2 ซา‌มู‌เอล-3

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 อับเนอร์หันไปฝักใฝ่ดาวิด มีสงครามระหว่างฝ่ายของซาอูลกับฝ่ายของดาวิดอยู่นาน และดาวิดก็เข้มแข็งยิ่งขึ้น ส่วนฝ่ายของซาอูลก็อ่อนกำลังลงทุกที
  • 2 มีพระราชโอรสหลายองค์ของดาวิดประสูติที่เมืองเฮโบรน พระราชโอรสหัวปีคืออัมโนน โอรสพระนางอาหิโนอัมชาวยิสเรเอล
  • 3 องค์ที่สองคือคิเลอาบ โอรสพระนางอาบีกายิลภรรยาม่ายของนาบาลชาวคารเมล และองค์ที่สามคืออับซาโลม โอรสพระนางมาอาคาห์พระราชธิดาของทัลมัยกษัตริย์เมืองเกชูร์
  • 4 องค์ที่สี่คืออาโดนียาห์ โอรสพระนางฮักกีท องค์ที่ห้าคือเชฟาทิยาห์ โอรสพระนางอาบีทัล
  • 5 และองค์ที่หกคืออิทเรอัม โอรสพระนางเอกลาห์พระมเหสีของดาวิด พระราชโอรสเหล่านี้ของดาวิดประสูติที่เมืองเฮโบรน
  • 6 ต่อมาเมื่อมีการต่อสู้ระหว่างฝ่ายของซาอูลกับฝ่ายของดาวิดนั้น อับเนอร์ได้ทำตัวให้มั่นคงขึ้นในฝ่ายของซาอูล
  • 7 ซาอูลนั้นมีนางสนมคนหนึ่งชื่อริสปาห์บุตรีของอัยยาห์ และอิชโบเชทจึงตรัสกับอับเนอร์ว่า “ทำไมท่านจึงเข้าหานางสนมของเสด็จพ่อของเรา?”
  • 8 อับเนอร์ก็โกรธมากเพราะถ้อยคำของอิชโบเชท จึงทูลว่า “ข้าพระบาทเป็นหัวสุนัขของยูดาห์หรือ? ทุกวันนี้ข้าพระบาทได้สำแดงความจงรักภักดีต่อพงศ์พันธุ์ของซาอูลเสด็จพ่อของฝ่าพระบาท และต่อพี่น้อง และต่อมิตรสหายของเสด็จพ่อของฝ่าพระบาท ไม่ได้มอบฝ่าพระบาทไว้ในมือของดาวิด วันนี้ฝ่าพระบาทยังกล่าวหาข้าพระบาทด้วยเรื่องผู้หญิงคนนี้
  • 9 ขอพระเจ้าทรงลงโทษอับเนอร์และขอทรงเพิ่มโทษนั้น ถ้าข้าพระบาทจะไม่ทำเพื่อดาวิดดังที่พระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณไว้ต่อท่านแล้ว
  • 10 คือข้าพระบาทจะย้ายราชอาณาจักรจากพงศ์พันธุ์ของซาอูล1 ซมอ.15:28 และสถาปนาบัลลังก์ของดาวิดเหนืออิสราเอลและเหนือยูดาห์ ตั้งแต่ดานถึงเบเออร์เชบา”
  • 11 และอิชโบเชทก็ไม่ทรงสามารถตอบกลับอับเนอร์แม้แต่คำเดียว เพราะพระองค์ทรงกลัวอับเนอร์
  • 12 อับเนอร์ก็ส่งพวกผู้สื่อสารแทนตนไปยังดาวิดทูลว่า “แผ่นดินนี้เป็นของใคร?” และทูลอีกว่า “ขอทรงทำพันธสัญญากับข้าพระบาท และดูเถิด มือของข้าพระบาทจะอยู่ฝ่ายฝ่าพระบาทเพื่อนำอิสราเอลทั้งสิ้นหันกลับมาอยู่ฝ่ายฝ่าพระบาท”
  • 13 ดาวิดตรัสว่า “ดีแล้ว เราจะทำพันธสัญญากับท่าน แต่เราขอจากท่านสักอย่างหนึ่งคือว่า ท่านอย่ามาพบเรา เว้นแต่ว่าท่านนำมีคาลราชธิดาของซาอูลมาด้วยเมื่อท่านมาพบเรา”
