2 พงศ์‍กษัตริย์-6

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 การอัศจรรย์ : หัวขวานลอยน้ำ พวกผู้เผยพระวจนะกล่าวกับเอลีชาว่า “ดูซิ สถานที่ที่พวกเราอยู่กับท่านนั้นก็เล็กเกินไป
  • 2 ขอให้พวกเราไปที่แม่น้ำจอร์แดน ต่างคนต่างเอาไม้ท่อนหนึ่งมาสร้างเป็นที่อาศัยที่นั่น” และท่านตอบว่า “ไปเถอะ”
  • 3 แล้วคนหนึ่งกล่าวว่า “ขอท่านโปรดไปกับผู้รับใช้ของท่านด้วย” และท่านก็ตอบว่า “เราจะไป”
  • 4 ท่านก็ไปกับเขาทั้งหลาย และเมื่อเขามาถึงแม่น้ำจอร์แดน เขาก็ตัดต้นไม้
  • 5 ขณะที่คนหนึ่งกำลังโค่นต้นไม้อยู่ หัวขวานของเขาตกลงไปในน้ำ และเขาร้องขึ้นว่า “แย่แล้ว นายข้า ขวานนั้นข้าขอยืมเขามา”
  • 6 แล้วคนของพระเจ้าถามว่า “ขวานนั้นตกที่ไหน?” เมื่อเขาชี้ที่ให้ท่านแล้ว ท่านก็ตัดไม้อันหนึ่งทิ้งลงไปที่นั่น ทำให้ขวานเหล็กนั้นลอยขึ้นมา
  • 7 และท่านบอกว่า “หยิบขึ้นมาซิ” เขาก็เอื้อมมือไปหยิบขึ้นมา
  • 8 คนซีเรียพ่ายแพ้เอลีชา พระราชาแห่งซีเรียรบกับอิสราเอล พระองค์ทรงปรึกษากับข้าราชการของพระองค์ว่า “เราจะตั้งค่ายของเราที่นั่น
  • 9 แต่คนของพระเจ้าส่งข่าวไปยังพระราชาแห่งอิสราเอลว่า ‘ขอพระองค์ทรงระวัง อย่าผ่านมาทางนั้น เพราะคนซีเรียกำลังยกลงไปที่นั่น’ ”
  • 10 และพระราชาแห่งอิสราเอลทรงใช้ให้ไปยังสถานที่ซึ่งคนของพระเจ้าบอก ท่านเคยเตือนพระองค์ดังนี้แหละ พระองค์จึงทรงระวังตัวได้ที่นั่นไม่ใช่เพียงครั้งสองครั้ง
  • 11 พระทัยของพระราชาแห่งซีเรียก็เดือดดาลเพราะเรื่องนี้ จึงทรงเรียกข้าราชการมาตรัสว่า “พวกท่านจะไม่บอกเราหรือว่า คนไหนในพวกเราที่อยู่ฝ่ายพระราชาแห่งอิสราเอล?”
  • 12 ข้าราชการคนหนึ่งของพระองค์ทูลว่า “ข้าแต่พระราชา เจ้านายของข้าพระบาท ไม่มีใคร พ่ะย่ะค่ะ แต่เอลีชาผู้เผยพระวจนะซึ่งอยู่ในอิสราเอล เขาได้ทูลถ้อยคำ ซึ่งพระองค์ตรัสในห้องบรรทมของพระองค์แก่พระราชาแห่งอิสราเอล”
  • 13 พระราชาแห่งซีเรียจึงตรัสว่า “จงไปหาดูว่าเขาอยู่ที่ไหน เพื่อเราจะใช้คนไปจับเขามา” มีคนทูลพระองค์ว่า “ดูสิ เขาอยู่ในโดธาน”
  • 14 พระองค์จึงทรงส่งม้า รถรบ และกองทัพใหญ่ไปที่นั่น พวกเขาไปกันในเวลากลางคืน และล้อมเมืองนั้นไว้
  • 15 เมื่อผู้รับใช้ของคนของพระเจ้าตื่นขึ้นเวลาเช้าตรู่ และออกไป นี่แน่ะ กองทัพพร้อมกับม้าและรถรบก็ล้อมเมืองไว้ และคนใช้นั้นบอกท่านว่า “แย่แล้ว นายข้า เราจะทำอย่างไรดี?”
  • 16 ท่านตอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา”
  • 17 แล้วเอลีชาก็อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงเปิดตาของเขาเพื่อเขาจะได้เห็น” และพระยาห์เวห์ทรงเปิดตาของชายหนุ่มคนนั้น และเขาก็มองและเห็นภูเขาเต็มไปด้วยม้า และรถรบเพลิงรอบเอลีชา
  • 18 และเมื่อคนซีเรียลงมารบกับท่าน เอลีชาก็อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า “ขอทรงให้คนเหล่านี้ตาบอด” พระองค์จึงทรงให้เขาทั้งหลายตาบอดไปตามคำอธิษฐานของเอลีชา
  • 19 และเอลีชาบอกคนเหล่านั้นว่า “ไม่ใช่ทางนี้ และไม่ใช่เมืองนี้ จงตามข้ามา และข้าจะพาไปยังคนนั้นซึ่งพวกท่านแสวงหา” และท่านก็พาเขาไปกรุงสะมาเรีย
  • 20 ต่อมาพอเข้าไปในกรุงสะมาเรีย เอลีชาก็ทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงเปิดตาของคนเหล่านี้เพื่อเขาจะเห็นได้” พระยาห์เวห์จึงทรงเปิดตาของพวกเขาและเขาก็เห็น และนี่แน่ะ เขามาอยู่กลางกรุงสะมาเรีย
  • 21 และเมื่อพระราชาแห่งอิสราเอลเห็นพวกเขา จึงตรัสแก่เอลีชาว่า “บิดาของเรา จะให้เราฆ่าเขาเสียหรือ? จะให้เราฆ่าเขาเสียหรือ?”
