1 ซา‌มู‌เอล-25

(พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971)

切换到福音影视网-新版圣经

  • 1 ดาวิดและนางอาบีกายิล ฝ่ายซามูเอลก็สิ้นชีวิตและคนอิสราเอลทั้งปวงก็ ประชุมกันไว้ทุกข์ให้ท่าน และเขาทั้งหลายก็ฝังศพท่านไว้ในบ้านของท่านที่รามาห์และดาวิดก็ลุกขึ้นไปยังถิ่นทุรกันดารปาราน
  • 2 มีชายคนหนึ่งในมาโอนมีการงานอยู่ในคารเมล ชายผู้นั้นมั่งมีมาก มีแกะสามพันและแพะหนึ่งพัน เขาตัดขนแกะของเขาอยู่ที่คารเมล
  • 3 ชายคนนั้นชื่อนาบาล และภรรยาของท่านชื่ออาบีกายิล สตรีคนนั้นมีความรอบคอบและหน้าตาสวยงามด้วย แต่ชายคนนั้นเป็นคนสามานย์และประพฤติตัวเลวทราม เป็นวงศ์วานของคาเลบ
  • 4 ดาวิดอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ทราบว่านาบาลกำลังตัดขนแกะของเขาอยู่
  • 5 ดาวิดจึงใช้ชายหนุ่มสิบคน และดาวิดสั่งชายหนุ่มเหล่านั้นว่า “จงขึ้นไปที่คารเมลไปหานาบาล และคำนับเขาในนามของเรา
  • 6 ท่านทั้งหลายจงกล่าวคำคำนับเขาเช่นนี้ว่า ‘สวัสดิภาพจงมีแก่ท่าน สวัสดิภาพจงมีแก่ครอบครัวของท่าน และสวัสดิภาพจงมีแก่บรรดาสิ่งที่ท่านมี
  • 7 ข้าพเจ้าได้ยินว่าท่านมีคนตัดขนแกะ ฝ่ายผู้เลี้ยงแกะของท่านนั้นอยู่กับเรา เรามิได้กระทำอันตรายเขาเลย และเขาก็มิได้ขาดอะไรไปตลอดเวลาที่เขาอยู่ในคารเมล
  • 8 ขอถามคนหนุ่มของท่านดูเถิด เขาทั้งหลายคงจะบอกแก่ท่าน เพราะฉะนั้นขอให้คนหนุ่มของ ข้าพเจ้าได้รับความกรุณาในสายตาของท่าน เพราะเรามาในวันมีการเลี้ยง ขอท่านได้ให้สิ่งที่มีติดมือของท่านแก่พวกผู้รับใช้ของ ท่านและแก่ดาวิดบุตรของท่าน’ ”
  • 9 เมื่อพวกคนหนุ่มของดาวิด มาถึงก็กล่าวคำเหล่านั้นแก่นาบาลในนามของดาวิด และเขาทั้งหลายก็คอยอยู่
  • 10 และนาบาลตอบคนรับใช้ของดาวิดว่า “ดาวิดคือผู้ใด บุตรของเจสซีคือผู้ใด สมัยนี้มีคนใช้เป็นอันมากที่หนีไปจากนายของตน
  • 11 ควรหรือที่ข้าจะนำขนมปังของข้า และน้ำของข้า และเนื้อของข้า ซึ่งข้าได้ฆ่าเสียสำหรับคนตัดขน แกะของข้ามอบให้แก่คนซึ่งมาจากที่ไหนข้าก็ไม่รู้”
  • 12 พวกคนหนุ่มของดาวิดก็หันกลับ และมาบอกเรื่องราวทั้งสิ้นนี้แก่ดาวิด
  • 13 และดาวิดสั่งคนของท่านว่า “ทุกคนจงเอาดาบคาดเอวไว้” และทุกคนก็เอาดาบคาดเอวของตน และดาวิดก็เอาดาบคาดเอวด้วยและ มีคนติดตามดาวิดไปประมาณสี่ร้อยคน ส่วนอีกสองร้อยคนอยู่เฝ้ากองสัมภาระ
  • 14 แต่มีคนหนุ่มคนหนึ่งไปบอกนางอาบีกายิล ภรรยาของนาบาลว่า “ดูเถิด ดาวิดส่งผู้สื่อสารมาจากถิ่นทุรกันดาร เพื่อจะคำนับนายของเราและนายกลับดุว่าคนเหล่านั้น
  • 15 แต่คนเหล่านั้นเคยดีต่อเรามาก และเราไม่ต้องถูกทำร้ายอย่างใดเลย และไม่ขาดสิ่งไรตราบใดที่เราไปกับเขาเมื่อเราอยู่ใน ทุ่งนา
  • 16 เขาเป็นเหมือนกำแพงของเราทั้งกลางคืนและกลางวัน ตลอดเวลาที่เราเลี้ยงแกะอยู่กับเขา
