1 พงศ์‍กษัตริย์-1

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 ศึกชิงบัลลังก์ กษัตริย์ดาวิดมีพระชนมายุและทรงพระชรามากแล้ว แม้จะห่มผ้าให้หลายผืน พระองค์ก็ยังไม่อบอุ่น
  • 2 ดังนั้นบรรดาข้าราชการของพระองค์จึงกราบทูลว่า “โปรดให้คนไปเสาะหาหญิงสาวพรหมจารีมาถวายพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท และให้เธออยู่งานเฉพาะพระพักตร์ฝ่าพระบาท และดูแลฝ่าพระบาท ให้เธอนอนในพระทรวงของฝ่าพระบาท เพื่อพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทจะได้ทรงอบอุ่น”
  • 3 พวกเขาจึงเสาะหาสาวงามทั่วทั้งดินแดนอิสราเอล แล้วได้พบอาบีชากหญิงชาวชูเนม จึงได้นำเธอมาเฝ้าพระราชา
  • 4 หญิงสาวคนนั้นงามยิ่งนัก เธอได้เป็นผู้ดูแลพระราชาและอยู่ปรนนิบัติพระองค์ แต่พระราชาไม่ได้ทรงมีเพศสัมพันธ์กับเธอ
  • 5 ส่วนอาโดนียาห์2 ซมอ.3:4 พระราชโอรสของพระนางฮักกีทได้ยกตัวเองขึ้น กล่าวว่า “เราเองจะเป็นพระราชา” และท่านได้เตรียมรถรบและกองทหารม้า กับคนห้าสิบคนไว้วิ่งนำหน้าตนเอง
  • 6 พระราชบิดาของท่านก็ไม่เคยขัดใจท่านสักครั้งโดยถามว่า “ทำไมเจ้าทำเช่นนี้?” ท่านมีรูปร่างหน้าตาดีด้วย ท่านเกิดถัดจากอับซาโลม
  • 7 ท่านได้คบคิดกับโยอาบบุตรนางเศรุยาห์ และกับอาบียาธาร์ปุโรหิต เขาทั้งสองก็ติดตามและช่วยเหลืออาโดนียาห์
  • 8 แต่ศาโดกปุโรหิต เบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา นาธันผู้เผยพระวจนะ ชิเมอีและเรอี อีกทั้งพวกทหารเอกของดาวิดไม่ได้อยู่ฝ่ายอาโดนียาห์
  • 9 อาโดนียาห์ได้ฆ่าแกะ วัว และสัตว์อ้วนพีเป็นเครื่องบูชา ณ ศิลาแห่งโศเฮเลท ซึ่งอยู่ข้างๆ น้ำพุเอนโรเกล และท่านได้เชิญพี่น้องทั้งสิ้นของท่าน คือบรรดาพระราชโอรสของพระราชา และประชาชนทั้งสิ้นแห่งยูดาห์ ที่เป็นข้าราชการของพระราชา
  • 10 แต่ท่านไม่ได้เชิญนาธันผู้เผยพระวจนะ หรือเบไนยาห์หรือพวกทหารเอก หรือซาโลมอนพระอนุชาของท่าน
  • 11 แล้วนาธันก็ทูลพระนางบัทเชบาพระราชมารดาของซาโลมอน2 ซมอ.12:24ว่า “พระนางไม่ทรงสดับหรือว่า อาโดนียาห์พระราชโอรสของพระนางฮักกีททรงครองราชย์แล้ว และดาวิดเจ้านายของพวกข้าพระบาทก็ไม่ทรงทราบเรื่อง
  • 12 ดังนั้นโปรดให้ข้าพระบาทถวายคำปรึกษา เพื่อพระนางจะได้ทรงช่วยชีวิตของพระนางเอง และชีวิตของซาโลมอนพระราชโอรสของพระนาง
  • 13 ขอเสด็จเข้าเฝ้าพระราชาดาวิดทันที และกราบทูลพระองค์ว่า ‘พระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน ฝ่าพระบาทได้ทรงปฏิญาณกับสาวใช้ของฝ่าพระบาทว่า “ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะเป็นกษัตริย์ต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเราไม่ใช่หรือ?” แล้วทำไมอาโดนียาห์จึงเป็นกษัตริย์เล่า เพคะ?’