  • 22 ท่านทูลตอบว่า “ขอฝ่าพระบาทอย่าทรงประหารเขาเสีย ฝ่าพระบาทไม่ได้จับคนพวกนี้มาด้วยดาบ และธนู แล้วฝ่าพระบาทจะประหารพวกเขาหรือ? ขอทรงจัดอาหารและน้ำให้เขารับประทานและดื่ม แล้วปล่อยให้เขาไปหาเจ้านายของเขาเถิด”
  • 23 พระองค์จึงทรงจัดการเลี้ยงใหญ่ให้เขา และเมื่อเขาได้กินและดื่มแล้วก็ทรงปล่อยเขาไป และเขาทั้งหลายได้กลับไปหาเจ้านายของตน และพวกซีเรียไม่ได้มาปล้นในแผ่นดินอิสราเอลอีกเลย
  • 24 เบนฮาดัดล้อมกรุงสะมาเรีย ต่อมาภายหลัง เบนฮาดัดพระราชาแห่งซีเรียทรงจัดกองทัพทั้งสิ้นของพระองค์ แล้วได้เสด็จขึ้นไปล้อมกรุงสะมาเรีย
  • 25 มีการกันดารอาหารอย่างหนักในสะมาเรีย ขณะเมื่อเขาล้อมอยู่จนหัวลาตัวหนึ่งเขาขายกัน เป็นเงิน 80 เชเขลหนักประมาณ 920 กรัม และแห้วภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า มูลนกเขา น่าจะหมายถึงชื่อของพืชผักชนิดหนึ่งครึ่งลิตรเป็นเงิน 5 เชเขลหนักประมาณ 55 กรัม
  • 26 ขณะที่พระราชาแห่งอิสราเอลทรงผ่านไปบนกำแพง มีผู้หญิงคนหนึ่งร้องทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่พระราชา เจ้านายของข้าพระบาท ขอทรงช่วยเถิด”
  • 27 พระองค์ตรัสว่า “ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ทรงช่วยเจ้า เราจะเอาความช่วยเหลือจากที่ไหนมาให้เจ้า? จากลานนวดข้าวหรือจากบ่อย่ำองุ่นหรือ?”
  • 28 แต่พระราชาตรัสถามนางว่า “เจ้ามีเรื่องอะไร?” นางทูลตอบว่า “หญิงคนนี้บอกข้าพระบาทว่า ‘เอาลูกของเจ้ามาให้พวกเรากินวันนี้เถิด และพวกเราจะกินลูกของฉันวันพรุ่งนี้’
  • 29 เราจึงต้มลูกของข้าพระบาทและกินฉธบ.28:57 และรุ่งขึ้นข้าพระบาทก็พูดกับนางว่า ‘เอาลูกของเจ้ามา เพื่อพวกเราจะกินกัน และนางก็ซ่อนลูกของนางเสีย’ ”
  • 30 และเมื่อพระราชาทรงได้ยินถ้อยคำของหญิงนั้น พระองค์ก็ฉีกฉลองพระองค์คำราชาศัพท์หมายถึง เสื้อ (พระองค์กำลังทรงดำเนินอยู่บนกำแพง) ประชาชนก็มองและเห็นพระองค์ทรงฉลองพระองค์ผ้ากระสอบเป็นสัญลักษณ์ของการไว้ทุกข์อยู่แนบเนื้อ
  • 31 และพระองค์ตรัสว่า “ถ้าศีรษะของเอลีชาบุตรชาฟัทยังอยู่บนบ่าของเขาในวันนี้ ก็ขอพระเจ้าทรงลงโทษเราและยิ่งหนักกว่า”
  • 32 แต่เอลีชานั่งอยู่ในบ้านของท่าน และพวกผู้ใหญ่ก็นั่งอยู่ด้วย พระราชาทรงใช้คนจากราชสำนัก แต่ก่อนที่ผู้สื่อสารจะมาถึง เอลีชาก็พูดกับพวกผู้ใหญ่ว่า “ท่านทั้งหลายเห็นหรือไม่ว่า ฆาตกรคนนี้ใช้คนมาเอาศีรษะของเรา ดูสิ เมื่อผู้สื่อสารมา จงปิดประตู และยึดประตูให้แน่น กันเขาไว้ เสียงเท้าของนายของเขาตามเขามาไม่ใช่หรือ?”
  • 33 ขณะที่ท่านยังพูดกับเขาทั้งหลายอยู่ ดูสิ พระราชาเสด็จลงมาหาท่านและตรัสว่าฉบับฮีบรูว่า ผู้สื่อสารลงมาหาท่านและกล่าวว่า ในภาษาฮีบรู คำว่า ผู้สื่อสาร และคำว่า พระราชา นั้นออกเสียงคล้ายกัน นักวิชาการจึงเข้าใจว่า ในบริบทนี้น่าจะหมายถึง พระราชา มากกว่า “เหตุร้ายนี้มาจากพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะรอคอยพระยาห์เวห์อีกทำไม?”
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页