เอส‌เธอร์-2

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 เอสเธอร์ได้เป็นพระราชินี ภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้ เมื่อพระพิโรธของกษัตริย์อาหสุเอรัสสงบลง พระองค์ทรงระลึกถึงวัชทีและสิ่งที่นางทำ อีกทั้งกฤษฎีกาที่พระองค์ทรงออกเกี่ยวกับเรื่องนาง
  • 2 ข้าราชการของกษัตริย์ผู้ปรนนิบัติพระองค์จึงทูลว่า “ขอทรงให้เสาะหาหญิงสาวพรหมจารีที่งดงามมาถวายกษัตริย์
  • 3 และขอกษัตริย์ทรงแต่งตั้งผู้แทนพระองค์ในทุกมณฑลแห่งราชอาณาจักรของพระองค์ ให้รวบรวมหญิงสาวพรหมจารีที่งดงามทุกคนมายังฮาเร็มในสุสาเมืองป้อม ให้อยู่ในอารักขาของเฮกัย ขันทีของกษัตริย์ผู้ดูแลสตรี และขอประทานเครื่องสำอางแปลได้อีกว่า น้ำมันขัดผิวแก่พวกนาง
  • 4 และขอให้หญิงสาวผู้ที่กษัตริย์พอพระทัย ได้เป็นพระราชินีแทนวัชที” คำทูลนี้พอพระทัยกษัตริย์ พระองค์จึงทรงทำตามนั้น
  • 5 ยังมียิวคนหนึ่งในสุสาเมืองป้อม ชื่อโมรเดคัย บุตรยาอีร์ ผู้เป็นบุตรชิเมอี ผู้เป็นบุตรคีช คนเบนยามิน
  • 6 คือคีช ผู้ถูกเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์บาบิโลนกวาดต้อนจากเยรูซาเล็มไปพร้อมกับเชลยและเยโคนิยาห์กษัตริย์ยูดาห์2 พกษ.24:10-16;2 พศด.36:10
  • 7 ท่านได้เลี้ยงดูฮาดาชาห์คือ เอสเธอร์ บุตรหญิงของลุงของท่านเพราะเธอไม่มีบิดามารดา หญิงสาวคนนี้รูปงามและชวนมอง เมื่อบิดามารดาของเธอสิ้นชีวิตแล้ว โมรเดคัยก็รับเธอมาเป็นบุตร
  • 8 เมื่อรับสั่งของกษัตริย์ และกฎหมายของพระองค์ประกาศออกไป หญิงสาวมากมายก็ถูกรวบรวมเข้ามายังสุสาเมืองป้อมในอารักขาของเฮกัย เอสเธอร์ก็ถูกนำเข้ามาไว้ในราชสำนัก อยู่ในอารักขาของเฮกัยผู้ดูแลสตรี
  • 9 หญิงนั้นเป็นที่พอใจและเป็นที่โปรดปรานแก่เขา เขาจึงรีบจัดเครื่องสำอางและอาหารส่วนที่เป็นของเธอ พร้อมกับสาวใช้ที่คัดเลือกแล้วเจ็ดคนจากราชสำนักให้เธอ แล้วก็ย้ายเธอและสาวใช้ของเธอไปยังสถานที่ที่ดีที่สุดในฮาเร็ม
  • 10 เอสเธอร์ไม่ได้เปิดเผยเรื่องชาติกำเนิดของเธอภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า ประชาชนของเธอและญาติของเธอ เพราะโมรเดคัยกำชับเธอไม่ให้บอกใคร
  • 11 ทุกๆ วันโมรเดคัยเดินไปเดินมาหน้าลานของฮาเร็ม เพื่อฟังข่าวคราวของเอสเธอร์ว่าเป็นอย่างไร และมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ
  • 12 เมื่อถึงเวร หญิงสาวทุกคนจะเข้าไปเฝ้ากษัตริย์อาหสุเอรัส หลังจากได้เตรียมตัวตามระเบียบของหญิงเป็นเวลาสิบสองเดือนแล้ว (และนี่เป็นเวลาปกติสำหรับประทินผิว คือชโลมกายด้วยน้ำมันกำยานหกเดือน และด้วยเครื่องเทศและเครื่องสำอางของผู้หญิงอีกหกเดือน)
