2 ซา‌มู‌เอล-15

(ฉบับมาตรฐาน 2011)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 อับซาโลมกบฏต่อดาวิด ต่อมาภายหลัง อับซาโลมจัดรถรบและม้ากับทหารวิ่งนำหน้า 50 คนให้ตนเอง
  • 2 อับซาโลมตื่นบรรทมแต่เช้าตรู่ ทรงยืนริมทางเข้าประตูเมือง ถ้าใครมีเรื่องถวายพระราชาให้ทรงตัดสิน อับซาโลมก็เรียกผู้นั้น ถามว่า “เจ้ามาจากเมืองไหน?” และเมื่อเขาทูลตอบว่า “ผู้รับใช้ของท่านเป็นคนเผ่าหนึ่งในอิสราเอล”
  • 3 อับซาโลมจะบอกเขาว่า “ดูสิ คำร้องของเจ้าก็ดีและถูกต้อง แต่พระราชาไม่ได้ทรงตั้งใครไว้ฟังเจ้า”
  • 4 อับซาโลมเคยกล่าวยิ่งกว่านั้นว่า “เออ ถ้าใครตั้งข้าเป็นผู้พิพากษาในแผ่นดินนี้ก็จะดี เมื่อใครมีข้อขัดแย้งหรือต้องการคำตัดสินจะได้มาหาข้า และข้าจะให้ความยุติธรรมแก่เขา”
  • 5 เมื่อมีใครเข้ามาใกล้จะย่อตัวลงคำนับท่าน ท่านจะยื่นมือพยุงคนนั้นไว้และจูบเขา
  • 6 อับซาโลมทำอย่างนี้แก่คนอิสราเอลทั้งหมด ที่มาเฝ้าพระราชาเพื่อขอการพิพากษา อับซาโลมก็ชนะใจบรรดาคนอิสราเอล
  • 7 เมื่อล่วงมาได้ 4 ปีแปลตามฉบับกรีก ฉบับซีเรีย และฉบับลาติน ส่วนฉบับฮีบรูว่า 40 ปี อับซาโลมทูลพระราชาว่า “ขอทรงอนุญาตให้ข้าพระบาทไปแก้บน ซึ่งข้าพระบาทได้บนไว้ต่อพระยาห์เวห์ที่เมืองเฮโบรน
  • 8 เพราะว่าผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้บนไว้ เมื่อครั้งยังอยู่ในเมืองเกชูร์ประเทศซีเรียว่า ‘ถ้าพระยาห์เวห์ทรงนำข้าพระองค์กลับมายังกรุงเยรูซาเล็มจริงแล้ว ข้าพระองค์จะถวายนมัสการพระยาห์เวห์’ ”
  • 9 พระราชาตรัสตอบท่านว่า “จงไปเป็นสุขเถิด” ท่านก็ลุกขึ้นไปยังเมืองเฮโบรน
  • 10 แต่อับซาโลมได้ส่งผู้สื่อสารลับไปทั่วอิสราเอลทุกเผ่าว่า “พวกท่านได้ยินเสียงเขาสัตว์เมื่อไร จงกล่าวกันว่า ‘อับซาโลมเป็นกษัตริย์ที่เฮโบรน’ ”
  • 11 มีชาย 200 คนไปกับอับซาโลมจากกรุงเยรูซาเล็ม เป็นคนที่ถูกเชิญไป คนเหล่านี้ไปอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่รู้เรื่องทั้งสิ้นเลย
  • 12 ขณะเมื่ออับซาโลมถวายสัตวบูชาอยู่ ท่านส่งคนไปเชิญอาหิโธเฟลชาวกิโลห์ที่ปรึกษาของดาวิดมาจากเมืองของเขา คือกิโลห์ การคบคิดกันนั้นก็เพิ่มกำลังขึ้น คนที่มาฝักใฝ่อยู่กับอับซาโลมก็มากขึ้น
  • 13 ดาวิดหนีจากเยรูซาเล็ม ผู้สื่อสารคนหนึ่งมาเฝ้าดาวิด ทูลให้ทรงทราบว่า “ใจของคนอิสราเอลคล้อยตามอับซาโลมไปแล้ว”