  • 14 แล้วดาวิดก็ส่งพวกผู้สื่อสารไปยังอิชโบเชทราชโอรสของซาอูลว่า “จงมอบมีคาลภรรยาของข้าพเจ้าแก่ข้าพเจ้า ผู้ซึ่งข้าพเจ้าหมั้นไว้ด้วยหนังปลายองคชาตของพวกฟีลิสเตียหนึ่งร้อยชิ้น”1 ซมอ.18:27
  • 15 อิชโบเชทจึงทรงส่งคนไปพามีคาลมาจากสามีของเธอ คือปัลทีเอลบุตรชายของลาอิช
  • 16 แต่สามีของเธอก็เดินไปกับเธอ ร้องไห้ตามเธอไปจนถึงตำบลบาฮูริม แล้วอับเนอร์จึงบอกเขาว่า “จงกลับไป” และเขาก็กลับไป
  • 17 อับเนอร์จึงปรึกษากับพวกผู้ใหญ่ของอิสราเอลว่า “ก่อนหน้านี้พวกท่านปรารถนาให้ดาวิดเป็นกษัตริย์เหนือพวกท่าน
  • 18 บัดนี้จงทำดังนั้น เพราะพระยาห์เวห์ตรัสกับดาวิดว่า ‘เราจะช่วยกู้อิสราเอลประชากรของเราด้วยมือของดาวิดผู้รับใช้ของเรา จากมือของพวกฟีลิสเตีย และจากมือศัตรูทั้งสิ้นของพวกเขา’ ”
  • 19 อับเนอร์ก็พูดกับคนเบนยามินด้วย และอับเนอร์ก็ไปทูลดาวิด ที่เมืองเฮโบรนถึงทุกสิ่งที่อิสราเอลและพงศ์พันธุ์ทั้งสิ้นของเบนยามินเห็นดีที่จะทำ
  • 20 อับเนอร์จึงมาเฝ้าดาวิดที่เมืองเฮโบรนพร้อมกับคนอีก 20 คน ดาวิดทรงจัดการเลี้ยงอับเนอร์กับคนที่อยู่กับท่าน
  • 21 และอับเนอร์ทูลดาวิดว่า “ข้าพระบาทจะลุกขึ้นกลับไป และจะรวบรวมคนอิสราเอลทั้งสิ้นมายังพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท เพื่อพวกเขาจะทำพันธสัญญากับฝ่าพระบาท และเพื่อฝ่าพระบาทจะทรงครอบครองทั้งหมดตามชอบพระทัยของฝ่าพระบาท” ดาวิดก็ทรงส่งอับเนอร์กลับไป และเขาก็ไปโดยสวัสดิภาพ
  • 22 โยอาบฆ่าอับเนอร์ ขณะนั้นทหารของดาวิดกับโยอาบกลับมาจากการไปปล้น และนำสิ่งของที่ยึดได้มากมายมาด้วย แต่อับเนอร์ไม่ได้อยู่กับดาวิดที่เฮโบรนแล้ว เพราะพระองค์ทรงส่งท่านกลับไป และท่านก็ไปโดยสวัสดิภาพ
  • 23 เมื่อโยอาบกับกองทัพทั้งสิ้นที่อยู่กับท่านมาถึง ก็มีคนบอกโยอาบว่า “อับเนอร์บุตรเนอร์มาเฝ้าพระราชา และพระองค์ทรงส่งเขากลับไป เขาก็กลับไปโดยสวัสดิภาพ”
  • 24 แล้วโยอาบเข้าไปเฝ้าพระราชาทูลว่า “ฝ่าพระบาททรงทำอะไร? ดูเถิด อับเนอร์มาเฝ้าฝ่าพระบาท ทำไมฝ่าพระบาททรงส่งเขาไปอย่างนี้? เขาก็หนีไปแล้วจริงๆ
  • 25 ฝ่าพระบาททรงทราบแล้วว่าอับเนอร์บุตรเนอร์มาเพื่อล่อลวงฝ่าพระบาท และเพื่อทราบถึงการเสด็จเข้าออกของฝ่าพระบาท และเพื่อทราบทุกสิ่งทุกอย่างที่ฝ่าพระบาททรงทำ”
  • 26 เมื่อโยอาบออกมาจากการเข้าเฝ้าดาวิด จึงส่งพวกผู้สื่อสารไปตามอับเนอร์ พวกเขาก็นำท่านกลับมาจากที่ขังน้ำชื่อสีราห์ แต่ดาวิดไม่ทรงทราบ