  • 14 นี่แน่ะ ขณะที่พระนางกราบทูลพระราชาอยู่ ข้าพระบาทจะตามเข้าไปเฝ้า และสนับสนุนถ้อยคำของพระนาง”
  • 15 แล้วพระนางบัทเชบา ก็เข้าไปเฝ้าพระราชาที่ห้องบรรทม (พระราชาทรงพระชรามาก และอาบีชากชาวชูเนมก็กำลังปรนนิบัติพระราชาอยู่)
  • 16 เมื่อพระนางบัทเชบากราบถวายบังคมพระราชาแล้ว พระราชาก็ตรัสถามว่า “เจ้าต้องการอะไร?”
  • 17 พระนางทูลพระองค์ว่า “เจ้านายของหม่อมฉัน ฝ่าพระบาทได้ทรงปฏิญาณในพระนามของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของฝ่าพระบาทต่อสาวใช้ของฝ่าพระบาทว่า ‘ซาโลมอนลูกของเจ้าจะเป็นกษัตริย์ต่อจากเราแน่นอน และเขาจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา’
  • 18 ดูสิ บัดนี้อาโดนียาห์ทรงครองราชย์แล้ว แม้แต่ฝ่าพระบาท คือพระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน ก็ไม่ทรงทราบ
  • 19 เขาหมายถึง อาโดนียาห์ได้ฆ่าวัว สัตว์อ้วนพี และแกะจำนวนมากเป็นเครื่องบูชา และได้เชิญบรรดาพระราชโอรสของพระราชากับอาบียาธาร์ปุโรหิต กับโยอาบผู้บัญชาการกองทัพ แต่ไม่ได้เชิญซาโลมอนผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท
  • 20 ฝ่าพระบาทคือพระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน บัดนี้อิสราเอลทั้งสิ้นก็เพ่งดูฝ่าพระบาท เพื่อฝ่าพระบาทจะตรัสแก่พวกเขาว่า จะทรงให้ใครนั่งบนบัลลังก์ของพระราชาเจ้านายของหม่อมฉันแทนฝ่าพระบาท
  • 21 มิฉะนั้นจะเป็นดังนี้คือ เมื่อพระราชาเจ้านายของหม่อมฉันล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์แล้ว หม่อมฉันและซาโลมอนลูกของหม่อมฉันก็จะถูกถือว่าเป็นฝ่ายผิด”
  • 22 ขณะที่พระนางกำลังกราบทูลพระราชาอยู่ นาธันผู้เผยพระวจนะก็เข้ามา
  • 23 เขาทั้งหลายจึงทูลพระราชาว่า “นี่คือนาธันผู้เผยพระวจนะ” เมื่อนาธันเข้ามาเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระราชา เขาก็ซบหน้าลงถึงดินถวายบังคมพระราชา
  • 24 และนาธันกราบทูลว่า “ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ฝ่าพระบาทรับสั่งไว้หรือว่า ‘อาโดนียาห์จะเป็นกษัตริย์ต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา?’