  • 14 แล้วดาวิดรับสั่งแก่บรรดาข้าราชการที่อยู่กับพระองค์ ณ เยรูซาเล็มว่า “จงลุกขึ้น ให้เราหนีไปเถอะ มิฉะนั้นเราจะไม่มีทางหนีจากอับซาโลม จงรีบไป เกรงว่าเขาจะรีบมาและตามเราทันและนำเหตุร้ายมาถึงเรา และทำลายกรุงนี้เสียด้วยคมดาบ”
  • 15 ข้าราชการของพระราชาจึงกราบทูลพระราชาว่า “ดูเถิด บรรดาผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทพร้อมจะทำตามสิ่งซึ่งพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทตัดสินพระทัยทุกประการ”
  • 16 พระราชาก็เสด็จออกไปพร้อมกับคนทั้งหมดในราชสำนักของพระองค์ เว้นแต่นางสนม 10 คน ได้ทรงละไว้ให้เฝ้าพระราชวัง
  • 17 พระราชาก็เสด็จออกไป ทหารทั้งสิ้นก็ตามพระองค์ไป และเสด็จประทับที่บ้านที่ห่างไกลออกไป
  • 18 บรรดาข้าราชการทั้งสิ้นเดินผ่านด้านข้างพระองค์ไป บรรดาคนเคเรธีและคนเปเลทกับคนกัท 600 คนที่ติดตามพระองค์มาจากเมืองกัท เดินผ่านนำหน้าพระราชาไป
  • 19 พระราชาจึงตรัสสั่งอิททัยคนกัทว่า “ทำไมเจ้าจะไปกับพวกเราด้วย? จงกลับไปอยู่กับพระราชา เพราะเจ้าเป็นคนต่างด้าว และถูกเนรเทศมาด้วย เจ้าจงกลับไปบ้านเมืองของเจ้าเถิด
  • 20 เจ้าเพิ่งมาถึงเมื่อวานนี้ และวันนี้ควรที่เราจะให้เจ้าไปๆ มาๆ กับพวกเราหรือ? ด้วยเราไม่ทราบว่าจะไปที่ไหน? จงกลับไปเถิด พาพวกพี่น้องของเจ้ากลับไปด้วย ขอความรักมั่นคงและความสัตย์จริงจงอยู่กับเจ้าเถิด”
  • 21 แต่อิททัยทูลตอบพระราชาว่า “พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด และพระราชาเจ้านายของข้าพระบาททรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด พระราชาเจ้านายของข้าพระบาทเสด็จประทับที่ไหน จะสิ้นพระชนม์หรือทรงพระชนม์ ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทขอไปอยู่ที่นั้นด้วย”
  • 22 ดาวิดก็รับสั่งกับอิททัยว่า “จงไปและเดินผ่านไปเถิด” อิททัยชาวเมืองกัทจึงผ่านไปพร้อมกับบรรดาผู้ใหญ่และเด็กทั้งหมด
  • 23 เมื่อทหารทั้งหมดเดินผ่านไป ชาวเมืองทั้งหมดก็ร้องไห้เสียงดัง พระราชาก็เสด็จข้ามลำธารขิดโรน และทหารทั้งหมดก็เดินผ่านไปยังถิ่นทุรกันดาร
  • 24 และนี่แน่ะ ศาโดกก็มาด้วยพร้อมกับคนเลวีทั้งสิ้น หามหีบพันธสัญญาของพระเจ้ามา และพวกเขาวางหีบของพระเจ้าลง จนประชาชนผ่านออกจากเมืองไปหมด และอาบียาธาร์ก็ขึ้นมาด้วย