  • 27 และเมื่ออับเนอร์กลับมาถึงเฮโบรนแล้ว โยอาบก็พาท่านหลบเข้าไปที่กลางประตูเมืองเพื่อจะพูดกับท่านตามลำพัง และโยอาบแทงท้องของท่านเสียที่นั่น ท่านก็ตาย โยอาบแก้แค้นโลหิตของอาสาเฮลน้องชายของตน
  • 28 ภายหลังเมื่อดาวิดทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์ตรัสว่า “ตัวเราและราชอาณาจักรของเรา ปราศจากความผิดสืบไปเป็นนิตย์เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ด้วยเรื่องโลหิตของอับเนอร์บุตรเนอร์
  • 29 ขอให้โลหิตนั้นตกเหนือศีรษะของโยอาบ และเหนือพงศ์พันธุ์ทั้งสิ้นของบิดาเขา ขออย่าให้คนที่มีสิ่งไหลออก คนที่เป็นโรคเรื้อน คนพิการภาษาฮีบรูแปลตรงตัวว่า คนที่ต้องเดินโดยใช้ไม้เท้า คนที่ถูกประหารด้วยดาบ หรือคนขาดอาหาร ขาดจากพงศ์พันธุ์ของโยอาบ”
  • 30 ดังนี้โยอาบกับอาบีชัยน้องชายของเขาได้ฆ่าอับเนอร์ เพราะอับเนอร์ได้ฆ่าอาสาเฮลน้องชายของพวกเขาในการรบที่กิเบโอน
  • 31 แล้วดาวิดก็ตรัสกับโยอาบ และประชาชนทุกคนที่อยู่กับโยอาบว่า “จงฉีกเสื้อผ้าของพวกท่าน และเอาผ้ากระสอบคาดเอวไว้และจงไว้ทุกข์ให้อับเนอร์” และพระราชาดาวิดเสด็จตามโลงศพอับเนอร์ไป
  • 32 พวกเขาก็ฝังศพอับเนอร์ไว้ที่เฮโบรน และพระราชาทรงกันแสงเสียงดัง ณ ที่ฝังศพของอับเนอร์ และประชาชนทั้งปวงก็ร้องไห้
  • 33 และพระราชาทรงคร่ำครวญด้วยเรื่องอับเนอร์ว่า“ควรหรือที่อับเนอร์จะตายอย่างคนเขลา?
  • 34 มือของท่านก็ไม่ได้ถูกมัดเท้าของท่านก็ไม่ได้ติดตรวนท่านล้มลงเหมือนอย่างคนล้มลงต่อหน้าคนชั่วร้าย”และประชาชนทั้งปวงก็ร้องไห้ถึงอับเนอร์อีก
  • 35 แล้วประชาชนทั้งปวงก็มาทูลให้ดาวิดเสวยอาหารเมื่อเวลายังวันอยู่ แต่ดาวิดทรงปฏิญาณว่า “ถ้าเราลิ้มรสขนมปังหรือสิ่งอื่นก่อนดวงอาทิตย์ตก ขอพระเจ้าทรงทำโทษเราและทรงเพิ่มโทษนั้น”
  • 36 ประชาชนทั้งปวงสังเกตเห็นเช่นนั้นก็พอใจ ดังที่ประชาชนพอใจทุกสิ่งที่พระราชาทรงทำ
  • 37 ประชาชนทั้งสิ้นและอิสราเอลทั้งปวงจึงรู้ในวันนั้นว่า พระราชาไม่มีส่วนในการฆ่าอับเนอร์บุตรเนอร์
  • 38 พระราชาตรัสกับพวกมหาดเล็กของพระองค์ว่า “พวกท่านไม่ทราบหรือว่า วันนี้เจ้านายและคนที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งล้มลงในอิสราเอล?
  • 39 แม้เราได้รับการเจิมเป็นกษัตริย์แล้ว เราก็อ่อนกำลังในวันนี้ ชายเหล่านี้ซึ่งเป็นบุตรของนางเศรุยาห์แข็งกร้าวเกินไปสำหรับเรา ขอพระยาห์เวห์ทรงตอบสนองผู้ทำชั่วตามความชั่วของเขาเถิด”
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页