  • 13 หญิงสาวจะเข้าเฝ้ากษัตริย์อย่างนี้คือ เธอต้องการจะเอาอะไรจากฮาเร็มไปยังพระราชวังก็เอาไปได้
  • 14 เธอเข้าไปเฝ้าเวลาเย็น และในเวลาเช้าเธอกลับไปยังฮาเร็มที่สองในอารักขาของชาอัชกาส ขันทีของกษัตริย์ผู้ดูแลนางห้าม เธอไม่ได้ไปเข้าเฝ้ากษัตริย์อีก นอกจากกษัตริย์จะพอพระทัยในเธอและทรงเรียกชื่อเธอให้เข้าเฝ้า
  • 15 เมื่อถึงเวรของเอสเธอร์บุตรหญิงของอาบีฮาอิล ผู้เป็นลุงของโมรเดคัยผู้ซึ่งรับเธอไว้เป็นบุตร จะเข้าเฝ้ากษัตริย์ เธอไม่ได้ขอสิ่งใด นอกจากสิ่งที่เฮกัยขันทีของกษัตริย์ผู้ดูแลสตรีแนะนำ เอสเธอร์เป็นที่โปรดปรานของทุกคนที่เห็นเธอ
  • 16 เขาได้พาเอสเธอร์เข้าไปเฝ้ากษัตริย์อาหสุเอรัสในพระราชสำนัก ในเดือนสิบซึ่งเป็นเดือนเทเบทเดือนที่สิบตามปฏิทินของคนอิสราเอล ประมาณกลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมกราคมในปีที่เจ็ดแห่งรัชกาลของพระองค์
  • 17 กษัตริย์ทรงรักเอสเธอร์ยิ่งกว่าหญิงอื่นทั้งสิ้น และเธอได้รับความโปรดปรานและพระกรุณาจากพระองค์มากกว่าหญิงพรหมจารีทั้งหมด พระองค์จึงทรงสวมมงกุฎบนศีรษะของเธอ และทรงตั้งเธอให้เป็นพระราชินีแทนวัชที
  • 18 แล้วกษัตริย์ประทานการเลี้ยงแก่เจ้านายและข้าราชการทั้งปวงของพระองค์ เป็นการเลี้ยงเพื่อให้เกียรติแก่พระนางเอสเธอร์ พระองค์ทรงอนุมัติให้มีวันหยุดพักแปลได้อีกว่า ทรงให้งดส่วยแก่มณฑลทั้งปวง และประทานของกำนัลด้วยพระทัยกว้างขวาง
  • 19 โมรเดคัยพบแผนปองร้ายกษัตริย์ เมื่อเขารวบรวมหญิงพรหมจารีมาครั้งที่สอง โมรเดคัยกำลังนั่งอยู่ที่ประตูพระราชวัง
  • 20 ส่วนพระนางเอสเธอร์นั้นไม่ได้ทรงให้ใครทราบถึงชาติกำเนิดของพระนางดูเชิงอรรถ อสธ.2:10ดังที่โมรเดคัยกำชับพระนางไว้ เพราะพระนางเอสเธอร์ทรงเชื่อฟังโมรเดคัยเหมือนเมื่อครั้งที่พระนางทรงอยู่ในความดูแลของท่าน
  • 21 ในครั้งนั้น เมื่อโมรเดคัยกำลังนั่งอยู่ที่ประตูพระราชวัง บิกธานและเทเรช ขันทีสองคนของกษัตริย์ ผู้เฝ้าธรณีประตูมีความโกรธและหาโอกาสลอบปลงพระชนม์กษัตริย์อาหสุเอรัส
  • 22 เรื่องนี้รู้ถึงโมรเดคัยและท่านก็ทูลพระราชินีเอสเธอร์ พระนางเอสเธอร์กราบทูลกษัตริย์ในนามของโมรเดคัย
  • 23 หลังจากสอบสวนเรื่องนี้ว่าเป็นความจริงแล้ว ก็ทรงให้แขวนคอสองคนนั้นเสียที่ตะแลงแกงที่สำหรับประหารนักโทษ และบันทึกเรื่องไว้ในหนังสือพงศาวดารเฉพาะพระพักตร์กษัตริย์
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页