  • 17 บัดนี้ขอท่านทราบเรื่องนี้และพิจารณา ว่าท่านควรจะกระทำประการใด เพราะเขาคงมุ่งร้ายต่อนายของเรา และต่อครัวเรือนทั้งสิ้นของนาย นายนั้นเป็นคนสามหาว ใครจะพูดด้วยก็ไม่ได้”
  • 18 แล้วนางอาบีกายิลก็รีบจัดขนมปังสองร้อยก้อน และเหล้าองุ่นสองถุงหนัง และแกะที่ทำเสร็จแล้วห้าตัว และข้าวคั่วห้าถัง และองุ่นแห้งร้อยช่อและขนมมะเดื่อสองร้อยแผ่นบรรทุกหลังลา
  • 19 นางก็สั่งชายหนุ่มของนางว่า “จงรีบไปก่อนเรา ดูเถิด เราจะตามเจ้าไป” แต่นางมิได้บอกนาบาลสามีของนาง
  • 20 เมื่อนางขี่ลาลงมา มีสันเขาบังฝ่ายนางอยู่ ดูเถิด ดาวิดกับคนของท่านก็ลงมาทางนาง และนางก็พบเขาทั้งหลายเข้า
  • 21 ดาวิดกล่าวไว้แล้วว่า “ข้าได้เฝ้าทุกสิ่งที่คนนี้มีอยู่ในถิ่นทุรกันดารเสียเปล่า ไม่มีสิ่งใดของเขาขาดไปเลย และเขายังกระทำความชั่วต่อข้าตอบแทนความดี
  • 22 ถ้าถึงพรุ่งนี้เช้าข้ายังปล่อยให้ชายสักคน หนึ่งในบรรดาที่เขามีอยู่นั้นเหลืออยู่ ก็ขอพระเจ้าทรงลงโทษดาวิด และยิ่งหนักกว่า”
  • 23 เมื่อนางอาบีกายิลเห็นดาวิดนางก็รีบลงจากหลังลา ซบหน้าลงต่อดาวิดกราบลงถึงดิน
  • 24 นางกราบลงที่เท้าของดาวิดกล่าวว่า “เจ้านายของดิฉันเจ้าข้า ความผิดนั้นอยู่ที่ดิฉันแต่ผู้เดียว ขอให้ผู้รับใช้ของท่านได้พูดให้ท่านฟัง ขอท่านได้โปรดฟังเสียงผู้รับใช้ของท่าน
  • 25 ขอเจ้านายของดิฉันอย่าได้เอาความกับนาบาลชาย สามหาวคนนี้เลย คือนาบาล แปลว่า โง่ เพราะเขาเป็นอย่างที่ชื่อของเขาบอก นาบาลเป็นชื่อของเขา และความโง่เขลาก็อยู่กับเขา แต่ดิฉันผู้รับใช้ของท่านหาได้ เห็นพวกคนหนุ่มของเจ้านายซึ่งท่านได้ใช้ไปนั้นไม่
  • 26 เหตุฉะนั้นเจ้านายของดิฉัน พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด และท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ด้วยว่าพระเจ้าทรงกระทำให้ท่านระงับ เสียจากความผิดที่ทำให้โลหิตตก และจากการแก้แค้นด้วยมือของท่านเอง เพราะฉะนั้นขอให้ศัตรูของท่าน และบรรดา ผู้ที่กระทำร้ายต่อเจ้านายของดิฉันจงเป็นอย่างนาบาล
  • 27 สิ่งเหล่านี้ซึ่งผู้รับใช้ของท่านได้นำมาให้เจ้านายของดิฉัน ขอมอบแก่บรรดาคนหนุ่มซึ่งติดตามเจ้านายของดิฉัน
  • 28 ได้โปรดอภัยความผิดของผู้รับใช้ของท่านเถิด เพราะพระเจ้าคงทรงกระทำให้เจ้านายของดิฉันเป็นพงศ์พันธุ์ที่มั่นคง ด้วยว่าเจ้านายของดิฉันทำสงครามอยู่ฝ่ายพระเจ้า ตราบใดที่ท่านมีชีวิตอยู่จะหาความชั่วที่ตัวท่านไม่ได้เลย
  • 29 แม้มีคนลุกขึ้นไล่ตามท่านและแสวงชีวิตของท่าน ชีวิตของเจ้านายของดิฉันจะผูกมัดอยู่กับกลุ่มชีวิตซึ่ง อยู่ในความพิทักษ์ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน แต่ชีวิตศัตรูของท่านจะถูกเหวี่ยงออกไปดั่งออกไปจากรังสลิง
  • 30 และเมื่อพระเจ้าจะทรงกระทำแก่เจ้านายของดิฉันแล้ว ตามบรรดาความดีซึ่งพระองค์ทรงลั่นวาจาเกี่ยวกับท่าน และทรงตั้งท่านไว้เป็นเจ้านายเหนืออิสราเอล