  • 25 แล้วพระราชาตรัสสั่งศาโดกว่า “จงหามหีบของพระเจ้ากลับเข้าไปในเมืองเถิด หากว่าพระยาห์เวห์ทรงโปรดปรานเรา พระองค์จะทรงนำเรากลับ และให้เราเห็นทั้งหีบนั้นกับที่ประทับของพระองค์ด้วย
  • 26 แต่ถ้าพระองค์ตรัสว่า ‘เราไม่พอใจเจ้า’ ดูเถิด เราอยู่ที่นี่ ขอพระองค์ทรงทำกับเราตามที่พระองค์ทรงเห็นชอบเถิด”
  • 27 พระองค์ตรัสกับศาโดกปุโรหิตด้วยว่า “ท่านเป็นผู้ทำนายแปลได้อีกว่า ท่านเห็นไหม?ไม่ใช่หรือ? จงกลับเข้าไปในเมืองโดยสวัสดิภาพพร้อมกับบุตรชายทั้งสองของพวกท่านคืออาหิมาอัสบุตรของท่าน และโยนาธานบุตรของอาบียาธาร์
  • 28 นี่แน่ะ เราจะคอยอยู่ที่ท่าข้ามไปถิ่นทุรกันดาร จนจะมีข่าวมาจากพวกท่านให้เราทราบ”
  • 29 ศาโดกกับอาบียาธาร์จึงหามหีบของพระเจ้ากลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มและพักอยู่ที่นั่น
  • 30 ดาวิดเสด็จขึ้นไปตามทางขึ้นภูเขามะกอกเทศ เสด็จพลางทรงกันแสงพลาง มีผ้าคลุมพระเศียร เสด็จโดยพระบาทเปล่า และทหารทั้งหมดที่อยู่กับพระองค์ก็เอาผ้าคลุมศีรษะเดินไปพลางร้องไห้พลาง
  • 31 มีคนทูลดาวิดให้ทรงทราบว่า “อาหิโธเฟลอยู่ในพวกคิดกบฏของอับซาโลมด้วย” ดาวิดกราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงให้คำปรึกษาของอาหิโธเฟลโง่เขลาไป”
  • 32 หุชัยเป็นสายลับให้ดาวิด ต่อมาเมื่อดาวิดมาถึงยอดเขาซึ่งเป็นที่นมัสการพระเจ้า นี่แน่ะ หุชัยตระกูลอารคีเข้ามาเฝ้า มีเสื้อผ้าฉีกขาดและดินอยู่บนศีรษะ
  • 33 ดาวิดตรัสกับเขาว่า “ถ้าเจ้าข้ามไปกับเรา เจ้าจะเป็นภาระแก่เรา
  • 34 แต่ถ้าเจ้ากลับเข้าไปในเมือง และกล่าวกับอับซาโลมว่า ‘ข้าแต่พระราชา ข้าพระบาทขอถวายตัวเป็นข้าของฝ่าพระบาท ดังที่ข้าพระบาทเป็นข้าของพระราชบิดาของฝ่าพระบาทมาแต่กาลก่อนฉันใด ข้าพระบาทขอเป็นข้าของฝ่าพระบาทฉันนั้น’ แล้วเจ้าจะทำให้คำปรึกษาของอาหิโธเฟลพ่ายแพ้ไปเพื่อเรา
  • 35 ศาโดกกับอาบียาธาร์พวกปุโรหิตก็อยู่กับเจ้าที่นั่นไม่ใช่หรือ? ทุกสิ่งที่เจ้าได้ยินในพระราชวัง จงบอกให้ศาโดกกับอาบียาธาร์พวกปุโรหิตทราบ
  • 36 ดูเถิด บุตรสองคนของเขาก็อยู่ด้วย คืออาหิมาอัสบุตรศาโดก และโยนาธานบุตรอาบียาธาร์ พวกท่านจงใช้เขามาบอกเราทุกเรื่องที่ท่านได้ยิน”
  • 37 หุชัยสหายของดาวิดจึงกลับเข้าไปในเมือง พอดีกับอับซาโลมกำลังเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页