึ่งอยู่ในมณฑลต่างๆ ของกษัตริย์ก็ชุมนุมกันเพื่อปกป้องชีวิตให้พ้นจากศัตรูภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ได้หยุดพักจากศัตรูของพวกเขา ดู ยชว.23:1;2 ซมอ.7:1,11 และฆ่าผู้ที่เกลียดชังพวกเขาเสีย75,000คน แต่ไม่ได้ปล้นข้าวของ
  • 17 เหตุนี้เกิดขึ้นในวันที่สิบสามเดือนอาดาร์ และในวันที่สิบสี่พวกเขาหยุดพัก และทำวันนั้นให้เป็นวันกินเลี้ยงและวันยินดี
  • 18 เริ่มต้นเทศกาลปูริม แต่พวกยิวที่อยู่ในสุสาชุมนุมกันในวันที่สิบสามและวันที่สิบสี่ และหยุดพักในวันที่สิบห้า ทำวันนั้นให้เป็นวันกินเลี้ยงและวันยินดี
  • 19 เพราะฉะนั้น พวกยิวในชนบทที่อยู่ตามเมืองรอบนอกได้ทำวันที่สิบสี่ของเดือนอาดาร์ให้เป็นวันยินดีและวันกินเลี้ยง และเป็นวันรื่นเริง และเป็นวันที่ส่งของขวัญไปให้กันและกัน
  • 20 และโมรเดคัยบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้และส่งจดหมายไปยังพวกยิวทั้งหมด ผู้อยู่ในมณฑลทั้งปวงของกษัตริย์อาหสุเอรัส ทั้งใกล้และไกล
  • 21 ชักชวนพวกเขาให้ถือวันที่สิบสี่เดือนอาดาร์ และวันที่สิบห้าเดือนเดียวกันทุกๆ ปี
  • 22 เป็นวันที่พวกยิวพ้นจากศัตรู และเป็นเดือนที่เปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นความยินดี และการคร่ำครวญเป็นวันรื่นเริงให้แก่พวกเขา และให้พวกเขาถือเป็นวันเลี้ยงฉลองและวันยินดี เป็นวันที่ส่งของขวัญแก่กันและกัน และให้ของขวัญแก่คนจน
  • 23 พวกยิวจึงตกลงทำตามที่พวกเขาเริ่มต้นไว้แล้ว และตามที่โมรเดคัยเขียนไปถึงพวกเขา
  • 24 เพราะฮามานบุตรฮัมเมดาธา คนอากัก ศัตรูของพวกยิวทั้งปวง ได้ปองร้ายต่อพวกยิวเพื่อทำลายพวกเขาและได้ทอดสลากอสธ.3:7 เพื่อล้างผลาญและทำลายพวกเขา
  • 25 แต่เมื่อพระนางเอสเธอร์เข้าเฝ้ากษัตริย์ พระองค์รับสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้แผนการร้ายซึ่งฮามานได้คิดต่อพวกยิวนั้นกลับตกลงบนศีรษะของเขาเอง และให้ตัวเขากับบุตรของเขาถูกแขวนบนตะแลงแกง
  • 26 เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงเรียกวันเหล่านี้ว่าปูริม ตามคำ “ปูร์” ดังนั้น เพราะทุกอย่างที่เขียนไว้ในจดหมายนี้ และเพราะสิ่งที่พวกยิวพบเห็นในเรื่องนี้ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา
  • 27 พวกยิวจึงกำหนดและสัญญาว่าตัวพวกเขาเอง เชื้อสายของพวกเขา และทุกคนที่เข้าจารีตยิวภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า และทุกคนที่เกี่ยวโยงกับพวกเขา จะถือสองวันนี้ดังที่บันทึกไว้ และตามวันเวลาที่กำหนดไว้ทุกปีไม่เว้นเลย
  • 28 และสัญญาว่าจะจดจำวันดังกล่าวนี้ และถือตลอดทุกชั่วอายุคน ทุกตระกูล ทุกมณฑลและทุกเมือง วันเทศกาลปูริมนี้จะไม่เลิกถือในท่ามกลางพวกยิว หรือการระลึกถึงวันเหล่านี้จะไม่สิ้นสุดไปในเชื้อสายของพวกเขาเลย
  • 29 แล้วพระราชินีเอสเธอร์บุตรหญิงของอาบีฮาอิล พร้อมกับโมรเดคัยคนยิว ได้เขียนรับรองจดหมายฉบับที่สองนี้เรื่องเทศกาลปูริมอย่างหนักแน่นภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ด้วยสิทธิอำนาจทั้งหมด
  • 30 โมรเดคัยก็ส่งจดหมายไปถึงยิวทั้งปวงใน 127 มณฑลของอาหสุเอรัสเป็นคำอวยพรให้อยู่เย็นเป็นสุขภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า คำแห่งสันติสุขและความจริง
  • 31 และให้ถือเทศกาลปูริมตามกำหนดเวลา ดังที่โมรเดคัยคนยิวและพระราชินีเอสเธอร์มีรับสั่งพวกยิว และตามที่พวกเขาตั้งไว้สำหรับตนเองและสำหรับเชื้อสายของพวกเขาเกี่ยวกับการอดอาหารและการคร่ำครวญของพวกเขา
  • 32 พระเสาวนีย์คำราชาศัพท์หมายถึง คำสั่งของพระราชินีของพระนางเอสเธอร์กำหนดระเบียบการของเทศกาลปูริมไว้ และมีบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页