  • 31 เจ้านายของดิฉันจะไม่มีเหตุที่ต้องเศร้าใจหรือระกำใจ เพราะได้กระทำให้โลหิตเขาตกด้วยไม่มีสาเหตุหรือ เพราะเจ้านายของดิฉันทำการแก้แค้นเสียเอง และเมื่อพระเจ้าทรงกระทำความดีแก่เจ้านาย ของดิฉันแล้วก็ขอระลึกถึงผู้รับใช้ของท่านบ้าง”
  • 32 ดาวิดจึงกล่าวแก่อาบีกายิลว่า “สาธุการแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงใช้เจ้าให้มาพบเราในวันนี้
  • 33 ขอให้ความสุขุมของเจ้ารับพระพร และขอให้ตัวเจ้าได้รับพระพร เพราะเจ้าได้ป้องกันเราในวันนี้ให้พ้นจากความผิดที่ทำให้โลหิตตก และจากการแก้แค้นด้วยมือของเราเอง
  • 34 เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงระงับเราเสียจากการกระทำร้ายเจ้า ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ถ้าเจ้ามิได้รีบมาพบเราเสีย ถึงพรุ่งนี้เช้าคงไม่มีเหลือแก่นาบาลแม้แต่เพียงชายสัก คนหนึ่งเป็นแน่”
  • 35 แล้วดาวิดก็รับบรรดาสิ่งที่นางนำมาจากมือของนาง และดาวิดกล่าวแก่นางว่า “จงกลับไปยังบ้านเรือนของเจ้าด้วยสวัสดิภาพเถิด ดูซิเราได้ฟังเสียงของเจ้าแล้ว และเราก็ได้อนุโลมตามคำขอร้องของเจ้า”
  • 36 และอาบีกายิลก็กลับไปหานาบาล และนี่แน่ะ เขากำลังมีการเลี้ยงใหญ่ในบ้าน ของเขาอย่างการเลี้ยงของพระราชา และจิตใจของนาบาลก็ร่าเริงอยู่ เพราะเขามึนเมามาก นางจึงมิได้บอกอะไรให้เขาทราบจนเวลารุ่งเช้า
  • 37 และในเวลาเช้า เมื่อเหล้าองุ่นสร่างจากนาบาลไปแล้ว ภรรยาของเขาก็เล่าเหตุการณ์เหล่านี้ให้ฟัง และจิตใจของเขาก็ตายเสียภายใน และเขากลายเป็นดังก้อนหิน
  • 38 อยู่มาอีกประมาณสิบ วันพระเจ้าทรงประหารนาบาลและท่านก็สิ้นชีวิต
  • 39 เมื่อดาวิดได้ยินว่านาบาลสิ้นชีวิตแล้ว ท่านจึงว่า “สาธุการแด่พระเจ้าผู้ทรงแก้แค้นการเหยียดหยามที่ข้าพระองค์ได้รับจากมือของนาบาลและทรงป้องกันผู้รับใช้ของพระองค์ไม่ให้ทำความชั่ว พระเจ้าทรงตอบแทนการกระทำชั่วของนาบาลให้ตกบนศีรษะของเขาเอง” แล้วดาวิดก็ส่งคนไปสู่ขอ อาบีกายิลให้มาเป็นภรรยาของท่าน
  • 40 และเมื่อผู้รับใช้ของดาวิดมาถึงอาบีกายิลที่คารเมล เขาทั้งหลายก็พูดกับนางว่า “ดาวิดได้ให้เราทั้งหลายมานำเธอไปให้เป็นภรรยาของท่าน”
  • 41 และนางก็ลุกขึ้นซบหน้าลงถึงดินกล่าวว่า “ดูเถิด ผู้รับใช้ของท่านเป็นผู้รับใช้ที่จะล้าง เท้าให้แก่ผู้รับใช้แห่งเจ้านายของดิฉัน”
  • 42 อาบีกายิลก็รีบลุกขึ้นขี่ ลาตัวหนึ่งพร้อมกับสาวใช้ปรนนิบัติเธออีกห้าคน นางตามผู้สื่อข่าวของดาวิดไป และได้เป็นภรรยาของดาวิด
  • 43 ดาวิดยังได้รับนางอาหิโนอัม ชาวยิสเรเอลมาด้วย และทั้งสองก็เป็นภรรยาของท่าน
  • 44 ซาอูลได้ทรงยกมีคาลราชธิดาของพระองค์ ผู้เป็นภรรยาของดาวิด ให้แก่ปัลทีบุตรลาอิชชาวกัลลิมแล้ว
回到本卷目录 回到本版本目录 回到首页