  • 25 เพราะวันนี้พระโอรสได้ลงไปฆ่าวัว สัตว์อ้วนพีและแกะจำนวนมากเป็นเครื่องบูชา และได้เชิญบรรดาพระราชโอรสของพระราชา ทั้งผู้บัญชาการกองทัพและอาบียาธาร์ปุโรหิต และดูสิ เขาทั้งหลายกำลังกินดื่มต่อหน้าท่าน และกล่าวว่า ‘ขอพระราชาอาโดนียาห์ทรงพระเจริญ’
  • 26 แต่ส่วนข้าพระบาทผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท และศาโดกปุโรหิตกับเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา และซาโลมอนผู้รับใช้ของฝ่าพระบาท ท่านไม่ได้เชิญ
  • 27 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทหรือ? และฝ่าพระบาทไม่ได้ตรัสแก่พวกผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทว่า จะทรงให้ใครนั่งบนบัลลังก์ของพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท ต่อจากฝ่าพระบาท”ซาโลมอนขึ้นครองราชย์
  • 28 (1 พศด.29:22ข-25) แล้วพระราชาดาวิดตรัสตอบว่า “จงเรียกบัทเชบามาหาเรา” พระนางก็เสด็จเข้ามาเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระราชา และทรงยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระราชา
  • 29 แล้วพระราชาทรงปฏิญาณว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงไถ่ชีวิตของเราจากความทุกข์ยากทั้งสิ้น ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด
  • 30 วันนี้เราก็จะทำอย่างที่ได้ปฏิญาณต่อเจ้า ในพระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลฉันนั้น คือว่า ‘ซาโลมอนลูกของเจ้าจะเป็นกษัตริย์ต่อจากเราแน่นอน และจะนั่งบนบัลลังก์ของเราแทนเรา’ เราจะทำอย่างนั้นวันนี้แหละ”
  • 31 แล้วพระนางบัทเชบาก็ซบพระพักตร์ลงถึงดิน ถวายบังคมพระราชา และทูลว่า “ขอพระราชาดาวิดเจ้านายของหม่อมฉันทรงพระเจริญเป็นนิตย์”
  • 32 พระราชาดาวิดมีรับสั่งว่า “จงเรียกศาโดกปุโรหิต และนาธันผู้เผยพระวจนะ กับเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดามาหาเรา” เขาทั้งหลายจึงเข้ามาเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระราชา
  • 33 และพระราชาตรัสสั่งเขาทั้งหลายว่า “จงพาข้าราชการของนายพวกเจ้า ไปจัดให้ซาโลมอนลูกของเราขึ้นขี่ล่อของเรา และนำเขาลงไปที่น้ำพุกีโฮน
  • 34 และให้ศาโดกปุโรหิตและนาธันผู้เผยพระวจนะเจิมตั้งเขาเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลที่นั่น แล้วท่านทั้งหลายจงเป่าเขาสัตว์ และประกาศว่า ‘ขอพระราชาซาโลมอนทรงพระเจริญ’
  • 35 แล้วท่านทั้งหลายจงติดตามเขาขึ้นมา และเขาจะมานั่งบนบัลลังก์ของเรา เพราะเขาจะเป็นกษัตริย์แทนเรา เราได้ตั้งเขาให้เป็นผู้ครอบครองเหนืออิสราเอลและยูดาห์”
  • 36 และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาได้กราบทูลตอบพระราชาว่า “อาเมน ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งพระราชา เจ้านายของข้าพระบาท ตรัสดังนั้นเทอญ
  • 37 พระยาห์เวห์สถิตกับพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทมาแล้วอย่างไร ก็ขอสถิตกับซาโลมอนอย่างนั้น และขอทรงทำให้บัลลังก์ของซาโลมอนใหญ่ยิ่งกว่าบัลลังก์ของพระราชาดาวิดเจ้านายของข้าพระบาท”
  • 38 ดังนั้นศาโดกปุโรหิต นาธันผู้เผยพระวจนะ และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา และคนเคเรธีกับคนเปเลท ได้ลงไปจัดให้ซาโลมอนประทับบนล่อทรงของพระราชาดาวิด และได้นำท่านมาถึงน้ำพุกีโฮน
  • 39 แล้วศาโดกปุโรหิตได้นำเขาสัตว์ที่บรรจุน้ำมันมาจากเต็นท์ของพระเจ้า และเจิมตั้งซาโลมอนไว้ และเขาทั้งหลายก็เป่าเขาสัตว์ และประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า “ขอพระราชาซาโลมอนทรงพระเจริญ”
  • 40 และประชาชนทั้งปวงก็ตามเสด็จขึ้นไป พร้อมกับเป่าขลุ่ยและเปรมปรีดิ์ยิ่งนัก จนแผ่นดินสะเทือนเพราะเสียงของเขาทั้งหลาย
  • 41 เมื่ออาโดนียาห์และบรรดาแขกที่อยู่กับท่านรับประทานเสร็จแล้ว ก็ได้ยินเสียงนั้น และเมื่อโยอาบได้ยินเสียงเขาสัตว์ ก็พูดว่า “ทำไมพระนครจึงมีเสียงอึกทึกครึกโครม?
  • 42 ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ นี่แน่ะ โยนาธานบุตรอาบียาธาร์ปุโรหิตก็มาถึง และอาโดนียาห์ก็กล่าวว่า “เข้ามาเถิด เพราะเจ้าเป็นคนดีแปลได้อีกว่า คนเก่งกล้า และคงนำข่าวดีมา”
  • 43 โยนาธานกราบเรียนอาโดนียาห์ว่า “ไม่ใช่ข่าวดี เพราะพระราชาดาวิดเจ้านายของพวกเราได้ทรงให้ซาโลมอนเป็นกษัตริย์
  • 44 และพระราชามีรับสั่งให้ศาโดกปุโรหิต นาธันผู้เผยพระวจนะ และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดากับคนเคเรธีและคนเปเลทตามซาโลมอนไป และเขาทั้งหลายก็จัดให้ซาโลมอนประทับบนล่อทรงของพระราชา
  • 45 และศาโดกปุโรหิตกับนาธันผู้เผยพระวจนะได้เจิมตั้งซาโลมอนเป็นกษัตริย์ ณ น้ำพุกีโฮน และเขาทั้งหลายก็ขึ้นมาจากที่นั่นด้วยความเปรมปรีดิ์ เพราะฉะนั้นในกรุงจึงอึกทึกครึกโครม นี่เป็นเสียงที่ท่านทั้งหลายได้ยิน
  • 46 นอกจากนี้ซาโลมอนได้ประทับบนพระราชบัลลังก์ด้วย
  • 47 และยิ่งกว่านั้นอีก พวกข้าราชการของพระราชาก็เข้าไปถวายพระพรแด่พระราชาดาวิดเจ้านายของพวกเราว่า ‘ขอพระเจ้าของฝ่าพระบาททรงทำให้พระนามของซาโลมอนเลื่องลือไปยิ่งกว่าพระนามของฝ่าพระบาท และขอทรงทำให้บัลลังก์ของซาโลมอนยิ่งใหญ่กว่าบัลลังก์ของฝ่าพระบาท’ แล้วพระราชาก็โน้มพระกายลงบนแท่นบรรทม
  • 48 และพระราชาก็ตรัสด้วยว่า ‘สาธุการแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล ผู้ประทานคนหนึ่งให้นั่งบนบัลลังก์ของเราในวันนี้ และตาของเราเองได้เห็นแล้ว’ ”
  • 49 แล้วแขกทั้งปวงของอาโดนียาห์ก็กลัวจนตัวสั่นและลุกขึ้น ต่างคนต่างไปตามทางของตน
  • 50 ส่วนอาโดนียาห์ก็กลัวซาโลมอน จึงลุกขึ้นไปจับเชิงงอนของแท่นบูชา
  • 51 มีคนไปกราบทูลซาโลมอนว่า “ดูสิ อาโดนียาห์กลัวพระราชาซาโลมอน เพราะนี่แน่ะ ท่านจับเชิงงอนที่แท่นบูชาอยู่ กล่าวว่า ‘ขอพระราชาซาโลมอนได้ปฏิญาณแก่ข้าพเจ้าก่อนว่า จะไม่ทรงประหารผู้รับใช้ของท่านด้วยดาบ’ ”
  • 52 และซาโลมอนตรัสว่า “ถ้าแม้เขาสำแดงตัวได้ว่าเป็นคนดี ผมสักเส้นเดียวของเขาจะไม่ตกลงยังพื้นดิน แต่ถ้าพบความอธรรมอยู่ในตัวเขา เขาจะต้องถึงแก่ความตาย”
  • 53 พระราชาซาโลมอนทรงใช้คนไปนำท่านลงมาจากแท่นบูชา และท่านก็มากราบลงต่อพระราชาซาโลมอน และซาโลมอนตรัสกับท่านว่า “จงกลับไปวังของท่านเถิด”
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页